เกมฟุตบอลเอฟเอ คัพ 2023-24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ประจำวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
หลังจากพ่ายแพ้มา 2 เกมติดต่อกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก ก็สามารถกลับมาคว้าชัยได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดบ้านอัด เอฟเวอร์ตัน 2-0 รั้งอันดับที่ 6 ของพรีเมียร์ลีก ตามหลังท็อปโฟร์อยู่ 8 คะแนน
ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งร่วงจากจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ไม่แพ้ใครมาแล้ว 9 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ ล่าสุดเรียกความมั่นใจมาได้ ด้วยการเปิดบ้านไล่ถล่ม สปาร์ต้า ปราก 6-1 ในศึกยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์
นาทีที่ 10 แมนยู ที่เริ่มเกมได้ดีกว่า ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลบอลมาให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้ยิงตามน้ำไปติดเซฟ ควีวีน เคลเลเฮอร์ แต่บอลยังมาเข้าทาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ซ้ำจ่อ ๆ ส่งเจ้าบ้านออกนำ 1-0
ต่อมานาทีที่ 35 แมนยู ได้โอกาสทองในการทำประตูหนีห่างจากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลบอลเข้ากลางมาให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้วิ่งมาจ่อ ๆ ในระยะไม่กี่หลา แต่บอลยังไปตรงตัวของ ควีวีน เคลเลเฮอร์
หลังจากพยายามอยู่นานนาทีที่ 38 ลิเวอร์พูล ก็สามารถส่งบอลไปสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จจาก วาตารุ เอ็นโด แต่ทว่าคนจ่ายบอลอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยังคงเท่าเดิม
ช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 ลิเวอร์พูล ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการลุยเข้าเขตโทษของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ก่อนไหลมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ ได้แปะคืนให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้ซัดเต็มข้อ บอลสุดท้ายไปโดน ค็อบบี ไมนู เข้าประตู
45 นาทีแรกทำท่าว่าจะจบด้วยผลเสมอ แต่แล้วนาทีที่ 45+2 ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูแซงนำ จากจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ยิงไปติดเซฟ อังเดร โอนาน่า ก่อนบอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงโล่ง ๆ พา ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 63 ดาร์วิน นูนเญซ ได้หลุดไปทางฝั่งขวาก่อนซัดเต็มข้อ แต่ อังเดร โอนาน่า ยังปิดเสาแรกเอาไว้ได้
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 แมนยู มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลุยขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนไหลบอลมาให้ตัวสำรอง แอนโทนี่ ได้กลับตัวยิงด้วยขวาบอลเสียบเสาไปอย่างเฉียบคม พา แมนยู ตามตีเสมอ 2-2 และจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
นาทีที่ 105 ลิเวอร์พูล ที่ดูเป็นรองกว่าในช่วงต่อเวลามาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ได้ซัดด้วยซ้ายข้างถนัดบริเวณหน้าเขตโทษ บอลไปแฉลบ คริสเตียน อิริคเซน เสียบมุมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล นำ 3-2
อย่างไรก็ตาม แมนยู ยังไม่ยอมแพ้มาได้ประตูตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จ่ายทะลุช่องมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซัดตามน้ำ ตีเสมอเป็น 3-3
เกมทำท่าว่าจะต้องจบลงด้วยการดวลจุดโทษ แต่แล้วนาทีที่ 120+2 แมนยู มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ไหลบอลให้ อาหมัด ดิยัลโล่ ได้ซัดด้วยซ้ายเสียมุมไปอย่างสวยงาม และกลายเป็นประตูชัยให้ แมนยู เปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล ไปแบบสุดมันส์ 4-3
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนยู (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า – ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, อารอน วาน-บิสซาก้า – ค็อบบี ไมนู, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - ราสมุส ฮอยลุนด์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, จาเรลล์ ควอนซาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยซ์ ดิอาซ
โปรแกรมถ่ายทอดสด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2024
เวลา | คู่แข่งขัน | ช่องถ่ายทอดสด |
22.30 น. | แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล | beIN SPORTS 3 |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของแมนยู
- 9 มีนาคม 2024 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 3 มีนาคม 2024 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
- 28 กุมภาพันธ์ 2024 ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (เอฟเอ คัพ)
- 24 กุมภาพันธ์ 2024 แพ้ ฟูแลม 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
- 18 กุมภาพันธ์ 2024 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
วิเคราะห์ความพร้อมของแมนยู
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับข่าวดีก่อนเกมแดงเดือด เมื่อ ราสมุส ฮอยลุนด์ กลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมได้อีกครั้ง และมีโอกาสลงสนามในเกมนี้ เช่นเดียวกับ 2 แนวรับอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ อารอน วาน-บิสซากา แต่ทั้งหมดยังคงต้อรอเช็คความฟิตก่อนเกม
อย่างไรก็ตาม ฮอยลุนด์ ที่ร้างสนามไปนานอาจจะต้องเริ่มต้นที่ข้างสนามไปก่อน และปล่อยให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คอยสนับสนุนเกมรุก
นักเตะบาดเจ็บ : ไทเรลล์ มาลาเซีย, เมสัน เมาท์, อองโตนี มาร์กซิยาล, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, ราสมุส ฮอยลุนด์ (เช็คฟิต), แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เช็คฟิต), อารอน วาน-บิสซากา (เช็คฟิต)
นักเตะติดโทษแบน : -
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
- 14 มีนาคม 2024 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 6-1 (ยูโรป้า ลีก)
- 10 มีนาคม 2024 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
- 7 มีนาคม 2024 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 5-1 (ยูโรป้า ลีก)
- 2 มีนาคม 2024 ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 28 กุมภาพันธ์ 2024 ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-0 (เอฟเอ คัพ)
วิเคราะห์ความพร้อมของลิเวอร์พูล
ในเกมยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ต้องเสีย บ็อบบี คลาร์ก ไปจากอาการบาดเจ็บอีกหนึ่งราย ขณะที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่ไม่มีชื่อตลอด 2 เกมหลังสุดยังคงต้องรอเช็คความพร้อมก่อนเกมกันอีกครั้ง
หาก อิบราฮิม่า โกนาเต้ ยังไม่พร้อมลงสนาม ก็จะเป็น โจ โกเมซ ที่ได้จับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนแนวรุกจัดเต็มนำมาโดย หลุยซ์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เตรียมกลับมาออกสตาร์ทอีกครั้ง
นักเตะบาดเจ็บ : สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, ดิโอโก้ โจต้า, เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, บ็อบบี คลาร์ก, อิบราฮิม่า โกนาเต้ (เช็คฟิต)
นักเตะติดโทษแบน : -
ผลงานในการพบกันของทั้งสองทีม
- 17 ธันวาคม 2023 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนยู 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 5 มีนาคม 2023 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนยู 7-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 23 สิงหาคม 2022 แมนยู ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
- 20 เมษายน 2022 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนยู 4-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 24 ตุลาคม 2021 แมนยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5 (พรีเมียร์ลีก)
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand