เหตุผลที่ 'แจ็ค กรีลิช' คือผู้ปิดทองหลังพระคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

The Sporting News

เหตุผลที่ 'แจ็ค กรีลิช' คือผู้ปิดทองหลังพระคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ image

การที่ แจ็ค กรีลิช ย้ายมาร่วมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคา 100 ล้านปอนด์ จากแอสตัน วิลล่า ย่อมมาพร้อมกับความคาดหวังจากทีมอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นนักเตะชาวอังกฤษ ถ้าทำได้ดีคุณจะเป็นสุดยอดซุปเปอร์สตาร์โลกลูกหนัง แต่ถ้าหากไม่คุณก็กลายเป็นคนล้มเหลวในทันที 

ซึ่งด้วยผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมาของกรีลิช ที่ไม่สามารถเล่นได้คุ้มค่าตัวเท่าไหร่นัก ทำให้มีเสียวิจารณ์มากมายว่า นี่คือดีลที่ล้มเหลวของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่การที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกมาสัมภาษณ์ปกป้องกรีลิชอยู่บ่อยครั้ง ไม่ใช่เพียงเพราะเขาปกป้องลูกทีมแค่นั้นหรือเปล่า แต่เขาเชื่อจริง ๆ ว่าสักวันกรีลิชจะเป็นคนสำคัญของทีม

จากเรื่องราวในวันนี้ ทุกคนจะได้คำตอบว่าแท้จริงว่า กรีลิชช่วยทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดนี้ของเป๊ปได้มากมายกว่าที่แฟนฟุตบอลคิด

ล้มเหลวกับฤดูกาลแรก ?

ผลงาน 3 ประตู 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 26 เกม ในฤดูกาลแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นผลงานที่ดูจากตัวเลขล้มเหลวมาก ๆ 

โชคดีที่สุดท้ายทีมสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ ทำให้กรีลิชไม่ต้องกลายเป็นแพะรับบาปกับเรื่องนี้ หากสุดท้ายไม่ได้แชมป์ 

การถูกวิจารณ์กับการเล่นของเขาย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งจากตัวเลขที่มันลดลงชัดเจนจากผลงานกับแอสตัน วิลล่า ในฤดูกาลก่อน ที่ผลงานของเขาทำได้ 6 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ ทำให้คนส่วนใหญ่จะมองว่า มันคือช่วงเวลาที่ล้มเหลวสำหรับกรีลิช โดยเฉพาะการย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล 

Jack Grealish faces a final-day showdown with boyhood club Aston Villa

แต่มองให้ลึกไปถึงเรื่องของสถิติ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ล้มเหลวมากมายอย่างที่หลายคนคิด ซึ่งตามสถิติของฤดูกาลก่อนในพรีเมียร์ลีก กรีลิชถือเป็นนักเตะที่มีสถิติการจ่ายบอลที่คาดหวังเป็นแอสซิสต์ ในจังหวะโอเพ่นเพลย์มากที่สุดในลีก เมื่อนับเป็นค่าเฉลี่ยใน 90 นาที อยู่ที่ 0.33 มากกว่า เควิน เดอ บรอยน์ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้วยซ้ำ 

แต่แน่นอน เมื่อตัวเลขแอสซิสต์ที่แท้จริงมันมีเพียง 3 เท่านั้น ไม่แปลกเลยที่คนส่วนใหญ่จะมองว่าเขาล้มเหลว แต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่คิดแบบนั้น  

หน้าที่เปลี่ยนไป

ถ้ามองจากตาเปล่า หรือได้เห็นเป็นข้อมูลฮีทแมพ พื้นที่ของแจ็ค กรีลิช ยังคงอยู่ในพื้นที่ฝั่งซ้ายเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับแอสตัน วิลล่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลายคนสงสัยว่ามันจะไปต่างกันได้อย่างไรละ ในเมื่อก็เล่นตำแหน่งเดียวกัน

แต่ความจริงเราต้องดูหน้าที่ ที่เขาได้รับในแต่ละเกม ซึ่งมันจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า สิ่งที่เขาได้ลงไปทำในสนาม มันมีความเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน จากวิลล่า กับปัจจุบันที่แมนฯ ซิตี้ 

ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ต้องดูไปที่รูปแบบการเล่นของแอสตัน วิลล่า จะมีการเล่นที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยให้กรีลิชเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแบบไม่ต้องกังวลอะไร โฟกัสไปที่การจ่ายบอล และยิงประตูในพื้นที่สุดท้ายได้อย่างเต็มที่ 

ต่างกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะใช้การครองบอล และใช้จังหวะการจ่ายบอลมากกว่าในพื้นที่สุดท้าย นั่นทำให้การย้ายมาของกรีลิช เขาต้องเปลี่ยนมาเก็บบอลมากขึ้นด้วยเช่นกัน 

Jack Grealish and Pep Guardiola at the Santiago Bernabeu

โดยที่การขึ้นเกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะลำเลียงบอลขึ้นไปแบบเป็นกลุ่ม เล่นร่วมกัน แนวรุกดันขึ้นไปพร้อมๆกัน เพื่อโจมตีแนวรับคู่แข่ง ทำลายเกมรับคู่แข่งที่มีจำนวนผู้เล่นมากในพื้นที่สุดท้าย 

การเล่นแบบเรือใบสีฟ้าต้องเล่นตามจังหวะเกม ไม่เร็วเกินไปจนเกิดความผิดพลาดจนโดนโต้กลับได้ หรือช้าเกินไปจนคู่แข่งจับจังหวะได้เช่นกัน 

ซึ่งหากมองในมุมนี้ ตามความคิดของเป๊ปมองว่า แจ็ค กรีลิช มีความใจเย็นเมื่ออยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ รวมถึงปรับตัวกับทีมได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า  ชื่นชอบกับการที่มีเขาลงเล่นในทีมเรือใบสีฟ้า   

การเล่นที่แตกต่าง 

จนถึงตอนนี้กรีลิชถือเป็นนักเตะที่แตกต่างสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีใครในทีมเล่นในสไตล์เดียวกับเขา การเก็บบอลของเขาช่วยเพิ่มจังหวะ และช่วยให้เพื่อนร่วมทีมได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก่อนสร้างโอกาสทำประตู

เทียบกับฝั่งขวาอย่างริยาร์ด มาเรซ ยิ่งเห็นภาพชัด เพราะมาเรซจะเป็นปีกสไตล์เลี้ยงกินตัว หรือถ้าเอาชนะการดวลกับคู่แข่งด้วยการทำชิ่ง ก็จะวิ่งตัดเข้าไปเลย 

กลับกันด้านกรีลิช จะดึงจังหวะเพื่อรอการเล่นร่วมกันกับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และเจา กันเซโล่ มากไปกว่านั้นขณะที่กรีลิชกำลังเก็บบอลอยู่ เขาเองก็ช่วยดึงนักเตะแนวรับคู่แข่งหลายคนให้เข้าหาเขาด้วยเช่นเดียวกัน 

ไม่ว่าบอลสุดท้ายก่อนจะเปิดให้เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในกรอบเขตโทษ หรือใครก็ตาม ก็จะเป็นการเล่นงานในพื้นที่ฮาล์ฟสเปซ ซึ่งเป็นไม้เด็ดที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่ามักใช้เล่นงานคู่แข่ง

มากไปกว่านั้น การพาบอลขึ้นหน้าของกรีลิชเอง ก็ถือว่ามีประโยชน์กับทีม เขาคือคนเดียวในแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ ที่มีสถิติการเลี้ยงบอลขึ้นหน้าอยู่ระดับท็อปของยุโรป 

โดยการพาบอลขึ้นหน้านี้ ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ว่ากรีลิชพาบอลขึ้นไปได้ดีแค่ไหน แต่มันเกี่ยวกับการเก็บบอลไว้กับฝั่งตัวเองด้วย การเลี้ยงบอลที่ไม่ได้รวดเร็วจนเกินไป มาพร้อมกับความปลอดภัยในการเก็บบอลไว้กับฝั่งตัวเอง 

Jack Grealish and Kevin De Bruyne

เขาเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่มโอกาสในการมุ่งไปสู่พื้นที่สุดท้ายเพื่อเล่นเกมรุก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะเสียบอลกลางทางก่อน 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ย้ำเสมอว่าการเก็บบอลของแจ็ค กรีลิช ถือเป็นการป้องกันไม่ให้คู่แข่งนั้นสามารถเล่นเกมโต้กลับได้ นั่นช่วยให้เพื่อนร่วมทีมสามารถที่จะบุกได้อย่างต่อเนื่อง ในการสร้างโอกาสอันตรายเพื่อทำประตู 

ไม่แปลกเลยว่าหลายต่อหลายครั้ง เป๊ปออกมาพูดถึงกรีลิชในมุมบวก เพราะแท้จริงแล้วนี่คือหนึ่งในนักเตะที่ช่วยให้พวกเขาสามารถเล่นงานคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง และส่งผลประโยชน์กับทีมในภาพรวม แม้ว่าผลงานส่วนตัวของเขาจะไม่โดดเด่นก็ตาม แต่ตอนนี้กรีลิชกำลังกลายเป็นแข้งปิดทองหลังพระอย่างแท้จริงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.