ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อาเฟ อัล-เมดเล เจ้าหน้าที่การตลาดของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และ ซาอุดิ โปร ลีก กล่าวกับ AS สำนักข่าวสเปนว่าลีกซาอุฯ เริ่มต้นปฏิบัติการคว้าตัว โม ซาลาห์ ดาวยิงลิเวอร์พูลมาร่วมลีกหลังนักเตะหมดสัญญาในปี 2025 โดยพวกเขาวางแผนเรื่องสัญญา เม็ดเงินและข้อเสนอล่อใจรอดักแข้งวัย 31 ปี ในอนาคตนี้เอาไว้แล้ว
แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาชื่อของ ซาลาห์ กับลีกซาอุฯ กลับมาบูมอีกครั้งเมื่อ Ariyadhiah สื่อประเทศซาอุดิอาระเบียรายงานว่า อัล-อิตติฮัด บรรลุข้อตกลงคว้าตัวปีก "หงส์แดง" คนนี้ไปร่วมทีมแล้วและจากนั้น เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวจาก The Athletic ก็มาย้ำอีกว่านี่ อัล-อิตติฮัด สนใจจริงแต่ไม่มีความชัดเจนจากทางลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบถึงความจริงในใจของ ซาลาห์ ว่าอยากไปลีกซาอุหรือไม่? แล้วโอกาสที่เขาจะไปสวมเสื้อ อัล-อิตติฮัด มีมากน้อยแค่ไหน? ติดตามต่อได้ในบทความนี้
ถ้ามันคือเรื่องจริง?
สมมติว่าหาก โม ซาลาห์ ย้ายไป อัล-อิตติฮัด เป็นเรื่องจริงคงเป็นงานหยาบของ ลิเวอร์พูล อย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะการจะหาตัวแทนมาในช่วงเวลาที่ตลาดซื้อขายใกล้ปิดในอีกไม่กี่วันคงไม่น่าทันการ
และถ้าเขาไปจริง เยอร์เกน คล็อปป์ ก็ต้องดันผู้เล่นที่มีอยู่ขึ้นมาแทนซึ่งคนที่พอจะเล่นตำแหน่งเดียวกับ ซาลาห์ ได้ก็มีแค่ โซบอสซ์ไล, เอลเลียตต์ และดาวรุ่งวัย 17 ปี เบน โด็ก ซึ่งแน่นอนว่าจะแลกมาด้วยการขาดเครื่องจักรผลิตประตูเพราะปีกชาวอียิปต์ยิงทะลุ 10+ ประตูนับตั้งแต่ย้ายมาปี 2017
สรุปง่าย ๆ ก็คือถ้าลิเวอร์พูลบ้าจี้ขาย ซาลาห์ ไปลีกซาอุฯ ก็จะมีแต่เสียผลประโยชน์ อย่างแรกคือทีมจะขาดหัวใจหลักในเกมรุกเนื่องจากทุกการยิงประตูเพื่อนทุกคนจะไหลบอลมาให้เขายิง หรือวิ่งฉีกตัวประกบให้เขาปั่นโค้ง ๆ อย่างที่สองคือนักเตะที่เหลืออยู่จะเสียขวัญกำลังใจหลังเพราะฤดูกาลนี้แข้งย้ายออกจากทีมไปมากเกินแล้ว และสุดท้ายก็คือคนที่มาแทน ซาลาห์ ต้องได้รับความกดดันอย่างถาโถมแน่ ๆ
โอกาสย้ายทีม?
ดูเหมือนว่า อัล-อิตติฮัด จะเป็นฝ่ายอกหักเมื่อ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ และ เดวิด ออร์นสตีน ออกมารายงานพร้อมกันช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ว่า ลิเวอร์พูล แสดงเจตจำนงค์ไม่ขอเจรจาซื้อขายสตาร์วัย 31 ปีเป็นอันขาด เพราะนักเตะยังเหลือสัญญากับทีมถึงปี 2025 รับประกันได้ว่าสาวก "หงส์แดง" จะยังเห็น "บังโม" ค้าแข้งต่อไปที่แอนฟิลด์แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ซาลาห์ สามารถเจรจาหาทีมใหม่ในฤดูกาลหน้าได้เลย (2024-25) เพราะเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายของสัญญาแล้วซึ่งจะเข้าทางกับที่ อาเฟ อัล-เมดเล กล่าวไว้เมื่อเดือนมิถุนายนว่าจะนำเขามาสู่ลีกซาอุฯ ในปี 2025 ดังนั้น การอดใจรออีก 2 ปี จึงเป็นตัวเลือกที่ได้เปรียบทั้งสองฝ่าย อีกทั้งช่วงเวลานั้น ซาลาห์ จะมีอายุ 33 ปี ซึ่งเหมาะสมกับการไปลีกซาอุฯ เต็มตัวแล้ว
ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้ ซาลาห์ อยากไปลีกซาอุฯ นั่นคือเรื่องของศาสนาเพราะการย้ายไปทำงานในประเทศซาอุดิอาระเบียที่เป็นประเทศอิสลามนิกายซุนนีเหมือนกับอียิปต์จะทำให้เขาและครอบครัวใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางศาสนาสะดวกมากขึ้น
สุดท้ายนี้ เราอนุมานได้ว่าโอกาสที่ ซาลาห์ จะย้ายไปลีกซาอุภายใน 2 ฤดูกาลนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่เชื่อว่าหลังจากเขาหมดสัญญาในปี 2025 อะไรก็เกิดขึ้นได้หรือบางทีเราอาจพบกับเรื่องไม่คาดคิดในไม่ช้านี้...
ร่วมสมัครเล่นเกมฟุตบอลลุ้นรับเสื้อลิเวอร์พูลของแท้ที่นี่