เกมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 25 ประจำวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ เป็นการพบกันระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล
ผู้มาเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล กลับมาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้ง หลังเปิดบ้านชนะ เบิร์นลีย์ 3-1 กลับไปนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกด้วยการมี 54 คะแนน นำหน้า แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซนอล อยู่ 2 คะแนน
ส่วนทางเจ้าบ้านอย่าง เบรนท์ฟอร์ด กลับมาคว้าชัยได้อีกครั้ง หลังบุกไปชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 กระโดดขึ้นมารั้งอันดับที่ 14 ของตาราง ด้วยการมี 25 คะแนน
นาทีที่ 10 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทำประตูถึง 2 ครั้งติด ๆ กัน จากการสอดมายิงของ คอเนอร์ แบรดลีย์ และลูกซ้ำของ ดิโอโก้ โจต้า แต่ทั้ง 2 จังหวะยังคงไม่ผ่านมือของ มาร์ค เฟล็คเคน
ต่อมานาทีที่ 15 เบรนท์ฟอร์ด ได้ตอบโต้บ้าง จากการตวัดยิงตามน้ำของ อิวาน โทนีย์ แต่บอลหลุดกรอบออกไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านัั้น
หลังจากเฉียดไปเฉียดมาอยู่นาน นาทีที่ 35 ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูที่ต้องการ จากจังหวะเคลีย์บอลของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค มาเข้าทาง ดิโอโก้ โจต้า โหม่งชงต่อมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ ได้หลุดไปดวลกับ มาร์ค เฟล็คเคน ก่อนชิพข้ามหัวไปอย่างเหนือชั้น ส่ง ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมานาทีที่ 55 ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ตัวสำรอง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลมาให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้แตะหนีแนวรับก่อนจะจิ้มบอลเข้าประตูไปแบบนิ่ม ๆ
ต่อมานาทีที่ 68 ผู้มาเยือนมาได้ประตูที่ 3 จากการเปิดบอลยาวของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ มาเข้าทาง โคดี้ กัคโป โหม่งเช็ดต่อมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หลุดไปดวลกับแนวรับ ก่อนโยกหลอกแล้วซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างเฉียบคม
แต่อีกเพียงแค่ 7 นาทีต่อมา เบรนท์ฟอร์ด มาได้ประตูตีไข่แตก จากการซ้ำจ่อ ๆ ของ อิวาน โทนีย์ พา เบรนท์ฟอร์ด กลับคืนสู่เกม ไล่มา 1-3
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 86 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะที่ นาธาน คอลลินส์ สกัดบอลพลาด มาเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ ก่อนไหลต่อให้ โคดี้ กัคโป ได้หลุดไปยิงโล่ง ๆ ซัดประตูตอกฝาโลงให้ "หงส์แดง"
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 57 คะแนน นำจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ส่วนทาง เบรนท์ฟอร์ด หยุดที่ 25 คะแนน รั้งอันดับ 14 เช่นเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เบรนท์ฟอร์ด (3-5-2) : มาร์ค เฟล็คเคน – คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์, นาธาน คอลลินส์, เบน มี - แมดส์ โรเออร์สเลฟ, วิตาลี ยาเนลท์, คริสเตียน นอร์การ์ด, มาเธียส แยนเซ่น, เซร์คิโอ เรกีลอน - นีล โมเปย์, อิวาน โทนีย์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ - ดิโอโก้ โจต้า, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
โปรแกรมถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล
วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2024
เวลา | คู่แข่งขัน | ช่องถ่ายทอดสด |
19.30 น. | เบรนท์ฟอร์ด พบ ลิเวอร์พูล | True Premier Football 1, True Premier Football 2 |
เบรนท์ฟอร์ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของเบรนท์ฟอร์ด
- 10 กุมภาพันธ์ 2024 ชนะ วูล์ฟ 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 5 กุมภาพันธ์ 2024 แพ้ สเปอร์ส 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
- 31 มกราคม 2024 แพ้ สเปอร์ส 2-3 (พรีเมียร์ลีก)
- 20 มกราคม 2024 ชนะ ฟอเรสต์ 3-2 (พรีเมียร์ลีก)
- 16 มกราคม 2024 แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-3 (เอฟเอ คัพ)
วิเคราะห์ความพร้อมเบรนท์ฟอร์ด
นอกจากผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ เบรนท์ฟอร์ด ต้องรอเช็คความพร้อมของ มาเธียส แยนเซ่น หลังมีอาการบาดเจ็บในเกมที่ผ่านมา แต่ข่าวดีคือเกมนี้ โยอัน วิสซ่า และ แฟรงค์ ออนเยก้า จะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติ
ซึ่งหากว่าเกมนี้ มาเธียส แยนเซ่น ยังไม่ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ คาดว่าจะเป็น เยฮอร์ ยาร์โมลยุก ได้ลงเล่นแทนในแดนกลาง เพื่อประงานร่วมกับ วิตาลี ยาเนลท์ และ คริสเตียน นอร์การ์ด ส่วน 2 กองหน้าเชื่อว่าจะยังเป็นคู่ของ นีล โมเปย์ กับ อิวาน โทนีย์ ต่อไป โดยมี โยอัน วิสซ่า เป็นตัวเปลี่ยนเกม
นักเตะบาดเจ็บ : ริโก้ เฮนรี่, เควิน เชด, แอรอน ฮิคกี้, ไบรอัน เอ็มเบอโม่, มาเธียส แยนเซ่น (เช็คฟิต)
นักเตะติดโทษแบน : -
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
- 10 กุมภาพันธ์ 2024 ชนะ เบิร์นลีย์ 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
- 4 กุมภาพันธ์ 2024 แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
- 31 มกราคม 2024 ชนะ เชลซี 4-1 (พรีเมียร์ลีก)
- 28 มกราคม 2024 ชนะ นอริช ซิตี้ 5-2 (เอฟเอ คัพ)
- 24 มกราคม 2024 เสมอ ฟูแลม 1-1 (คาราบาว คัพ)
วิเคราะห์ความพร้อมของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาลงซ้อมได้อีกครั้ง และน่าจะมีส่วนร่วมกับเกมนี้ทันที ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ ก็จะพ้นโทษแบนกลับมาเช่นกัน
เมื่อไม่มี เทรนต์ คาดว่าจะเป็นเจ้าหนู คอเนอร์ แบรดลีย์ ที่เตรียมกลับมาประจำการตำแหน่งอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจครอบครัว ส่วนแดนกลางจะนำมาโดย วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ เคอร์ติส โจนส์ โดยมี ดิโอโก้ โจต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ ออกสตาร์ทเป็น 3 แนวรุก
นักเตะบาดเจ็บ : สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, โดมินิค โซบอสซ์ไล, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เช็คฟิต)
นักเตะติดโทษแบน : -
ผลงานในการพบกันของทั้งสองทีม
- 12 พฤศจิกายน 2023 ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 6 พฤษภาคม 2023 ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 3 มกราคม 2023 เบรนท์ฟอร์ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
- 16 มกราคม 2022 ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
- 26 กันยายน 2021 เบรนท์ฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 3-3 (พรีเมียร์ลีก)
ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand