หากย้อนเวลากลับไปสัก 5-6 ปีที่แล้ว ชื่อของปีกที่มีความเร็ว มีทักษะที่ดี มีจินตนาการอันเหลือล้น และเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ชื่อของ เอเดน อาซาร์ จะต้องถูกนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ
แต่ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีเขาจะกลายเป็นแข้งที่ถูกประทับตราว่าเป็นการซื้อขายที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด และแขวนสตั๊ดไปด้วยวัยเพียงแค่ 32 ปีเท่านั้น
เพราะอะไรนักเตะมากพรสวรรค์ ที่ทีมอย่าง เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงินเกิน 100 ล้านยูโร ถึงไปไม่สุดในเส้นทางลูกหนัง ทั้ง ๆ ที่ยังเล่นต่อไปได้อีกหลายปี? ติดตามหาสาเหตุได้ที่นี่
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลประจำวันได้ที่นี่
เหตุใด เอเดน อาซาร์ ถึงไปไม่สุดในอาชีพนักฟุตบอล
ความคาดหวังที่สูงลิบ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ เอเดน อาซาร์ ต้องพบกับมรสุมของชีวิตการค้าแข้ง นั่นก็คือวันที่เขาจรดปากกาเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวระดับ 100 ล้านยูโร
เพราะถึงแม้ว่าเราจะปฏิเสธไม่ได้ว่า เรอัล มาดริด คือทีมยักษ์ใหญ่ที่ไร้ปัญหาเรื่องการเงิน แต่เราก็มักไม่ค่อยเห็นพวกเขาทุ่มเงินซื้อนักเตะด้วยค่าตัวระดับหมาศาลแบบนี้
ซึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร มีเพียงแค่ จู๊ด เบลลิงแฮม, แกเร็ธ เบล และ เอเด็น อาซาร์ ที่มีค่าตัวเกิน 100 ล้านยูโร ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนเงินดังกล่าวมันจึงทำให้ อาซาร์ มีความกดดันไม่มากก็น้อย นับตั้งแต่วินาทีที่เขาชูเสื้อสีขาวต่อหน้าสื่อและแฟนบอล มิหนำซ้ำในขณะนั้น อาซาร์ ยังถือเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดของสโมสรที่จำนวน 600,000 ยูโรต่อสัปดาห์อีกด้วย
นอกจากนี้ อาซาร์ ยังได้รับเสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเป็นเบอร์ที่ตำนานอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ เคยใส่ ถึงแม้ว่า อาซาร์ จะไม่ได้รับเบอร์ 7 ต่อจาก โรนัลโด แบบโดยตรง เพราะมีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ มาเรียโน ดิอาซ เคยใช้
แต่แน่นอนแหละว่าชื่อชั้นระดับ อาซาร์ เขาจึงถูกแฟนบอลนับหมื่นนับแสนชีวิต ที่คอยหวังว่าเขาจะทำได้ดีบนเสื้อหมายเลย 7 ต่อจาก โรนัลโด้ เพราะด้วยอายุที่กำลังพีค และการผ่านประสบการณ์มากอย่างโชกโชนในพรีเมียร์ลีก จึงทำให้มาดริดสตา ทุก ๆ คนไม่มีใครที่ไม่คาดหวังในตัวของ อาซาร์
อาการบาดเจ็บและสภาพจิตใจ
หากจะบอกว่า อาซาร์ คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกอาการบาดเจ็บกลืนกินพรสวรรค์ไปก็คงจะไม่ผิดซะทีเดียว เพราะไม่น่าเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 8 ปี บนพรีเมียร์ลีก อาซาร์ แทบไม่เคยเจ็บหนักเลยสักครั้ง ทั้ง ๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลีกที่เข้าปะทะกันหนักหน่วงที่สุดโลก แต่ไม่รู้ว่าทำไม ยามที่ อาซาร์ ก้าวขาลงสนามที่สเปน เขาถึงกลายเป็นแข้งกระดูกยุงไปซะอย่างงั้น
จากอาการบาดเจ็บที่คอยรุมเร้าเขาอยู่ตลอด ทำให้ อาซาร์ ไม่เคยได้ลงเล่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยสักครั้ง เล่น 3 วันดี 4 วันไข้อยู่ตลอด อดีตกัปตันทีมชาติเบลเยียมอยู่ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ปี 2019 แต่ได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 76 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก ๆ
ซึ่ง 1 ปัจจัยที่อาจจะทำให้ อาซาร์ เจ็บอยู่บ่อย ๆ นั้นก็คือน้ำหนักตัวที่เยอะจนเกินไป เพราะเราจะได้เห็นภาพอยู่บ่อย ๆ ว่า อาซาร์ เริ่มมีพุง และหุ่นก็ดูไม่เฟิร์มเหมือนสมัยอยู่กับเชลซี จนแฟน ๆ บ้านเราให้ฉายาว่า “ต้าวซาร์”
ซึ่งเรื่องอาการบาดเจ็บมันก็ส่งผลถึงเรื่องสภาพจิตใจด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อ อาซาร์ ล้างสนามไปนาน ๆ มันทำให้เขาขาดความต่อเนื่อง จังหวะการเลี้ยงกินตัวที่เคยทำได้ ก็ทำไม่ได้ จังหวะไหนที่ควรจะสปีดถึง ก็ไปไม่ถึง เรื่องนี้มันจึงส่งผลให้ อาซาร์ ขาดความมั่นใจไปเยอะ ไม่กล้าเลี้ยงกล้าลุย เหมือนสมัยเชลซีอีกแล้ว
จุดอิ่มตัว
เอเดน อาซาร์ นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็มีแชมป์ติดมืออยู่ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นสมัยที่เริ่มต้นอาชีพกับลีลล์ ต่อด้วยการคว้าเกือบทุกแชมป์กับเชลซี และสุดท้ายก็คือการได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับสโมสรที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กอย่าง เรอัล มาดริด
ส่วนในระดับชาติถึงแม้ว่า เอเดน อาซาร์ จะไม่สามารถพาเบลเยี่ยมคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่รายการเดียว แต่การพาชาติบ้านเกิดของเขาจบอันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่ รัสเซีย ในฐานะกัปตันทีมชาติยุค "Golden Generation" ก็นับเป็นความสำเร็จของนักฟุตบอลคนคนนึงได้เช่นกัน
ดังนั้นเมื่อนำหลาย ๆ อย่างมาบรรจบกัน ผนวกกับความสำเร็จที่ได้รับมาตลอด 16 ปี ในอาชีพการค้าแข้ง ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ เอเดน อาซาร์ จะตัดสินใจอำลาสังเวียนสนามหญ้าด้วยวัยเพียงแค่ 32 ปี
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand