ทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกครั้งหลังพ่ายให้กับทีมแกร่งอย่างสเปน 1-2 ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกมจะจบไปสักพักแล้ว แต่แฟนบอลอังกฤษยังคาใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้อยู่ โดยเฉพาะการทำงานของผู้ตัดสินที่ 1 ในเกมนี้อย่าง ฟร็องซัวส์ เลเตซิเยร์ ซึ่งล่าสุดพวกเขาวิเคราะห์มาแล้วว่าผู้ตัดสินรายนี้มีส่วนที่ทำให้อังกฤษคัมแบ็คตีเสมอสเปนไม่ได้
แล้ว ฟร็องซัวส์ เลเตซิเยร์ ที่ใครหลาย ๆ คนมองว่าเป่าดีทำอะไรให้แฟนบอลอังกฤษไม่พอใจและส่งผลกับผลการแข่งขันในนัดนี้อย่างไร ตามอ่านต่อได้ที่นี่เลย
3 นาทีที่หายไป
เป็นที่รู้กันว่าในศึกยูโร 2024 ครั้งนี้ ไม่ได้มีการจับเวลาหรือการทดเวลาบาดเจ็บที่นานเท่าทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ดังนั้นหากว่ามีการทดเวลา 3 นาทีขึ้นไปต่อหนึ่งเกมก็ถือว่านานมาก ๆ แล้วสำหรับยูโรหนนี้
ในเกมนัดชิงชนะเลิศระหว่างอังกฤษกับสเปน ในช่วงครึ่งหลังนอกจากจังหวะการยิงประตูทั้ง 3 ประตูแล้ว เกมก็ค่อนข้างจะลื่นไหล ไม่ได้มีจังหวะหยุดเกมนาน ๆ สักเท่าไหร่ ทำให้ผู้ตัดสินเลือกทดเวลาบาดเจ็บเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ซึ่งใน 4 นาทีนี้ก็คือโอกาสที่ทัพสิงโตคำรามจะได้ตีเสมอทัพกระทิงดุ
ซึ่งแน่นอนว่า โมเมนตัมนั้นเข้าทางอังกฤษไปแล้ว พวกเขาได้บุกและมีจังหวะจบสกอร์ให้เห็นด้วย ทว่าสุดท้ายก็ไม่สำเร็จ กลายเป็นอังกฤษแพ้ในนัดชิงยูโร 2 ครั้งติด
อย่างไรก็ดี แฟนบอลอังกฤษคิดว่าผลการแข่งขันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้หากว่า ฟร็องซัวส์ เลเตซิเยร์ ทำการทดเวลาบาดเจ็บครบทั้ง 4 นาทีจริง ๆ
แฟนบอลรายหนึ่งใน TikTok ได้ทำคลิปจับเวลาจังหวะฟุตบอลที่ถูกเล่นในสนามช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที ปรากฎว่าลูกฟุตบอลถูกเล่นอยู่ในสนามเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น และอีก 3 นาทีที่เหลือเป็นการเล่นถ่วงเวลาและจังหวะบอลตาย แต่สุดท้าย ผู้ตัดสิน เลเตซิเยร์ ได้เป่าจบเกมในนาทีที่ 94.03 ไม่ได้มีการทดเวลาเพิ่มเติมแต่อย่างใด
@musicxf00tball 1 minute in play in total and he blew #itfc #epl #england #euros ♬ Originalton - SONGS - caseoh_highlight_
ทำให้แฟนบอลของทีมชาติอังกฤษมองว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะ 3 นาทีที่หายไปกับโมเมนตัมเกมในตอนนั้น อังกฤษ อาจจะกลับมาตีเสมอได้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น
รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand