เกมฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันอังคารที่ 30 มกราคม เป็นการพบกันระหว่าง ไทย พบ อุซเบกิสถาน
ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กำลังได้รับคำชื่นชมอย่างมาก หลัง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาไม่แพ้ใคร และไม่เสียประตูเลยสักประตูเดียว
ในขณะที่ อุซเบกิสถาน ผลงานก็ดีไม่แพ้กัน เพราะ 10 นัดหลังพวกเขาไม่แพ้ให้ใคร และยังเสียประตูให้กับคู่แข่งน้อยมาก ๆ
นาทีที่ 18 อุซเบฯ ที่บุกใส่ ไทย ตลอด ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ออสตัน อูรูนอฟ เล่นชิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษได้เดี่ยว ๆ กับ ปฏิวัติ คำไหม แต่เจ้าตัวดันจับบอลลั่นออกไป ปล่อยโอกาสขึ้นนำหลุดลอยไป
นาทีที่ 37 ไทย มาเสียประตูจนได้ จากจังหวะที่ ดิยอร์ คอลมาทอฟ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ข้ามหัว ธีราทร บุญมาทัน จนถึง อาซิช เทอร์กันบาเอฟ ก่อนที่ เทอร์กันบาเอฟ จะได้ยิงลอดหว่างขาของ ปฏิวัติ เข้าไป อุซเบกิสถาน นำก่อน 1-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ตัดภาพมาที่ครึ่งหลัง นาทีที่ 58 ทีมชาติไทย ได้ประตูที่ต้องการอย่างรวดเร็ว จากการเล่นจังหวะชิ่งของ สุภโชค สารชาติ กับ ศุภชัย ใจเด็ด ก่อนที่ดาวเตะจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร จะได้ปั่นโค้ง ๆ เสียบเสาไกลเข้าไปแบบสุดสวย ทีมชาติไทย ตีเสมอ 1-1
ได้ประตูเสมอไม่ทันไร นาทีที่ 65 ไทย โดนยิงห่างไปอีกครั้งจากการยิงไกลของ อับโบสเบ็ค ฟายซุลลาเอฟ อุซเบฯ นำอีกครั้ง 2-1
สุดท้าย ไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก ทำให้ทีมชาติไทยของ มาซาทาดะ อิชิอิ ปิดฉาก เอเชียนคัพ 2023 ไว้ที่รอบ 16 ทีม ส่วน อุซเบกิสถาน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ไทย (4-2-3-1) : ปฏิวัติ คําไหม, นิโคลัส มิคเคลสัน, เอเลียส ดอเลาะ, พรรษา เหมวิบูลย์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ศุภชัย ใจเด็ด
อุซเบกิสถาน (4-4-1-1) : อุตคีร์ ยูซูพอฟ, อับดูคอดีร์ คูซานอฟ, อูมาร์เบ็ค เอชูมูรูดอฟ, รัชตัมจอน อเชอร์มาทอฟ, ฟาร์รุค เซย์ฟิเยฟ, ออสตัน อูรูนอฟ, ดิยอร์ คอลมาทอฟ, อาซิช เทอร์กันบาเอฟ, จาโลลิดดิน มาชาริพอฟ, โอดิลจอน คัมโรเบคอฟ, อับโบสเบ็ค ไฟซัลเลฟ
โปรแกรมถ่ายทอดสด ไทย พบ อุซเบกิสถาน
วันอังคารที่ 30 มกราคม 2024
เวลา | คู่แข่งขัน | ช่องถ่ายทอดสด |
18.30 น. | ไทย พบ อุซเบกิสถาน | PPTV HD 36, T Sports 7 |
ทีมชาติไทย
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของไทย
- 25 มกราคม 2024 เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 0-0 (เอเชียน คัพ 2023)
- 21 มกราคม 2024 เสมอ โอมาน 0-0 (เอเชียน คัพ 2023)
- 16 มกราคม 2024 ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 (เอเชียน คัพ 2023)
- 1 มกราคม 2024 แพ้ ญี่ปุ่น 0-5 (กระชับมิตร)
- 21 พฤศจิกายน 2023 ชนะ สิงคโปร์ 3-1 (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
วิเคราะห์ความพร้อมของไทย
ทีมชาติไทย ไม่มีผู้เล่นคนใดที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมรอบแบ่งกลุ่ม และที่สำคัญในเกมนี้จะได้ ธีราทร บุญมาทัน พ้นโทษแบนกลับมาประจำการตำแหน่งอีกครั้ง ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักคนอื่น ๆ ก็พร้อมลงสนามอย่างครบครัน
หลังจากมีการโรเตชั่นยกแผงในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย จะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามอีกครั้ง นำมาโดยคู่กลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ พร้อมด้วยบรรดาแนวรุกอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา และ ศุภชัย ใจเด็ด
นักเตะบาดเจ็บ : -
นักเตะติดโทษแบน : -
ทีมชาติอุซเบกิสถาน
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของอุซเบกิสถาน
- 23 มกราคม 2024 เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 (เอเชียน คัพ 2023)
- 18 มกราคม 2024 ชนะ อินเดีย 3-0 (เอเชียน คัพ 2023)
- 13 มกราคม 2024 เสมอ ซีเรีย 0-0 (เอเชียน คัพ 2023)
- 7 มกราคม 2024 ชนะ ปาเลสไตน์ 1-0 (กระชับมิตร)
- 21 พฤศจิกายน 2023 เสมอ อิหร่าน 2-2 (ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก)
วิเคราะห์ความพร้อมของอุซเบกิสถาน
ส่วนทีมชาติอุซเบกิสถาน ไม่มีผู้เล่นติดโทษแบนจากรอบแรก แต่พวกเขาจะไร้ อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ศูนย์หน้าจากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่บาดเจ็บหัวเข่า และหมดสิทธิ์ลงสนามตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ หลังต้องพักยาว 7-9 เดือน
ซึ่ง อุซเบกิสถาน จะมาในระบบแบ็คทรี โดยมี อูมาร์ เอชมูโรดอฟ, รุสตัม อาชูร์มาตอฟ และ อับดูโคดีร์ คูซานอฟ เป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่แนวรุกมี ออสตัน อูรูนอฟ, อซิซเบค ตูร์กุนโบเยฟ และดาวรุ่งอย่าง อับบอสเบค ไฟซูลลาเยฟ เป็นตัวอันตราย
นักเตะบาดเจ็บ : อิกอร์ เซอร์เกเยฟ
นักเตะติดโทษแบน : -
ผลงานในการพบกันของทั้งสองทีม
- 14 มิถุนายน 2022 อุซเบกิสถาน ชนะ ไทย 2-0 (เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก)
- 30 พฤษภาคม 2021 ไทย แพ้ อุซเบกิสถาน 1-4 (กระชับมิตร)
- 6 มิถุนายน 2017 อุซเบกิสถาน ชนะ ไทย 2-0 (กระชับมิตร)
- 22 ธันวาคม 2007 ไทย ชนะ อุซเบกิสถาน 3-2 (คิงส์คัพ 2007)
- 21 พฤศจิกายน 2003 ไทย ชนะ อุซเบกิสถาน 4-1 (เอเชียน คัพ 2004 รอบคัดเลือก)
ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand