โมร็อกโกคือหนึ่งในทีมไม้ประดับของฟุตบอลโลก 2022 แฟนบอลส่วนใหญ่นอกจากชาวโมร็อกโกไม่มีใครสนใจทีมนี้ เพราะพวกเขาห่างไกลกับความหวังลุ้นแชมป์โลกที่ประเทศกาตาร์
ย้อนไปในปี 2018 โมร็อกโกก็มาร่วมฟุตบอลโลก และพวกเขาก็ตกรอบแรกไปแบบไม่มีอะไรให้จดจำ นอกจากความดุดันในการไล่เตะคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม
แต่ในฟุตบอลโลกคราวนี้ โมร็อกโกมาดีกว่าที่ใครจะคาดคิด นักเตะเล่นด้วยความมุ่งมั่น, เทคนิค และแทคติกที่ไม่ธรรมดา จนพวกเขาคว้าแชมป์กลุ่มที่มีทั้งโครเอเชีย และเบลเยี่ยม รวมถึงล้มสเปนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ผลงานที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก โมร็อกโกได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว แต่อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของโมร็อกโกในครั้งนี้ อะไรที่ทำให้พวกเขาเป็นชาติม้ามืดเพียงชาติเดียวของฟุตบอลโลกหนนี้
ติดตามได้ที่นี่
รากฐานจากความเจริญ
ถึงเป็นประเทศจากทวีปแอฟริกา แต่โมร็อกโกไม่ใช่ชาติประเทศล้าหลังเหมือนชาติส่วนใหญ่ของทวีปนี้ ในทางตรงกันข้ามด้วยการอยู่ในพื้นที่แอฟริกาเหนือใกล้เคียงกับทวีปยุโรป ทำให้แผ่นดินโมร็อกโกได้อารยธรรมมากมายจากแผ่นดินยุโรป
ทั้งโปรตุเกส และสเปน ต่างมีบทบาทสำคัญบนแผ่นดินโมร็อกโกในช่วงศตวรรษ15 และ 16 ผ่านการยึดดินแดนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมของทั้งสองประเทศ รวมถึงในยุคหลังก็มีฝรั่งเศสที่เข้ามามีอิทธิพลบนแผ่นดินนี้เช่นเดียวกัน
วัฒนธรรมหลายอย่างจากโปรตุเกส, ฝรั่งเศส และสเปน จึงส่งผลโดยตรงกับชาวท้องถิ่นในโมร็อกโก รวมถึงฟุตบอล โดยชาวสเปน และฝรั่งเศส พาฟุตบอลเข้าสู่ดินแดนโมร็อกโกตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ในช่วงเวลานั้น ดินแดนโมร็อกโกยังเป็นแค่เมืองขึ้น และทั้งสเปนกับฝรั่งเศสก็เปิดฉากทำสงครามแย่งชิงดินแดนแห่งนี้ ทำให้ฟุตบอลที่โมร็อกโกต้องใช้เวลาในการเติบโต กว่าจะผลิดอกออกผลก็ต้องรอหลังการประกาศเอกราชของโมร็อกโก ในปี 1956
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเอกราชเป็นของตัวเอง ชาวยุโรปมักจะมองโมร็อกโกเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาเสมอ เนื่องจากบทบาทที่ชาวยุโรปมีอย่างยาวนานบนดินแดนโมร็อกโก พวกเขาจึงมองโมร็อกโกเป็น “ยุโรป” มากกว่า “แอฟริกา” และแน่นอนว่า มีชาวยุโรปไปลงหลักปักฐานที่โมร็อกโกไม่น้อย รวมถึงขยายเผ่าพันธ์ไว้ที่นั่น
ตั้งแต่ประกาศเอกราชจวบจนถึงปัจจุบัน โมร็อกโกมีความสัมพันธ์อันดีกับชาติยุโรปเสมอ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของเศรฐกิจ แต่เมื่อย้อนมองถึงโลกฟุตบอลในปัจจุบัน ทุกวันนี้ก็เป็นการค้ารูปแบบหนึ่งเช่นกัน และนี่คือสิ่งที่โมร็อกโกได้ประโยชน์แบบเต็ม ๆ
ชีวิตลูกหนังขึ้นลงของโมร็อกโก
แน่นอนว่าที่ไหนมีอิทธิพลของยุโรปตะวันตก ความเจริญไม่ได้อยู่ไกลนัก แม้ว่าโมร็อกโกจะมีปัญหาทางการเมืองมากมายหลังประกาศเอกราช รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่หากเทียบกับชาติส่วนใหญ่ในแอฟริกา ก็ต้องถือว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่ามาก
สิ่งนี้ทำให้เด็ก ๆ โมร็อกโกเข้าสู่ฟุตบอลกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยการได้ไปเล่นฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 1970 หลังการประกาศเอกราชแค่ 14 ปีเท่านั้น
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะโมร็อกโกได้บุคลากรฝีมือดีด้านฟุตบอลหลายคนจากฝั่งยุโรปมาช่วยงาน โดยเฉพาะจากฝรั่งเศส ยิ่งบวกกับฐานะของประเทศที่ไม่ได้ยากจน มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างคอยสนับสนุน ก็ทำให้โมร็อกโกประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นอีก 6 ปีถัดมา โมร็อกโกก็คว้าแชมป์ประจำทวีปแอฟริกา หรือ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ในปัจจุบันได้สำเร็จ เปิดยุคทองอย่างเป็นทางการของโมร็อกโก
พวกเขาถือเป็นทีมแถวหน้าของแอฟริกา ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกได้บ่อยครั้ง ขณะที่ฟุตบอลระดับทวีปก็เข้ารอบลึก ๆ ได้ตลอด
อย่างไรก็ตามความสำเร็จทางฟุตบอลของโมร็อกโก ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขากินบุญเก่ากับการเป็นชาติเมืองขึ้นของทวีปยุโรปมาก่อนจึงมีความพร้อมหลายด้านมากกว่า และโอกาสมากกว่าชาติอื่น ๆ ในแอฟริกา
แต่ทุกอย่างไม่ได้อยู่ตลอดไป เมื่อโลกเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ความรู้ในการพัฒนาฟุตบอลกระจายไปทั่วโลก แม้แต่ชาติไม่พัฒนาก็มีสิทธิ์ฝันจะไปฟุตบอลโลก รวมถึงชาติในทวีปแอฟริกาด้วยเช่นกัน หลายประเทศหาวิธีพัฒนาคุณภาพฟุตบอลในแบบฉบับของตัวเองได้ ขณะที่โมร็อกโกย้ำอยู่กับที่
การก้าวขึ้นมาของไอวอรี่ โคสต์, กานา, เซเนกัล แลกมาพร้อมกับการล่มสลายของโมร็อกโก พวกเขาอดไปฟุตบอลโลก 4 ครั้งติดต่อกัน (2002, 2006, 2010 และ 2014) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโมร็อกโก ขณะที่ฟุตบอลระดับทวีปในช่วงเวลานั้น พวกเขาก็ตกรอบแรกทุกครั้งที่ได้แข่งในรอบสุดท้าย
โมร็อกโกจึงต้องคิดใหม่ทำใหม่ทุกอย่างเพื่อหวังจะล่าความสำเร็จกลับมาอีกครั้งให้กับวงการฟุตบอล
ปฏิวัติสู่ความสำเร็จ
ด้วยความที่โมร็อกโกมีช่วงเวลาล้มเหลวอันยาวนาน พวกเขาฉวยโอกาสเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ผ่านการใช้เวลาให้ได้มากที่สุดกับการสร้างยุคทองของประเทศกลับมาอีกครั้ง
สิ่งแรกที่โมร็อกโกทำคือ “คิดให้เหมือนชาติฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ” ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องมีคือ DNA ฟุตบอลที่ชัดเจน
แน่นอนว่า DNA ฟุตบอลของทุกประเทศต้องมาจากตัวตนของแต่ละประเทศ ซึ่งโมร็อกโกก็ทำแบบนั้น และวิธีที่พวกเขาเลือกคือเล่นฟุตบอลให้เหมือนยุโรป ไม่ใช่แอฟริกัน
หลายปีที่ผ่านมา โมร็อกโกพยายามจะแข่งกับชาติแอฟริกัน ภายใต้ฟุตบอลพลังแบบพิมพ์นิยม แต่พวกเขามาคิดได้ว่า คนโมร็อกโกส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเชื้อสายจากยุโรป ทั้ง เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาเล่นฟุตบอลแบบแอฟริกา ในเมื่อมีสายเลือดคุณภาพเยี่ยมจากยุโรปอยู่มากมาย
โมร็อกโกต้องการเล่นฟุตบอลเน้นแทคติกแบบแน่น ๆ เข้ม ๆ ระดับเดียวกับฟุตบอลยุโรปด้วยสิ่งที่มีอยู่ในมือ แต่การสร้างทุกอย่างต้องใช้เวลา โมร็อกโกล้มเหลวมากกับการเล่นสไตล์บอลยุโรปในช่วงแรก พวกเขาไม่ต่างอะไรจากทีมยุโรปตกเกรดที่ไม่มีทางจะเทียบชั้นแถวหน้าได้ ไม่มีวี่แววเลยว่าแนวทางนี้จะได้ผล
แต่อย่างที่เราบอกทุกอย่างต้องใช้เวลา โมร็อกโกรู้เรื่องนี้ดี และพวกเขาไม่เปลี่ยนแนวทาง ในทางตรงกันข้ามพวกเขาใช้โอกาสที่ชาวโมร็อกโกจำนวนไม่น้อยมีเชื้อสายจากยุโรป และส่งนักเตะเหล่านี้ไปเล่นที่ยุโรปตั้งแต่ระดับเยาวชน บางคนใช้เวลาในชีวิตที่ยุโรปมากกว่าบ้านเกิดในโมร็อกโก หรือบางคนเกิดและโตที่ยุโรป แทบไม่ได้ใช้ชีวิตในโมร็อกโกด้วยซ้ำ
ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือนักเตะชาวโมร็อกโกที่โดดเด่น และมีคุณภาพมากขึ้น ผู้เล่นอย่าง อัชราฟ ฮาคิมี่ หรือ ฮาคิม ชีเย็ค ได้เล่นกับสโมสรระดับท็อปของยุโรป ทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือเชลซี และพวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพในฟุตบอลโลกครั้งนี้
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือวางเป้าหมายที่ชัดเจนของโมร็อกโก … อย่างที่ได้กล่าวไปว่า ชาวยุโรปบางส่วนมองโมร็อกโกเป็นยุโรปมากกว่าแอฟริกา โมร็อกโกก็เช่นกันพวกเขามักเทียบตัวเองกับยุโรป ไม่ใช่แอฟริกา
ไม่มีเป้าหมายว่าเราจะเป็นเจ้าแห่งภูมิภาค หรือจะไปแข่งฟุตบอลแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เพื่อรอบลึก ๆ เป้าหมายเดียวของโมร็อกโกคือต้องไปฟุตบอลโลก และสักวันต้องทัดเทียมกับชาติแถวหน้าของยุโรปให้ได้
เป็นเป้าหมายที่ดูเหมือนฝัน และพวกเขาก็ล้มเหลวมานานหลายปี จนกระทั่งในวินาทีที่โมร็อกโกเอาชนะสเปนได้ในฟุตบอลโลก 2022 สิ่งที่พวกเขาลงมือทำมายาวนานได้สำเร็จผล
โมร็อกโกชนะทีมระดับแชมป์โลกในแมทช์ที่สำคัญจริง ๆ และผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกได้สำเร็จ เป็นการบอกให้โลกได้รู้ว่าอย่างน้อยโมร็อกโกในนาทีนี้ก็ดีพอแล้วที่จะวัดกับทีมแถวหน้าของยุโรปได้จริง ๆ
กว่าจะถึงความสำเร็จในเวลานี้ของโมร็อกโก พวกเขาใช้เวลามามากทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนแต่มีรากฐานยาวนานมาหลายสิบปี
อย่าแปลกใจถ้าโมร็อกโกจะประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะด้วยแรง, เวลา, ความพยายาม, การอดทน และแนวคิดที่ถูกต้อง ทั้งหมดที่โมร็อกโกทุ่มไป มันเหมาะสมแล้วกับฟุตบอลโลกหนนี้
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
