FM23 เล่นทีมไหนดี? รวมสโมสรสุดท้าทายใน Football Manager ภาคใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด

Nuttanon Chankwang

FM23 เล่นทีมไหนดี? รวมสโมสรสุดท้าทายใน Football Manager ภาคใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด image

ในที่สุดเกมผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดอย่าง ฟุตบอล เมเนเจอร์ ก็ได้ออกภาคใหม่ในปี 2023 มาให้ทุกคนได้เล่นกันแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

แน่นอนว่าเหล่าคนที่เล่นเกมนี้กันส่วนใหญ่ก็จะมุ่งไปที่การคุมทีมที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด หรือปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพราะนอกจากจะมีนักเตะที่แข็งแกร่งอยู่ในทีมแล้ว พวกเขาก็มีเงินให้เราจับจ่ายใช้สอยอย่างมากในแต่ละฤดูกาลอีกด้วย

แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เหล่าคอเกมจะหาความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับตัวเองโดยการไปคุมทีมในลีกล่าง ๆ หรือไปคุมทีมที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักให้กลายมาเป็นทีมใหญ่ที่คว้าแชมป์มากมายในท้ายที่สุด

ซึ่งต้องบอกได้เลยว่านี่จึงเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ เลย เพราะการเล่นแต่ทีมใหญ่อย่างเดียวนั้นบางทีมันก็ทำให้เราเบื่อและหมดความท้าทายได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าลองเปลี่ยนความท้าทายมาที่ทีมเล็กหรือทีมที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง มันอาจทำให้คุณเสียเวลาในการเล่นเกมมากขึ้น แต่มันก็จะมาพร้อมกับความสำเร็จที่ไม่ทำให้เราเบื่อง่าย ๆ อย่างแน่นอน

และนี่คือ 7 ทีมที่ทาง Sporting News อยากจะแนะนำเหล่าคอเกมทั้งหลายให้มาลองหาความท้าทายจากทีมเหล่านี้ดู ไม่แน่ว่ามันอาจจะสนุกกว่าทีมที่เราเคยคุมมาเลยก็ได้

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

งบประมาณของทีม : 70 ล้านปอนด์ (2,952 ล้านบาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : 193,000 ปอนด์ (8,148,788 บาท) ต่อสัปดาห์

ด้วยงบประมาณเริ่มต้นของทีมที่มากเป็นอันดับสองของพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงแกนหลักของทีมที่มีแต่นักเตะอายุน้อยที่มีความสามารถ ไบรท์ตัน จึงเป็นหนึ่งในทีมที่น่าสนใจมากหากเราอยากจะลองหาทีมใหม่ ๆ คุมใน FM 2023

เริ่มเกมมาคุณจะมีนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่ในทีม 4 คนอย่าง อเล็กซิส มัก อัลลิสเตอร์ (Alexis Mac Allister), ทาริก แลมป์ตีย์ (Tariq Lamptey), มอยเซส ไกเซโด้ (Moises Caicedo) และ โรเบิร์ต ซานเชซ (Robert Sanchez) ที่สามารถกลายเป็นแกนหลักของทีมคุณได้ในระยะยาว และงบประมาณที่เราได้รับมานั้นจะเพียงพอต่อการเสริมทีมของเราอย่างแน่นอน

ส่วนทางด้านของ อดัม ลัลลานา (Adam Lallana), โจเอล เวลท์มัน (Joel Veltman) และ เลอันโดร ทรอสซาร์  (Leandro Trossard) จะหมดสัญญาในปี 2023 หากเราไม่ได้วางแผนที่จะต่อสัญญานักเตะเหล่านี้ ก็ควรจะขายพวกเขาออกไปให้เร็วที่สุด 

แต่แนะนำว่าควรจะต่อสัญญา ทรอสซาร์ มาก ๆ เพราะเขาจะช่วยทีมเราได้เป็นอย่างมากจริง ๆ

ฮัมบูร์ก เอสเฟา

งบประมาณของทีม : 2,586,390 ปอนด์ (109,216,495 บาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : 217,640 ปอนด์ (9,190,756 บาท) ต่อสัปดาห์

หากเรากำลังมองหาทีมยักษ์หลับในวงการฟุตบอล ฮัมบูร์ก ดูจะเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุด โดยพวกเขาเป็นหนึ่งในสามสโมสรของเยอรมันที่เคยคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแต่ปี 1987 พวกเขายังไม่เคยประสบความสำเร็จในถ้วยรายการใด ๆ เลย รวมไปถึงพวกเขายังต้องตกชั้นสู่บุนเดสลีกา 2 ในปี 2018

ฮัมบูร์ก ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อกลับมาสู่บุนเดสลีกา และนั่นก็เป็นงานของเราที่จะต้องทำแบบนั้นให้ได้ การทีมขึ้นมาใหม่ในกุนซือของทีมนี้จะไม่ง่ายเลย เพราะพวกเขามีงบประมาณที่น้อยนิดเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม เรายังมีฐานแฟนจำนวนมากและสนามที่พร้อมรองรับคนมากมาย ดังนั้นผลงานที่ดีจะนำมาซึ่งรายได้ที่มากมายของสโมสร

กองหลังดาวรุ่งอย่าง มาริโอ วุสโควิช (Mario Vuskovic) และ โรเบิร์ต กลาทเซิล (Robert Glatzel) กองหน้าจอมเก๋าคือนักเตะที่มีความสามารถสูงสุดในทีม แต่นี่มันคงไม่พอที่จะทำให้ทีมเลื่อนชั้นได้ง่าย ๆ ดังนั้นคงต้องมองหานักเตะเพื่อมาเสริมทีม และด้วยงบประมาณที่มีเพียงน้อยนิด การยืมตัวนักเตะจากสโมสรอื่นก็ดูจะเป็นเรื่องที่เข้าท่ามากที่สุด

โคเวนทรี ซิตี้

งบประมาณของทีม : 0 ปอนด์

งบประมาณค่าเหนื่อย : 142,943 ปอนด์ (6,033,696 บาท) ต่อสัปดาห์

ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มีสโมสรที่น่าสนใจมากมายที่ควรค่าให้เราเข้าไปคุมทีมเพื่อเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ลีก แต่การมาคุม โคเวนทรี ซิตี้ คือสิ่งที่ท้าทายตัวเราที่สุดหลังจากสโมสรของพวกเขามีปัญหาการเงิน พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่นสูงสุดในปี 1967 และเป็นหนึ่งในสโมสรผู้ก่อตั้งพรีเมียร์ลีก

ทั้งนี้แฟน ๆ ของโคเวนทรีต้องลำบากด้วยการไปดูทีมรักของพวกเขาเล่นที่ นอร์ทแฮมป์ตัน  และ เบอร์มิงแฮม ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ตอนนี้พวกเขาก็กลับมาเล่นที่สนามเหย้าของพวกเขาได้แล้ว

ในทีมเราจะมีนักเตะที่ยอดเยี่ยมของลีกอย่าง กุสตาโว ฮาเมอร์ (Gustavo Hamer), คัลลัม โอแฮร์ (Callum O'Hare) และ วิคตอร์ เกียวเกเรส (Viktor Gyokeres) ซึ่งเราสามารถเก็บนักเตะเหล่านี้ไว้ได้ หรือขายพวกเขาเพื่อแลกกับเงิน 25 ล้านปอนด์ (1 พันล้านบาท)

ทั้งนี้บอร์ดบริหารของทีมยังต้องการให้เราพัฒนานักเตะโดยใช้ระบบเยาวชนของสโมสร ดังนั้นนี่คือเรื่องหลัก ๆ ที่เราจะต้องทำถ้าหากอยากจะมาลองคุม โคเวนทรี

บาเลนเซีย

งบประมาณของทีม : 1.7 ล้านปอนด์ (71,738,225 บาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : -19,000 ปอนด์ (-801,511 บาท) ต่อสัปดาห์

บาเลนเซีย มีโครงสร้างพื้นฐานของสโมสรใหญ่มาก แต่ผลงานของทีมที่ผ่านมานั้นดูจะสวนทางกับพื้นฐานของสโมสรไปหน่อย

สโมสรนี้มีนักเตะที่น่าสนใจอยู่ไม่กี่คนที่เราน่าจะเก็บพวกเขาไว้อย่าง ยูนุส มูซาห์ (Yunus Musah), เฆซุส วาซเกซ (Jesus Vazquez) และ เอดินสัน คาวานี่ (Edinson Cavani) แต่การจะนำแชมป์ ลา ลีกา กลับมาที่สนามเมสตาย่าอีกครั้งนับตั้งแต่ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2004 คงจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย และต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ฤดูกาลด้วยกันกว่าที่ทีมจะลงตัว

ข้อควรระวังคือ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ (Giorgi Mamardashvili) เป็นหนึ่งในนักเตะอายุน้อยที่ดีที่สุดของสโมสร แต่ผู้รักษาประตูดาวรุ่งรายนี้มีค่าฉีกสัญญาขั้นต่ำเพียง 24.5 ล้านปอนด์ (1,033,353,357 บาท) ดังนั้นเราจึงควรมอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาและเพิ่มค่าฉีกสัญญาให้สูงขึ้นอีกโดยเร็วที่สุด

นอตติงแฮม ฟอเรสต์

งบประมาณของทีม : 1.5 ล้านปอนด์ (63,231,315 บาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : 25,000 ปอนด์ (1,053,678 บาท) ต่อสัปดาห์

หลังจากใช้เงินไปมหาศาลกว่า 130 ล้านปอนด์ (5,479,249,100 บาท) ในการคว้าตัวนักเตะหลายคนเข้ามาร่วมทีม พวกเขาจึงไม่มีเงินซื้อขายให้เรามากนักในฤดูกาลแรก ดังนั้นเราจะต้องใช้นักเตะที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

การหลีกเลี่ยงการตกชั้นนั้นเป็นงานที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำไม่ได้เลย ทั้งนี้เราควรจะสร้างทีมขึ้นมารอบ ๆ นักเตะอย่าง เบรนแนน จอห์นสัน (Brennan Johnson) หนึ่งในเทพของ ฟุตบอล เมเนเจอร์ ภาคนี้ และเราควรให้โอกาสกองหน้าอย่าง ไตโว อโวนิยี (Taiwo Awoniyi) ได้ลงเล่นให้มากที่สุด เพราะเขาจะมีประโยชน์ต่อทีมของเรา

ซึ่งถ้าหากเราต้องการเงินเพิ่ม ก็ให้ลองมาขายนักเตะอย่าง ไรอัน ยาเตส์ (Ryan Yates), แซม เซอร์ริดจ์ (Sam Surridge) และ โจ วอร์รัลล์ (Joe Worrall) โดยระหว่างนักเตะสามคนนี้ เราจะได้เงินมาอย่างน้อย 8 ล้านปอนด์ เพื่อที่จะหานักเตะมาเสริมทีมของเราได้อีกหนึ่งถึงสองคน

ซันเดอร์แลนด์

งบประมาณของทีม : 1 ล้านปอนด์ (42,121,570 บาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : 15,000 ปอนด์ (631,823 บาท) ต่อสัปดาห์

ในเซฟล่าสุด ซันเดอร์แลนด์ ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ซีซั่นแรก แต่ก็ต้องตกชั้นทันทีหลังจากทำคะแนนรวมต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่สองของพวกเขา

แต่ก็มีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะพวกเขามีสนามฟุตบอลที่มีความจุถึง 49,000 ที่นั่ง ดังนั้นแล้วเราสามารถดึงดูดนักเตะที่ดีให้มาอยู่กับทีมเราได้ หากเราสามารถพาพวกเขากลับไปสู่พรีเมียร์ลีก

อีกอย่างคือให้เรามองหาโค้ชฟิตเนส และโค้ชผู้รักษาประตูมาเสริมทีมใหม่ เพราะสองคนที่อยู่ในทีมตอนนี้ไม่ใช่โค้ชที่เก่งอะไร

เร็กซ์แฮม

งบประมาณของทีม : 250,000 ปอนด์ (10,531,392 บาท)

งบประมาณค่าเหนื่อย : 9,000 ปอนด์ (379,130) ต่อสัปดาห์

ยินดีต้อนรับสู่ เร็กซ์แฮม สโมสรนอกลีกจากเวลส์ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก หลังจากพวกเขามีสารคดีเกี่ยวกับสโมสรในสตรีมมิ่งอย่าง ดิสนีย์พลัส อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเจ้าของคนดังอย่าง ไรอัน เรย์โนลส์ และ ร็อบ แม็คเอเลนนีย์

เนื่องจากเจ้าของคนใหม่ของพวกเขาเป็นคงดัง เราจะต้องเซ็นสัญญากับนักเตะที่มีชื่อเสียงและต้องเลื่อนชั้นไปสู่ ลีก ทู ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เราคุมทีม

ในส่วนของทีมงาน เราควรเก็บ เลส รีด (Les Reed) ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของสโมสรเอาไว้  เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดในบรรดาทีมงานหลังบ้านของเรา

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Nuttanon Chankwang

Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand