หลายคนที่ได้รับชมเกมฟุตบอล ยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง ทีมชาติออสเตรีย พบกับ ทีมชาติตุรกี เชื่อเหลือเกินว่าเกมนี้ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก จะต้องเอาชนะ ทัพพระจันทร์เสี้ยวดาว ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้าสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการคว้าแชมป์กลุ่ม D
แต่หารู้ไม่ว่าเกมนี้ผลดันไม่ออกมาเป็นอย่างนั้นเพราะ ทัพวิหกเพลิง ดันไปพลาดท่าพ่ายด้วยสกอร์ 2-1 ซึ่งแน่นอนว่าชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ทีมชาติตรุกี คือ “วินเชนโซ่ มอนเตลล่า” กุนซือชาวอิตาลีที่พึ่งมารับงานคุมทีมเมื่อไม่นานมานี้เอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า เคยอุ่นเครื่องพ่าย ราล์ฟ รังนิก ด้วยสกอร์ 6-1 แต่เขาใช้วิธีการแก้เกมยังไงถึงได้พา ทีมชาติตุรกี กลับมาเอาชนะ ทีมชาติออสเตรีย ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันได้ที่นี่
เพรสมาก็แก้เพรส
ย้อนกลับไปปี 2023 วินเชนโซ่ มอนเตลล่า กุนซือชาวอิตาลีพึ่งเข้ามารับงานคุม ทีมชาติตุรกี เมื่อไม่นานมานี้เอง เขาคุมทีมเพียงเก้าเดือนและทั้งหมด 12 เกม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยพาทีมไปอุ่นเครื่องก่อนที่จะทำการแข่งขัน ยูโร 2024 กับ ทีมชาติออสเตรีย แต่ก็โดน ราล์ฟ รังนิก สอนเชิงยับเยิน 6-1
โดย วินเชนโซ่ มอนเตลล่า รู้อยู่แล้วว่า ราล์ฟ รังนิก ยึดมั่นในวิธีการเดิมของตนเองนั่นคือ “การเพรสซิ่ง” ที่เขาใช้มันตั้งแต่สมัยคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนมาถึง ทีมชาติออสเตรีย
แน่นอนว่าเขารับรู้ถึงเรื่องนี้จึงทำการยกเลิกแผนการเล่นเดิมที่พวกเขาเคยใช้ 4-2-3-1 เปลี่ยนเป็นแผน 3-4-3 แทน ในเกมที่ดวลกับ ทีมออสเตรีย ซึ่งใช้ อาร์ดา กูเลอร์ ทําหน้าที่เหมือน False 9 คอยดึงเกมรับของคู่แข่งลงมาเพื่อเปิดพื้นที่ให้ปีกอย่าง เคนัน ยิลดิซ และ บาริส อัลเปอร์ ยิลมาซ มีพื้นที่เล่นมากขึ้น
นอกจากนี้พวกเขายังสลับวิธีการเล่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางบอลยาวของผู้รักษาประตู รวมถึงการใช้กองหลังเปิดบอลข้ามฝากเพื่อหลีกเลี่ยงในการเล่นกดดันสูงของ ราล์ฟ รังนิก แต่แผนที่ว่ามาข้างต้นมันยังไม่เพียงพอต่อการชนะ
ด้วยเหตุนี้ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า จึงให้ลูกทีมซ้อมลูกตั้งเตะไม่ว่าจะเป็นฟรีคิกหรือเตะมุม ซึ่งนั่นทำให้เราได้เห็นสองประตูชัยของ ทีมชาติตุรกี จากลูกเตะมุมทั้งสองลูกนั่นเอง
รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand