คริสเตียโน โรนัลโด้ ในวัย 39 ปี ต้องผิดหวังกับการเล่นในระดับทีมชาติอีกครั้ง หลังทีมชาติโปรตุเกสของเขาจอดที่รอบ 8 ทีมในศึกยูโร 2024 ซึ่งเราน่าจะเห็นเขาลงเล่นในรายการนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
และอีกไม่นาน เจ้าตัวก็อาจจะตัดสินใจเลิกเล่นให้กับทีมชาติหรือว่าแขวนสตั๊ด คำถามก็คือ แล้วซูเปอร์สตาร์ที่แพสชั่นล้นเหลืออย่างเขาจะไปทำอะไรต่อกันนะ?
หากพูดว่าเป็นอาชีพเอเยนต์ส่วนตัวของนักเตะหลาย ๆ คนอาจจะขำ แต่จริง ๆ แล้วเขาเคยทำหน้าที่ตรงนี้มาแล้วด้วยการเป็นลูกมือของยอดกุนซืออย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการเจรจาดึง 2 นักเตะให้ย้ายมาเล่นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร วาทะการเจรจาต่อรองของ CR7 จะเด็ดแค่ไหน ตามอ่านต่อได้ที่นี่เลย
เอเยนต์ CR7
ราฟาเอล ดา ซิลวา อดีตฟูลแบ็คของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เล่าผ่าน UTD Podcast เอาไว้ว่า วันหนึ่งเจ้าตัวได้รับสายตรงจาก โรนัลโด้ สมัยที่เขาค้าแข้งกับปีศาจแดงหนแรก
ซึ่งเรื่องที่ CR7 โทรมาคุยกับ ราฟาเอล ก็ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล เพราะว่านี่คือการโทรมาชวนให้ไปเล่นด้วยกันที่โรงละครแห่งความฝันนั่นเอง เนื่องจาก เซอร์อเล็กซ์ อยากที่จะได้พี่น้อง ดา ซิลวา มาก ๆ ในตอนนั้น ก่อนที่จะให้นักเตะที่พูดภาษาโปรตุเกสอย่าง โรนัลโด้ โทรไปเจรจา
"เขา (โรนัลโด้) โทรหาผม ผมจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้เลย" ฟาบิโอ กล่าว
"โทรศัพท์ของผมมีเลขศูนย์เต็มไปหมดเลย (เบอร์ต่างประเทศ) ผมรับแล้วผมก็ถามว่า นี่ใครครับ ผมไม่เคยเห็นเบอร์แบบนี้มาก่อนเลย"
"เขาทักทายเป็นภาษาโปรตุเกส จากนั้นผมก็วิ่งไปที่รถบัสของผมแล้วบอกว่า โรนัลโด้ โทรมา! เขาโทรมาหาเรา!"
"เขาบอกกับผมว่า ที่นี่ฝนตก ที่แมนเชสเตอร์ฝนมันตก เหมือนกับที่คุณรู้นั่นแหละ ผมต้องการที่จะโทรมาบอกว่าให้พวกคุณ (ราฟาเอล, ฟาบิโอ) เซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซะ ผมรู้ว่าพวกคุณจะต้องชอบแน่ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริง"
จากนั้นในปี 2008 ราฟาเอล และ ฟาบิโอ ก็ได้ทำการเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริง ๆ ตามคำชักชวนของ โรนัลโด้ และได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการกวาดแชมป์ของปีศาจแดงในช่วงปลายยุคของ เซอร์อเล็กซ์
รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand