ก่อนเคสเอ็นโซ : ครั้งหนึ่ง โลร็องต์ บล็องก์ เคยเหยียดแข้งเยาวชนเพราะไม่ใช่ฝรั่งเศสแท้

Guy Tanapon

ก่อนเคสเอ็นโซ : ครั้งหนึ่ง โลร็องต์ บล็องก์ เคยเหยียดแข้งเยาวชนเพราะไม่ใช่ฝรั่งเศสแท้ image

กำลังเป็นประเด็นร้อนที่น่าจับตามองในตอนนี้เลยสำหรับกรณีของ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนตินาของ เชลซี และเพื่อน ๆ ชุดแชมป์โคปา อเมริกา 2024 ของเขาที่ร่วมกันร้องเพลงเหยียดเชื้อชาติแข้งฝรั่งเศสบนรถบัส

แม้ว่าตัวนักเตะเองจะออกมาขอโทษแล้ว แต่นักเตะฝรั่งเศสหลาย ๆ คนต่างก็ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา โดยเฉพาะนักเตะฝรั่งเศสของ เชลซี ที่ล่าสุดเลิกติดตาม เอ็นโซ ในอินสตาแกรมไปแล้ว

อย่างไรก็ดี เรื่องการเหยียดเชื้อชาติที่มีต่อนักเตะฝรั่งเศสไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นกับเคสของ เอ็นโซ แต่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว แถมยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากคนชาติเดียวกันด้วยกับเคสของ โลร็องต์ บล็องก์ อดีตกุนซือของทัพตราไก่

หากอยากรู้ว่าเรื่องราวของ โลร็องต์ บล็องก์ กับการเหยียดเชื้อชาติคนในประเทศเดียวกันจะเป็นอย่างไร ตามอ่านต่อได้ที่นี่เลย

ไม่ใช่ฝรั่งเศสแท้

โดยปกติแล้วในประเทศฝรั่งเศสนั้นมีปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวและเหยียดเชื้อชาติกันเองมาอย่างยาวนานแล้ว เพราะในประเทศมีผู้อพยพที่มีเชื้อสายแอฟริกาและอาหรับอพยพเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้คนฝรั่งเศสแท้ ๆ บางส่วนมองผู้อพยพเป็นคนนอก หรือพูดง่าย ๆ ก็คือฝรั่งเศสเก๊นั่นเอง

ตัดภาพมาที่วงการฟุตบอลฝรั่งเศสกันบ้าง ในปี 2011 โลร็องต์ บล็องก์ อดีตปราการหลังชาวฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังทำหน้าที่เป็นกุนซือของทีมชาติฝรั่งเศสอยู่ในตอนนั้นถูกกระทรวงกีฬาของฝรั่งเศสตั้งข้อกล่าวหาว่าเขาทำการเหยียดเชื้อชาติแข้งฝรั่งเศส

ในปีเดียวกันนั้น บล็องก์ กับทีมงานของเขาในทัพตราไก่ได้มีการพูดคุยกันว่าพวกเขาต้องการที่จะกำหนดโควตาของผู้เล่นที่มีเชื้อสายแอฟริกันในระบบเยาวชนของทีมชาติฝรั่งเศสให้มีน้อยลง เนื่องจากที่ผ่านมา นักเตะส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะผิวสีที่มีเชื้อสายแอฟริกันหลุดเข้ามาในระบบซะเยอะ ในขณะที่คนฝรั่งเศสแท้ ๆ ก็เริ่มมีน้อยลง

อดีตเฮ้ดโค้ชของฝรั่งเศสต้องการที่จะจำกัดโควต้านักเตะเยาวชนที่มีเชื้อสายแอฟริกันและเชื้อสายอื่น ๆ เอาไว้ที่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และอีก 70 เปอร์เซ็นต์จะเปิดโอกาสให้กับคนฝรั่งเศสจริง ๆ ทำให้สุดท้ายแล้ว บล็องก์ ถูกมองว่าเหยียดเชื้อชาติและเลือกปฏิบัติกับคนที่มีเชื้อชาติอื่นนอกจากฝรั่งเศส

แต่ถึงกระนั้น สุดท้ายแล้ว บล็องก์ ก็ไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดหรือได้รับบทลงโทษแต่อย่างใด ก่อนที่เขาจะออกมากล่าวขอโทษและบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเหยียดเชื้อชาติแบบที่ใคร ๆ พูดถึงกัน

และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าในฝรั่งเศสมีการเหยียดเชื้อชาติกันเองมาตั้งนานแล้ว โดยที่มันลามมาถึงในวงการลูกหนังด้วย ซึ่งตัวของ คาริม เบนเซมา กองหน้าจอมเก๋าชาวฝรั่งเศสที่มีเชื้อสายอาหรับเคยกล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ถ้าผมยิงประตูได้ ผมก็เป็นคนฝรั่งเศส ถ้าทำไม่ได้ ผมก็เป็นคนอาหรับ”

ในขณะที่ฟุตบอลโลก 2018 ที่ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปีนั้น แม้ว่าคนฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะร่วมยินดีกับเหล่านักเตะในชุดนั้น แต่ก็มีผู้คนอีกส่วนหนึ่งที่มองว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจตรงไหนเลย เพราะ 87 เปอร์เซ็นต์ของนักเตะในทีมชุดนั้นมีต้นกำเนิดมาจากการเป็นผู้อพยพนั่นเอง ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในทีมนั้นมีนักเตะผิวสีเยอะกว่านักเตะผิวขาว

ทั้งนี้ การเหยียดสีผิวหรือว่าเชื้อชาติจะยังคงไม่หมดไปจากวงการลูกหนังในเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ เพราะเราจะเห็นได้เลยว่าในปัจจุบันมีนักเตะที่ถูกเหยียดจากแฟนบอลและนักเตะด้วยกันเองอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่เหตุการณ์แบบนี้จะตรวจสอบกันค่อนข้างยาก ไม่เหมือนกับเคสล่าสุดของ เอ็นโซ เฟร์นาเดซ ที่ดูจะได้รับบทลงโทษหนักเพราะดันมีคลิปหลุดออกมาเป็นหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด

รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Guy Tanapon

Guy Tanapon Photo

 นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักการดูฟุตบอล, ดูหนัง, ฟังเพลง และตีดอท