ผลบอลเอฟเอคัพ : หงส์แรงท้ายเกมบุกล้มอาร์เซนอลถึงบ้าน 2-0 ทะลุเข้ารอบ 4

Francis Phumin

•

ผลบอลเอฟเอคัพ : หงส์แรงท้ายเกมบุกล้มอาร์เซนอลถึงบ้าน 2-0 ทะลุเข้ารอบ 4 image

เกมฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบที่ 3 ประจำวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคมนี้ เป็นการพบกันระหว่าง อาร์เซนอล พบ ลิเวอร์พูล

เจ้าบ้าน อาร์เซนอล ส่งท้ายปี 2023 ได้ไม่สวยนัก หลังแพ้มา 2 เกมติดต่อกัน ทำให้ปัจจุบันพวกเขาร่วงมาอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง และมีแต้มตามจ่าฝูง 5 คะแนน

ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนล่าสุดทะยานขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกแบบเดี่ยว ๆ ด้วยการมี 45 คะแนน

เกมครึ่งแรกเล่นกันอย่างเกร็งแต่เป็นเจ้าบ้านพับสนามบุกได้โอกาสยิง 15 ครั้งแต่ทำไรไม่ได้ เสมอกัน 45 นาทีแรก 0-0

ต่อกันครึ่งหลังนาทีที่ 53 เป็นทีมเยือนได้ทักทายก่อนจาก นูนเญซ เลี้ยงตัดจากซ้ายแล้วยิงแต่บอลปลิ้นออกเสาไกลไป

ถึงคราวปืนใหญ่ได้ลุ้นบ้าง นาที 56 เล่นฟรีคิกลูกสูตรก่อนจบด้วย ซากา ยิงท่ายากบอลข้ามคาน

ยังไม่หนำใจ นาทีที่ 60 อาร์เซนอลเกือบได้เฮแล้วเมื่อ เนลเซน ได้เปิดย้อยๆ บอลกำลังจะฮุคเช็ดใต้คานแต่ อลิสซง โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไปอย่างยอดเยี่ยม

นาทืที่ 69 ลิเวอร์พูล ได้สวนเร็วเป็นนูนเญซหลุดเดี่ยวมาจากทางซ้ายรอใส่สกอร์ได้แต่ใจดีไหลให้ ดิอาซ ที่เสาไกลแต่ดันจ่ายเบี้ยวเพื่อนหลังหักดังกร๊อบ!

ทีมเยือนยังบุกสุดมัน นาที 76 ดิอาซ ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อแต่ แรมส์เดล ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังได้แบบหล่อๆ จังหวะต่อมาเป็นเตะมุม เทรนต์ เปิดไปเสาไกลเข้าหัว โชต้า แต่โหม่งชนเต็มคานสุดเซ็ง

GOAL!! ลิเวอร์พูลนำ 1-0 นาทีที่ 80 เทรนต์ เปิดฟรีคิกระยะไม่ไกลจากมุมธงส่งบอลลอยเข้าหัว ยาคุป คิวีวอร์ โหม่งเช็ดเข้าประตูตัวเองส่งแฟนทีมเยือนเฮลั่นสนาม

นาที 89 แฟนหงส์ใจหาย โอเดการ์ด เปิดฟรีคิกเข้ามาก่อนเป็น นูนเญซ โหม่งสกัดได้อย่างหวาดเสียว

GOAL! หงส์แดงเช็คบิลนาที 90+4 สวนกลับขึ้นมา 3 คน นูนเญซ ควบมาทางซ้ายแล้วฝากต่อให้ โชต้า ก่อนปาดให้ ดิอาซ ยิงโล่งๆ เสยตาข่ายชนะ 2-0

จบเกมลิเวอร์พูลบุกชนะอาร์เซนอล 2-0 ทะลุเข้ารอบ 4 เอฟเอคัพ โดยการจับสลากประกบคู่รอบต่อไปจะมีขึ้นช่วงก่อนคิกออฟเกมคู่ระหว่าง วีแกน เปิดบ้านพบ แมนฯ ยูไนเต็ด

รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม

อาร์เซนอล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล (GK) - เบน ไวต์, ซาลีบา, กาเบรียล มากัลเยส, ยาคุป คิวีวอร์ - โอเดการ์ด, จอร์จินโญ, ดีแคลน ไรซ์ - บูกาโย ซากา, ไค ฮาแวทซ์, รีส เนลเซน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ (GK) - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, จาเรลล์ ควอนซาห์, โจ โกเมซ - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ - หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์

โปรแกรมถ่ายทอดสด อาร์เซนอล พบ ลิเวอร์พูล

วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2024

เวลา	คู่แข่งขัน	ช่องถ่ายทอดสด
23.30 น.	อาร์เซนอล พบ ลิเวอร์พูล	beIN SPORTS 3

อาร์เซนอล

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของอาร์เซนอล

31 ธันวาคม 2023 แพ้ ฟูแลม 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
28 ธันวาคม 2023 แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
23 ธันวาคม 2023 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
17 ธันวาคม 2023 ชนะ ไบรท์ตัน 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
12 ธันวาคม 2023 เสมอ พีเอสวี 1-1 (แชมเปียนส์ ลีก)

วิเคราะห์ความพร้อมของอาร์เซนอล

หลังจากสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงเล่นในเกมที่ผ่านมา ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ก็ต้องบินไปรับใช้ทีมชาติญี่ปุ่นในศึกเอเชียน คัพ เช่นเดียวกับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี ที่ติดทีมชาอียิปต์ชุดสู้ศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ นอกจากนี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็น่าจะยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้

เมื่อไม่มี โทมิยาสุ และ ซินเชนโก้ จะทำให้ ยาคุบ คิวิออร์ ได้โอกาสออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คซ้าย ขณะที่ในแดนกลางยังคงเป็นการประสานงานของ ไค ฮาแวร์ตซ์, ดีแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด โดยมี บูกาโย ซาก้า, กาเบรียล เชซุส และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เป็น 3 แนวรุกเช่นเดิม

นักเตะบาดเจ็บ : ยูเลี่ยน ทิมเบอร์, ฟาบิโอ วิเอร่า, โธมัส ปาร์เตย์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

นักเตะติดโทษแบน : -

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล

1 มกราคม 2024 ชนะ นิวคาสเซิล 4-2 (พรีเมียร์ลีก)
26 ธันวาคม 2023 ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
23 ธันวาคม 2023 เสมอ อาร์เซนอล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
20 ธันวาคม 2023 ชนะ เวสต์แฮม 5-1 (คาราบาว คัพ)
17 ธันวาคม 2023 เสมอ แมนยู 0-0 (พรีเมียร์ลีก)

วิเคราะห์ความพร้อมของลิเวอร์พูล

ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล ก็ต้องเสียนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นและอียิปต์ไปด้วยเช่นกัน ทั้งในรายของ วาตารุ เอ็นโด ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนที่ผ่านมา รวมไปถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม นอกจากนี้ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก็จะหายไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

การขาดหายไปของ เอ็นโด จะทำให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กลับไปยืนเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 6 อีกครั้ง และปล่อยให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กับ เคอร์ติส โจนส์ คอยร่วมกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลัง ดิโอโก้ โจต้า, โคดี้ กักโป และ หลุยส์ ดิอาซ

นักเตะบาดเจ็บ : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ อัลคันทารา, สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, คอสตาส ซิมิคาส, โดมินิค โซบอสซ์ไล

นักเตะติดโทษแบน : -