ยิ่งแข่งยิ่งแพ้ : ทำไมบราซิลถึงไม่เก่งฟุตบอลเหมือนยุคอดีต

Nattanan Chankwang

ยิ่งแข่งยิ่งแพ้ : ทำไมบราซิลถึงไม่เก่งฟุตบอลเหมือนยุคอดีต image

บราซิลคือทีมฟุตบอลดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย แต่ทุกวันนี้ความน่ากลัวของพวกเขาไม่เหมือนเดิม เพราะในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา บราซิลคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่เคยเข้าสู่รอบชิงฟุตบอลโลก มา 5 ครั้งติดต่อกันแล้ว

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้บราซิลไม่ใช่ทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่งเหมือนยุคก่อน หาคำตอบได้ที่นี่ 

ความสวยงามคือฟุตบอลทีมชาติบราซิล

พูดถึงความสวยงามของกีฬาฟุตบอล ลวดลายของนักเตะทัพแซมบ้าย่อมมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพราะรากฐานเกมลูกหนังของประเทศแห่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ 

เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ที่มีฐานะยากจน ไม่ได้รับโอกาสให้เข้าถึงกีฬาฟุตบอลอย่างถูกต้องเหมือนเหล่าคนรวยในช่วงต้นศตวรรษ 1990s พวกเขาจึงสร้างวัฒนธรรมของตัวเองขึ้นมาบนท้องถนน นั่นคือการเล่นสตรีท ฟุตบอล

ทักษะลีลามากมายเริ่มต้นบนท้องถนนของประเทศบราซิล พวกเขาประยุกต์วัฒนธรรมด้านต่าง ๆ เข้ากับกีฬาฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น ลีลาการเลี้ยงที่ได้แรงบันดาลใจจากท่าเต้นแซมบ้า หรือท่ากระโดดยิงแบบจักรยานอากาศที่ได้แรงบันดาลใจจากท่าเตะในศาสตร์การต่อสู้คาโปเอลา 

ไม่นานนัก ชาวบราซิลก็เชื่อกันว่าฟุตบอลคือศิลปะอย่างหนึ่ง โดยมีเหล่านักเตะทำหน้าที่ศิลปินคอยสร้างสรรค์ความสวยงามบนสนาม กีฬาฟุตบอลฝังรากลึกลงไปในวัฒนธรรมของชาวบราซิล พวกเขามองว่าชาวบราซิลควรมีสไตล์การเล่นฟุตบอลเป็นของตัวเอง และแตกต่างออกไปจากชาติอื่นโดยชัดเจน 

Getty Images

ยกตัวอย่างเช่น ชาวบราซิลจะมีค่านิยมว่านักฟุตบอลที่เลี้ยงบอลได้ดี ทักษะเฉพาะสูง หรือยิงประตูสวย คือนักฟุตบอลที่เก่งและมีความสามารถ เพราะสำหรับชาวบราซิล ความสร้างสรรค์ และความโดดเด่น คือความสวยงามของกีฬาฟุตบอล

หลังเด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่ชื่อเปเล่พาฟุตบอลแซมบ้าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1958 นั่นคือครั้งแรกที่โลกได้เห็นว่าความสวยงามของกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างไร นี่คือจุดเริ่มต้นยุคทองของบราซิลเมื่อฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ได้กลายเป็นสไตล์การเล่นที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก 

เมื่อทัพเซเลเซาของเปเล่คว้าแชมป์โลกได้อีกสองสมัยในปี 1962 และ 1970 จึงพูดได้อย่างเต็มปากว่าความสวยงามของฟุตบอลเช่นนี้ คือความภาคภูมิใจของชาวบราซิล

เมื่อฟุตบอลยุโรปเปลี่ยนทุกอย่าง 

แม้เวลาล่วงเลยผ่านยุคสมัยของเปเล่ กีฬาฟุตบอลยังคงเป็นชีวิตของผู้คนในประเทศอยู่เสมอ เนื่องจากคุณภาพชีวิตของพวกเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่าไรนัก การได้มองความสวยงามของทีมชาติบราซิลที่ลงเล่นบนพื้นหญ้าย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวบราซิลใจชื่นได้เสมอ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแค่ชาวบราซิลเท่านั้นที่เฝ้าติดตามผลงานของทัพเซเลเซา

เมื่อยุค 90s มาถึง เหล่าสโมสรชื่อดังต่างมีเงินมากพอที่จะทุ่มซื้อสตาร์ดาวดังของทีมชาติบราซิล เพื่อให้พวกเขาบินข้ามน้ำข้ามทะเลย้ายมาเล่นที่ทวีปยุโรป ซึ่งมันก็เหมาะเจาะกับที่ทีมชาติบราซิลวนกลับมาถึงยุคทองของตัวเองอีกครั้ง 

สตาร์ดังอย่าง โรมาริโอ และ เบเบโต้ ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 ก่อนที่โรนัลโด้จะโชว์หนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดตลอดกาลของทัวร์นาเมนต์ พาบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002

Ronaldo
(Conmebol)

ไม่มีใครคาดคิดว่าการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ห้าจะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง แต่นับจากวันนั้น นักเตะชาวบราซิลต่างย้ายไปเล่นที่ยุโรปมากขึ้นและมากขึ้น ยิ่งด้วยค่าตอบแทนที่มหาศาลกว่าการเล่นในบ้านเกิดหลายเท่า นักเตะบางคนเริ่มมีเป้าหมายสูงสุดเป็นการย้ายไปเล่นที่ยุโรป แทนที่จะมีแค่การเล่นให้ทีมชาติบราซิลเหมือนก่อน

ศีกฟุตบอลโลก 2006 ชาวบราซิลหลายคนใจสลายเมื่อได้เห็นนักเตะยืนตามตำแหน่งอย่างเคร่งครัดในสนาม การเล่นตามแทคติกอย่างเป็นแบบแผนไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลทีมชาติบราซิล 

และสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไปคือความสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาด้วยทักษะเฉพาะตัว เช่น การเลี้ยงบอลแทบไม่มีให้เห็น ซึ่งหลังจากที่พวกเขาแพ้ทีมชาติฝรั่งเศสตกรอบ สื่อในประเทศได้บอกว่านี่คือจุดจบของฟุตบอลอันสวยงาม เพราะสไตล์แซมบ้าอันน่าหลงไหลไม่หลงเหลือให้เห็นในทีมชาติบราซิลอีกแล้ว

ปัญหาที่ยังไม่เจอทางออก

ยิ่งเวลาผ่านไป กระแสฟุตบอลยิ่งทำให้ทีมชาติบราซิลเริ่มสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะนักเตะจากบราซิลย้ายไปค้าแข้งที่ยุโรปมากขึ้นและมากขึ้น หลายคนอายุไม่ถึง 20 ปีก็ย้ายออกนอนกประเทศแล้ว นักเตะเหล่านั้นจึงถูกฝึกในแบบฉบับของยุโรป 

คือเน้นการเล่นตามแทคติก และความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นหลัก ส่วนการสร้างสรรค์เฉพาะตัวกลายเป็นเรื่องที่รองลงมา ชาวบราซิลรู้ดีว่าพวกเขาหยุดกระแสของโลกฟุตบอลที่เป็นไปในปัจจุบันไม่ได้ เพราะการย้อนกลับไปเล่นฟุตบอลแบบยุค 90s ที่เน้นทักษะเฉพาะตัวเป็นสำคัญไม่มีวันได้ผลอีกแล้ว 

Vinicius Jr of Brazil gets a yellow card at 2024 Copa America
Getty Images

แต่ขณะเดียวกัน บราซิลกลับไม่สามารถหาตัวตนในฟุตบอลยุคใหม่ได้ พวกเขาชอกช้ำอย่างต่อเนื่องในศึกฟุตบอลโลก พร้อมกับหลักฐานมากมายที่แสดงว่ามาตรฐานของทัพเซเลเซาอยู่ห่างจากชาติในยุโรปไปทุกที

แถมปัญหาการเมืองที่มีการนำสีเสื้อทีมชาติบราซิลมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ยิ่งทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายฟุตบอลทีมชาติ เมื่อบวกผลงานที่น่าผิดหวังในฟุตบอลโลกหลายครั้งติดต่อกัน ถ้ายังไม่มีจุดเปลี่ยนอะไรเกิดขึ้นในเร็ววัน ชาวบราซิลที่ยังศรัทธาในทีมชาติของพวกเขาคงเหลือน้อยลงไปทุกที 

การเสียตัวตนสามารถสรุปได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ทีมชาติบราซิลต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ และหากปัญหานี้ไม่หายไป ก็ดูไม่เหมือนว่าเราคงไม่ได้เห็นยุคทองของทีมชาติบราซิลอีกแล้ว 

รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Nattanan Chankwang

Nattanan Chankwang Photo

นักเขียนทั่วไปของ The Sporting News Thailand