ในการแข่งขันทุกทัวร์นาเมนต์สำหรับฟุตบอลระดับเมเจอร์ในทีมชาติ หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ที่แฟนบอลพูดถึงมาเสมอคือทีมชาติอังกฤษ พวกเขาคือชาติยักษ์ใหญ่ที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมา 1 สมัย แต่นั่นมันคือเรื่องเมื่อ 56 ปีที่แล้ว โดยหลังจากนั้นพวกเขาก็ทำได้แค่เป็นไม้ประดับตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
การเข้ามาของแกเร็ธ เซาธ์เกต ทำให้แฟนบอลสิงโตคำรามมีความหวังว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์โลกอีกครั้ง แต่เมื่อความผิดพลาดได้เกิดขึ้น และต้องมีใครสักคนแสดงความรับผิดชอบครั้งใหญ่
ผลงานที่ไม่น่าประทับใจของในฟุตบอลโลก 2022 จึงทำให้มีกระแสปลดแกเร็ธ เซาธ์เกตเกิดขึ้น แต่สุดท้ายสมาคมฟุตบอลอังกฤษเลือกจะไว้วางใจให้ผู้จัดการทีมรายนี้ได้ไปต่อแบบค้านสายตาแฟนบอลหลายคน
แต่อะไรที่ทำให้อังกฤษเลือกเดินหน้าต่อกับเซาธ์เกธ ติดตามได้ที่นี่
ผลงานดีสม่ำเสมอ
หลังจากจบฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติอังกฤษจอดป้ายแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ตกรอบนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ด้วยจำนวน 7 ครั้ง
นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะมองว่า ทีมชาติอังกฤษมีผลงานที่น่าผิดหวังในฟุตบอลโลกหนนี้ ยิ่งพิจารณาจากตัวผู้เล่นของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์ ที่สามารถผสมผสานนักเตะมากประสบการณ์กับดาวรุ่งฝีเท้าดีอย่างลงตัว การตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายของทีมชาติอังกฤษ จึงถือเป็นผลงานน่าผิดหวังอย่างปฏิเสธไม่ได้
อย่างไรก็ดี การพ่ายแพ้ให้กับทีมแชมป์เก่า และคู่ชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2022 อย่างทีมชาติฝรั่งเศส ถือเป็นความปราชัยที่ไม่น่าอับอายสำหรับทีมชาติอังกฤษ เพราะทัพตราไก่ลงเล่นในกาตาร์ด้วยคุณภาพระดับสูง
ผู้คนมากมายมองว่าอังกฤษมีความเป็นไปได้ที่จะตกรอบ ตั้งแต่ก่อนการแข่งขันนัดดังกล่าว เพราะทีมชาติฝรั่งเศสพร้อมจะลงโทษทุกทีมที่ไม่สามารถงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา ซึ่งทัพสิงโตคำรามคือหนึ่งในทีมเหล่านั้น
การจะบอกว่าผลงานของทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2022 น่าผิดหวังโดยสิ้นเชิง … มันคงจะไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว เพราะถ้าหากตัดเรื่องความหวังของเหล่าแฟนบอลออกไป
ทีมชาติอังกฤษยังถือว่ามีผลงานที่อยู่ในมาตรฐานของแกเร็ธ เซาธ์เกต เพราะนับตั้งแต่เริ่มเขาคุมทีมในปี 2016 ผลงานในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของทัพสิงโตคำราม ถือว่ามีผลงานออกมาดีเสมอ
ไล่ตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศของรายการ หรือ ยูโร 2020 ที่ก้าวไปถึงนัดชิงชนะเลิศ ก่อนจะการเดินทางด้วยตำแหน่งรองแชมป์ และถึงแม้ฟุตบอลโลกหนนี้จะเป็นอีกครั้งที่ทีมชาติอังกฤษต้องผิดหวัง
แต่ผลงานที่ผ่านมาของเซาธ์เกตถือว่าน่าประทับใจสุด เมื่อเทียบกับผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนก่อน ๆ ที่ไม่สามารถพัฒนาทีมซึ่งอุดมไปด้วยดาวดังให้เล่นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบนี้
แทคติกไม่ได้แย่เท่าที่โดนโจมตี
ปัญหาเรื่องวิธีการเล่นของทีมชาติอังกฤษยุคแกเร็ธ เซาธ์เกต ถือเป็นประเด็นหลักที่ทำให้กุนซือรายนี้มักถูกวิจารณ์มาเสมอ เนื่องจากว่าฟุตบอลในแบบที่เขาต้องการ ไม่สามารถพัฒนาให้ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษเดินก้าวหน้าไปไหน
เซาธ์เกตยังคงยึดติดกับแทคติกในรูปแบบเดิมซึ่งเน้นเกมรับเป็นหลัก ส่วนเกมรุกไม่หวือหวา และเน้นไปกับการโจมตีฉาบฉวยเป็นหลัก โดยวิธีการที่เซาธ์เกตเลือกใช้กลับขัดใจแฟนบอลเป็นอย่างมาก
เพราะศักยภาพของผู้เล่นที่มีอยู่ภายในทีมต่างคุ้นเคยกับฟุตบอลระดับสูง จึงสามารถเล่นในแทคติกเกมรุกที่มีรายละเอียดสูงได้สบาย แต่เซาธ์เกตไม่เคยพัฒนาแทคติกของเขาให้ไล่ทันฝีเท้าของนักเตะ ทีมชาติอังกฤษจึงไม่เคยกลายเป็นทีมเน้นเกมรุกบุกสบาย และไม่เคยก้าวเป็นยอดทีมในแบบที่ใครหลายคนต้องการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงวิธีการแล้ว การพูดถึงผลลัพธ์ที่ออกมาถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะถึงแม้แทคติกของแกเร็ธ เซาธ์เกต จะทำให้แฟนบอลหลายคนไม่ถูกใจแค่ไหน แต่เมื่อผลลัพธ์ส่วนใหญ่ของทีมชาติอังกฤษ ยังออกมายอดเยี่ยม และน่าประทับใจอยู่ตลอดช่วงหลายทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา
นี่คือความจริงที่เซาธ์เกตต้องแบกรับคำวิจารณ์ทีมที่หนักเกินไปเสมอ เพราะสุดท้ายเราก็ต้องมาดูกันทั้งวิธีการและผลลัพธ์ ซึ่งตอนนี้ถึงแม้วิธีการไม่ถูกใจ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ลุ้นแชมป์เพราะเซาธ์เกต
สิ่งหนึ่งที่อาจทำให้ใครหลายคนมองแกเร็ธ เซาธ์เกต ในมุมที่แตกต่างออกไป คือพัฒนาการของทีมชาติอังกฤษที่เดินหน้าต่อเนื่อง เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทีมชาติอังกฤษก้าวเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และสามารถลุ้นแชมป์อย่างจริงจัง
นี่คือช่วงเวลาที่คำว่า “เต็งแชมป์” ของทีมชาติอังกฤษ ไม่ใช่แค่คำโม้โอ้อวดหรือการเชื่อมั่นในตัวเองเกินไปแบบหลายปีก่อน เซาธ์เกตคือชายที่ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษเข้าใกล้การคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาอย่างละเอียด เราจะเห็นถึงการเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้กับทีมชาติอังกฤษมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับนักเตะสายเลือดใหม่ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมอย่างช้า ๆ
การปลดแกเร็ธ เซาธ์เกตออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ จึงไม่น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเขาพัฒนาทีมอย่างเป็นระบบ และได้วางแผนเกี่ยวกับการสร้างทีมในอนาคตไว้แล้ว พวกเขาควรเก็บเซาธ์เกตเอาไว้ทำทีมต่อ หรืออย่างน้อยที่สุด เขาควรได้รับโอกาสถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งหน้าอย่างยูโร 2024 ดังนั้นการให้โอกาสเขาต่อไปถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว
เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร เพราะนี่คือการตัดสินใจที่สำคัญครั้งหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ เพราะผลงานอันน่าผิดหวังในฟุตบอลโลก 2022 ย่อมต้องมีคนรับผิดชอบ แต่พวกเขาจะกล้าเอาอนาคตของตัวเองมาเสี่ยงหรือไม่
นี่คือคำถามที่เราจะได้รู้คำตอบกันในไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
