ไม่ปรับตัวก็ตาย : 5 ปัจจัยที่ทำให้ฟุตบอลวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

Aussadang Tarapit

ไม่ปรับตัวก็ตาย : 5 ปัจจัยที่ทำให้ฟุตบอลวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง image

สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ล้วนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เฉกเช่นเดียวกับกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งบนโลกใบนี้ที่ถ้าไม่ปรับตัวคุณก็จะตาย ครั้งหนึ่งคนได้แต่มองฟ้าแล้วคิดว่าคงไม่มีใครเอื้อมถึง จนกระทั่งมนุษย์ได้ส่งคนไปอวกาศ ทุกคนถึงรู้ว่าเหนือหัวเรายังมีอะไรอยู่อีกมากมาย

ซึ่งนั่นไม่ต่างกันกับฟุตบอลในยุคนี้ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะข้ามขีดจำกัดเดิมๆออกไปให้เหมือนกับมนุษย์ที่ได้ไปเยือนอวกาศอันแสนกว้างใหญ่ พร้อมกับคิดค้นในสิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ขึ้นมา 

ย้อนกลับไปในยุคก่อน ผู้รักษาประตูยังใช้มือไม่ได้, การยิงลูกจุดโทษยังไม่ถือกำเนิด, เสาและคานยังเป็นเชือกที่ถูกขึงเอาไว้ หรือการถ่ายทอดสดครั้งแรกในปี 1937 ยังเป็นทีมเดียวกันแข่งกันอยู่เลย แค่แบ่งเป็นชุดตัวจริงและตัวสำรองเท่านั้น

ความเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก่อนถ้าถามว่าจะตรวจสอบลูกบอลที่ข้ามเส้นไปแล้วได้อย่างไร หลายๆคนคงไม่มีคำตอบ หรือการที่แบ็คซ้ายและขวาจะเน้นเกมรุกมากกว่าเกมรับก็คงเป็นเรื่องที่ตลกขบขันอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าทุกอย่างนี้ได้เกิดขึ้นหมดแล้วทั้งนั้น

ในโลกที่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นเพียงความคิดเห็น ฟุตบอลก็ได้พัฒนาล้ำหน้าไปไกลไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นในบทความนี้จะพาทุกท่านไปดูกันว่า 5 ปัจจัยที่ทำให้ฟุตบอลวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมีอะไรบ้าง? หากใครพร้อมแล้ว ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่

 5 ปัจจัยที่ทำให้ฟุตบอลวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

1. สไตล์การเล่น

การเล่นฟุตบอลในช่วงแรกไม่มีคำว่าสวยงาม พวกเขาเล่นด้วยความดุดันและพร้อมที่จะอัดทุกคนที่ไม่ได้ใส่เสื้อสีเดียวกัน ยิ่งถ้าพูดถึงแผนการเล่นแล้วด้วย ยิ่งต้องบอกเลยว่ามีน้อยหรือแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ

จากการไร้ซึ่งกลยุทธ์ในตอนนั้นก็ได้เริ่มพัฒนา จากการเตะแบบสุ่มก็เริ่มมีรูปแบบการเล่นเข้ามาอย่างเช่นแผน 2-3-5 หรือจะเป็นแผน W-M ของ เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ในช่วงทศวรรษ 1920 จนสุดท้ายสิ่งที่กำเนิดตามขึ้นมาก็คือแผนการเล่นเกมสวนกลับ

หลังจากนั้นมา โททอล ฟุตบอล ก็เริ่มถือกำเนิด ต่อด้วยการให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้มากกว่าหนึ่งตำแหน่งเริ่มเป็นที่รู้จัก เมื่อเวลาล่วงเลยไปแผนที่สร้างความฮือฮาอีกรอบก็คือ 4-4-2 ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในยุคที่ พรีเมียร์ ลีก เริ่มเฟื่องฟู

จนมาในปัจจุบันการเล่นเพรสซิงตั้งแต่กองหน้าเพื่อกดดันคู่ต้อสู้กลายเป็นระบบใหม่ที่หลายทีมเริ่มใช้และประสบความสำเร็จในช่วงหลัง แน่นอนว่าสไตล์การเล่นคือการเปลี่ยนที่นำไปสู่วิวัฒนาการทางด้านฟุตบอลอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นก็มาจากความกระหายในชัยชนะ และความต้องการที่จะไปแตะอวกาศของโค้ชและนักกีฬานั่นเอง

2. เทคนิคของนักกีฬา

ปีกคือหนึ่งในตำแหน่งตัวอย่างของหัวข้อนี้ แต่ก่อน เดวิด เบ็คแฮม และ ไรอัน กิกส์ คือผู้เล่นที่คอยลากเลื้อยกินตัวอยู่ริมเส้นและพร้อมที่จะเปิดให้กองหน้าอันหิวกระหายได้ทำประตูอย่างแม่นยำ แต่ทุกวันนี้ปีกต้องเลี้ยงตัดเข้าหาประดูได้ เพื่อเปิดพื้นที่และคอยหาช่องยิงและส่ง แน่นอนว่าของเดิมที่ต้องมีอย่างเช่นการเลี้ยงกินตัวและการเปิดก็ต้องมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมไว้เช่นกัน

หรืออย่างยุคก่อนที่เมื่อผู้รักษาประตูเลี้ยงบอล กองเชียร์ก็แทบกุมหัวเพราะไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร แต่ยุคสมัยนี้การที่คุณเป็นผู้รักษาประตูแต่ใช้เท้าได้ไม่คล่องนั่นคือเรื่องที่โค้ชหลายคนไม่ยอมรับ แม้ว่าคุณจะเหนียวแค่ไหนในการป้องกันประตูแต่คุณก็ไม่มีพื้นที่ยืนในสนามอยู่ดี

นี่เป็นเรื่องที่อธิบายได้อย่างดีว่าเทคนิคการเล่นของนักกีฬานั้นก็ต้องพัฒนาและปรับตัวไปตามยุคสมัยเช่นกัน

3. วิทยาศาสตร์การกีฬาและวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เปิดศักราชใหม่ของฟุตบอลและนี่คือการพัฒนาที่คงไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนปรัชญาและพฤติกรรมของทีม, วิธีวิเคราะห์ตัวเองและคู่แข่ง, วิธีพัฒนาพรสวรรค์ รวมถึงคนที่ทำหน้าที่ต่างๆเช่นแมวมองของทีม

การบูรณาการเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ามาผนวกกับวิธีการฝึกทำให้การพัฒนาของผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ทักษะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องกายภาพด้วย อย่างเช่นผู้เล่นที่ต้องการเสริมเรื่องความเร็วจะได้รับรูปแบบการฝึกซ้อมที่แตกต่างจากผู้ที่ต้องการเสริมเรื่องการส่งบอล แน่นอนว่าในส่วนนี้ล้วนมีตัวเลขและสถิติเพื่อใช้วิเคราะห์อยู่เบื้องหลัง

อย่างโค้ชในยุคสมัยใหม่เองก็เริ่มใช้ข้อมูลที่หลังบ้านเก็บได้เป็นฐานเพื่อต่อกรกับทีมต่างๆเนื่องจากสมัยนี้หากคุณใช้แค่ตามองอย่างเดียวแล้วไม่ใช้ตัวเลข ความแม่นยำก็จะอันตรธานหายไป จนโดนทีมอื่นพัฒนาแซงไปในที่สุด

ในด้านเทคโนโลยี การมีวีเออาร์หรือว่านวัตกรรมโกลไลน์นั้นได้ช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับผู้ตัดสิน ถึงแม้ว่าในตอนนี้อาจจะมีข้อครหาอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่านี่พึ่งเป็นการเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่เท่านั้น เทคโนโลยีจะเริ่มเข้ามามีบทบาทเรื่อยๆ เพื่อให้การตัดสินเป็นธรรมและเป็นกลางมากที่สุด

4. ธุรกิจฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นเกมที่สนุกเมื่อคุณได้เล่นกับเพื่อน ๆ และมันก็กลายเป็นกีฬาของชุมชน จนตอนนี้ฟุตบอลได้กลายเป็นอุตสาหกรรมระดับโลกที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ คอยเชิญชวนนักลงทุนรายใหญ่, กลุ่มบริษัท, และองค์กรธุรกิจระหว่างประเทศให้มาร่วมลงทุน

สโมสรฟุตบอลถูกก่อตั้งขึ้นและเป็นเจ้าของโดยชุมชนท้องถิ่นหรือบุคคลที่อยู่มานานในชุมชนนั้น อย่างบางสโมสรในตอนนี้เช่น บาร์เซโลนา, เรอัลมาดริด และ บาเยิร์น ก็ยังคงมีแฟนบอลเป็นเจ้าของอยู่ แต่ด้วยเวลาที่เปลี่ยนไป โลกแห่งฟุตบอลจึงได้เริ่มเปิดรับบุคคลหรือหน่วยงานที่ร่ำรวยให้เข้ามามากขึ้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ล้วนนำเงินในกระเป๋าติดตัวมาด้วย

ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ต่างก็ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อในสนามซึ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จในระยะเวลาเพียงสองทศวรรษก็มาจากเพราะเจ้าของที่ร่ำรวยนั่นเอง

ทั้งหมดนี้เองจึงเป็นส่วนที่ทำให้เงินสะพัดในกีฬาของฟุตบอลและเมื่อการประสบความสำเร็จคือจุดสูงสุดบวกกับการตลาดที่จะได้กลับมา เม็ดเงินที่ลงไปจึงมหาศาลและส่งผลต่อสิ่งอื่นๆที่ตามมา

5. อิทธิพลที่ไปสู่ระดับโลก

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ชมมากกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งเกมฟุตบอลได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์ระดับนานาชาติ โดยมีผู้คน 1.5 พันล้านคนชมการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 รอบชิงชนะเลิศที่กาตาร์

มันต้องใช้เวลาร่วมกว่าศตวรรษ กว่าเกมที่สวยงามนี้จะแพร่กระจายไปทั่วโลก ไม่ว่าจะใช้ปัจจัยต่างๆ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการโฆษณาฟุตบอลก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน

ฟุตบอลเคยเป็นเกมชุมชนท้องถิ่น แต่ในปัจจุบัประเทศต่างๆ มีการได้แบ่งแยกลีกออกมามากมายและกระจายออกไปยังทั่วโลก

ร่วมลุ้นโชคฟรีพร้อมโบนัส

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Aussadang Tarapit

Aussadang Tarapit Photo

นักวิเคราะห์บาสเกตบอล NBA ของ The Sporting News ผู้เจาะลึกทุกเพลย์การเล่น