เมสซีฟัดโรนัลโด้ : ทำไม อาร์เจนตินา ดวล โปรตุเกส ถึงเป็นคู่ชิงในฝันของบอลโลก 2022

Dom Farrell

เมสซีฟัดโรนัลโด้ : ทำไม อาร์เจนตินา ดวล โปรตุเกส ถึงเป็นคู่ชิงในฝันของบอลโลก 2022 image

ลิโอเนล เมสซี ปะทะ คริสเตียโน โรนัลโด้ ในเกมการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ใครล่ะจะไม่อยากดู

บางคนอาจจะกรอกตาไปรอบ ๆ เราเคยได้รับการเปลี่ยนแปลงในธีมนี้ 2 ครั้งต่อปีสำหรับช่วงที่ดีที่สุดในทศวรรษ และมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณเดินผ่านภูเขาแห่งไซโครดราม่าเพื่อหาแมตช์ฟุตบอลระดับสูงที่หลบซ่อนอยู่ในช่วงที่วุ่นวายที่สุดของเกม เอล กลาซิโก้

แต่นี่ มันแตกต่างออกไป ในศึกฟุตบอลโลกที่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา เมสซี และ โรนัลโด้ สองนักเตะที่เก่งที่สุดในยุคของพวกเขา และสองนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล มาพบกันในนัดชิงชนะเลิศ มันเป็นอะไรที่เกินต้านสุด ๆ

การพบกันสุดยิ่งใหญ่, ความฝันนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยทั้งคู่ อาร์เจนตินา และ โปรตุเกส ได้ผ่านเข้ามาสู่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยการผ่านอะไรแบบที่คาดไม่ถึงมา ซึ่งเชื่อว่ามันจะต้องมีอะไรมากกว่านี้อีกแน่ ๆ

 

มีแฟนบอลมากมายที่คอยหนุนหลังอาร์เจนตินา ซึ่งมีมากกว่าหมื่นคนเลยที่เดินทางไปประเทศกาตาร์เพื่อเชียร์ให้ เมสซี ทำงานของเขาให้เสร็จในฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของเขา นั่นก็คือการคว้าแชมป์เพื่อที่จะได้ขึ้นไปเทียบกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ได้

อาร์เจนตินา ได้กลายมาเป็นทีมที่แบบว่า “ถ้าเราไม่สามารถทำได้, เราหวังว่า เมสซี จะทำได้” ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนคิด ก็ต้องมารอดูกันต่อว่า ความเชื่อนี้ จะทำให้พวกเขาเหมือนถูกเติมเชื้อเพลิงหรือว่าไม่กันแน่ และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่คุมทัพโดน หลุยส์ ฟาน กัล ก็พยายามที่จะสร้างบาดแผลให้พวกเขา

ลูกทีมของ ลิโอเนล สกาโลนี่ มาเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยสถิติไร้พ่าย 36 นัดติดต่อกัน และคว้าแชมป์โคปาอเมริกาได้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำการสิ้นสุดการรอคอยมานานกว่า 28 ปี และเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี ด้วย

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ น่าจะทำให้อาร์เจนตินาเป็นทีมที่นิ่งขึ้น หลังเขาโดน ซาอุดิอาระเบีย ยิง 2 ประตูในช่วงครึ่งหลัง ทำให้พวกเขาแพ้เกมรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกไป 1-2

Getty Images

มันทำให้ อาร์เจนตินา กลับไปสู่ความยุ่งเหยิงอีกครั้งเหมือนในปี 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งนั่นหมายถึงความตึงเครียดในเกมกับเม็กซิโก ก่อนที่ เมสซี จะมาทำประตูที่ 2 ได้ในช่วงท้ายเกม

ดาวเตะวัย 35 ปี ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมกับโปแลนด์ โดยในนัดนั้นทีมของเขาเอาชนะได้ 2-0 แม้ว่าในช่วงครึ่งแรก เมสซี จะพลาดลูกจุดโทษก็ตาม

เรื่องราวในรอบ 16 ทีมมันก็คล้าย ๆ กัน เมสซี และ ยูเลียน อัลวาเรซ ทำคนละ 1 ประตู ทำให้ทัพฟ้าขาวนำ 2-0 ก่อนที่ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ จะมาทำเข้าประตูตัวเองทำให้เกมกับออสเตรเลียนั้นตึงเครียด แต่สุดท้ายก็จบเกมด้วยชัยชนะของอาร์เจนตินาอีกครั้ง

โมเมนตั้มและเซนต์ฟุตบอลของอาร์เจนตินา เริ่มที่จะค่อย ๆ หายไป เฟอร์นานเดซ ทำประตูสุดสวยในเกมกับเม็กซิโก ในขณะที่ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ก็ได้เฉิดฉายฟอร์มในตำแหน่งกองกลาง

อย่างไรก็ตาม การขาดหายไปของ โล เซลโซ ก่อนทัวร์นาเมนต์นี้ ทำให้ สกาโลนี่ ต้องเปลี่ยนแผนการเล่น ตราบใดที่อาร์เจนตินายังชนะอยู่ นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีข้อผิดพลาด แต่เมื่อพวกเขาชนะ ก็จะถูกยกย่องว่าเป็นทีมที่ใช้โอกาสไม่เปลือง

ทางด้าน อัลวาเรซ ก็สามารถทำผลงานได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยส่วนหนึ่งก็มาจากฟอร์มที่ย่ำแย่ของ เลาตาโร มาร์ติเนซ ด้วย ซึ่งดูเหมือนว่า เขาจะลืมรองเท้าสตั๊ตไว้ที่เมืองมิลาน

Lionel Messi and Julian Alvarez celebrate for Argentina
Getty Images

การปรับแต่งเกมรุกที่มากมายของอาร์เจนตินา นั้นเทียบกับ เฟอร์นานโด ซานโตส ของทีมชาติโปรตุเกสไม่ได้เลย หลังเขามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเกมที่เจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

บางครั้ง ทีมชาติโปรตุเกส ก็เหมือนกับเป็นพาหนะที่วิ่งวนเรื่องละครน้ำเน่าของโรนัลโด้อยู่เรื่อย ๆ นับตั้งแต่เขาเข้าร่วมทีมในฟุตบอลโลก 2022 เขาเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่โปรไฟล์สูงสุด ๆ หลังจากยกเลิกสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถทำประตูได้ในฟุตบอลโลก 5 ครั้ง โดยที่เขายิงได้จากลูกจุดโทษในเกมแรกกับกาน่า เขาพยายามที่จะทำอีกประตูหนึ่งในเกมกับอุรุกวัย แต่สุดท้ายเทคโนโลยีในลูกฟุตบอลของอาดิดาสได้บอกว่า ประตูนั้น เป็นของ บรูโน แฟร์นันด์ส

จากนั้น ดาวเตะวัย 37 ปี ก็แสดงอาการไม่พอใจหลังถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่ทัพฝอยทองแพ้ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย

“ผมไม่ชอบมันเลย” เฟอร์นานโด ซานโตส โค้ชทีมชาติโปรตุเกส กล่าว “เรื่องเหล่านี้ได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้มันจบแล้ว และตอนนี้ ทุกคนก็โฟกัสไปที่เกมการแข่งขันในวันพรุ่งนี้”

ซานโตส แก้ปัญหานี้ด้วยการส่ง กอนซาโล ซานโตส ดาวยิงจาก เบนฟิก้า วัย 21 ปีลงเล่นในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่เขาจะซัดแฮตทริก ช่วยทีมเอาชนะเกมนี้ไปได้ 6-1 โดยที่ โรนัลโด้ ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม

“เราต้องการให้ทีมเล่นอย่างลื่นไหล” ซานโตส กล่าวหลังจบเกม “คริสเตียโน มีความแน่วแน่มากขึ้น เขามุ่งมั่นไปที่กรอบเขตโทษมากขึ้น และ กอนซาโล ก็เป็นนักเตะที่มีสไตล์แตกต่างออกไป เขาแข็งแกร่ง เขามีพลกำลัง และนั่นคือสิ่งที่เขาแสดงให้เราเห็น”

Cristiano Ronaldo Portugal World Cup 2022
Getty Images

มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการกลับไปเล่นตัวจริงอีกครั้งของ โรนัลโด้ ในเกมกับโมร็อกโก โดยการที่ โมร็อกโก เสียประตูเพียงแค่ลูกเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขาเป็นทีมที่แกร่งกว่าสวิตเซอร์แลนด์อย่างชัดเจน

มันจะมีปัญหาอะไรไหมสำหรับ เมสซี ปะทะ โรนัลโด้ ในนัดชิง แต่จะมีฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้ลงเล่น? บราซิล และ ฝรั่งเศส ถือว่าเป็นทีมที่แกร่งที่สุดในแต่ละสาย

หากว่านัดชิงในฝันที่กล่าวไว้ข้างต้นเกิดขึ้นจริง เมสซี สตาร์ทตัวจริง แต่ โรนัลโด้ เป็นตัวสำรอง เกมนี้จะถูกวิจารณ์ไปอีกยาวนานเลยไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร? ไม่เลย เพราะว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น

ยกเว้นแต่ ฝรั่งเศส จะมีส่วนร่วมในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่อังกฤษหรือโปรตุเกสจะต้องป้องกันเพื่อให้แมตช์ในฝันนี้เกิดขึ้น

 

เอาชัยชนะของฝรั่งเศส ที่ชนะบราซิล 3-0 และฝรั่งเศสชนะโครเอเชีย 4-2 ออกจากนัดชิงแมตช์นี้ไป ยกเว้นในเกมนัดชิงในปี 1986 ที่ตัดสินกันด้วยผลต่างประตูเดียวหรือการดวลจุดโทษ และอีกแมตช์หนึ่งที่ต้องยกเว้นไว้ก็คือเกมในปี 2002 ที่บราซิลเอาชนะเยอรมัน โดยตอนนั้นเสมอกัน 0-0 ในช่วงพักครึ่ง ก่อนที่ โรนัลโด้ จะมายิงประตูในช่วง 11 นาทีสุดท้าย

ตรรกะทั้งหมดนั้นบ่งบอกว่า เกมนัดชิงระหว่าง อาร์เจนตินา และ โปรตุเกส จะเป็นอะไรที่เข้มข้นมาก ๆ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ เฟอร์นานโด ซานโตส จะดร็อป โรนัลโด้ เอาไว้บนม้านั่งสำรอง

ในจุด ๆ หนึ่ง เมสซี และ โรนัลโด้ อาจจะได้ต่อสู้ด้วยกันเพื่อคว้าแชมป์ที่อยู่ไกลเกินเอื้อม และแบกความหวังของทีมชาติที่ไม่เคยปิดกั้นเรื่องเวลาที่พีคที่สุดของพวกเขาในนามสโมสร

ไม่ว่าใครที่จะชนะในเกมนี้ มันจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันจะไม่เหมือนกับนัดชิงเกมอื่น ๆ และเรื่องที่น่ายินดีมาก ๆ ก็คือ แมตช์นี้มันยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงได้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Dom Farrell

Dom Farrell Photo

Dom is the senior content producer for Sporting News UK. He previously worked as fan brands editor for Manchester City at Reach Plc. Prior to that, he built more than a decade of experience in the sports journalism industry, primarily for the Stats Perform and Press Association news agencies. Dom has covered major football events on location, including the entirety of Euro 2016 and the 2018 World Cup in Paris and St Petersburg respectively, along with numerous high-profile Premier League, Champions League and England international matches. Cricket and boxing are his other major sporting passions and he has covered the likes of Anthony Joshua, Tyson Fury, Wladimir Klitschko, Gennadiy Golovkin and Vasyl Lomachenko live from ringside.