นิโคลัส เปเป้ กลายเป็นเพียงอดีตนักเตะของ อาร์เซนอล เท่านั้น หลังล่าสุด ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยกเลิกสัญญากันเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความยินยอมของทั้งสโมสร และตัวนักเตะ
แม้ในอดีต เปเป้ จะเคยมีส่วนร่วมในการพาทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาย้ายมา แต่จนถึงตอนนี้ แฟนบอลส่วนใหญ่คงกล้าพูดได้เต็มปากว่า นี่คือหนึ่งในดีลที่ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
แล้วเพราะอะไร นิโคลัส เปเป้ ถึงกลายเป็นนักเตะล้มเหลวไม่เป็นท่า และไม่สามารถแจ้งเกิดกับ อาร์เซนอลได้? ร่วมหาเหตุผลไปพร้อมกับเราได้ที่นี่
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ที่นี่
เปิดเหตุผลที่ทำให้ นิโคลัส เปเป้ ล้มเหลวกับ อาร์เซนอล
ความคาดหวัง
ด้วยผลงาน 23 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ ในฤดูกาล 2018-19 ของ นิโคลัส เปเป้ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากบรรดาบิ๊กทีมทั่วยุโรป และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ อาร์เซนอล ที่ยอมทุบคลังและนำสินสอดจำนวน 72 ล้านปอนด์ ไปสู่ขอ ลีลล์ เพื่อนำตัว เปเป้ มาร่วมทีม
ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว แน่นอนว่ามันมากพอที่จะทำให้ นิโคลัส เปเป้ ทำลายสถิติของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรไปโดยปริยาย
ทันทีที่ เปเป้ ถูกปักป้ายว่าเป็นนักเตะระดับประวัติศาสตร์ของสโมสร เขาก็ถูกแฟนบอล “ไอปืนใหญ่” จับตามองทุกฝีก้าว ว่าจะสามารถสร้างอิมแพ็คได้เหมือนดั่ง เมซุต โอซิล และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หรือไม่?
ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้ว ผลงาน 8 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ พร้อมกับพาทีมเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลแรกที่เขาย้ายมา ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยสำหรับนักเตะที่เพิ่งย้ายมาอยู่พรีเมียร์ลีกได้แค่ปีเดียว
แต่แน่นอนแหละว่า ค่าตัว 72 ล้านปอนด์ที่เขาแบกไว้นับตั้งแต่วันเซ็นสัญญา ย่อมทำให้แฟนบอลต้องการผลงานที่สม่ำเสมอมากกว่านี้ ไม่ใช่ 3 วันดี 4 วันไข้ เหมือนดั่งที่เขาเป็นมาโดยตลอด
คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ
นิโคลัส เปเป้ ถูก อาร์เซนอล ซื้อตัวมาร่วมทีมในยุคของ อูไน เอเมรี และด้วยความเร็ว กับ ทักษะการเลี้ยงบอลของเขา จึงทำให้ เปเป้ ถูกวางเป็นนักเตะตัวหลักในแผนรับแล้วโต้ของกุนซือชาวสเปน
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่ เปเป้ ย้ายมา อาร์เซนอล อูไน เอเมรี กุนซือที่ต้องการตัวเขา กลับโดนปลดออกไปอย่างกะทันหัน ก่อนที่หลังจากนั้น มิเกล อาร์เตต้า จะเข้ามารับหน้าที่เป็นกุนซือคนใหม่
และนับตั้งแต่ อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีม เขามีแนวทางชัดเจนว่านักเตะทุกคนต้องเล่นเกมรับเป็น และเล่นร่วมกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุด ๆ นี้ แทบจะไม่มีในตัวของ เปเป้ เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสิ่งที่ทำให้ เปเป้ แจ้งเกิดจน อาร์เซนอล ยอมซื้อตัวมาร่วมทีม นั่นก็คือจังหวะเลี้ยงกินตัวของเขานั่นเอง
แม้ว่า เปเป้ อาจจะไม่มีคุณสมบัติอย่างที่ อาร์เตต้า ต้องการมากนัก แต่ในฤดูกาล 2018-19 เปเป้ ยังพอได้รับโอกาสจาก อาร์เตต้า อยู่บ้าง และได้รับความไว้วางใจให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ที่พบกับ เชลซี
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อ อาร์เตต้า ได้เริ่มโปรเจ็คของเขา และคว้าตัวนักเตะในอุดมคติเข้ามาร่วมทีม หลังจากนั้นเวลาส่วนใหญ่ของ เปเป้ จะอยู่บนม้านั่งสำรองเสียมากกว่า และเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม เขาก็ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับ อาร์เตต้า ได้เลย แม้แต่น้อย
และเมื่อได้ลงสนามแบบจำกัดจำเขี่ย ความมั่นใจ และความสม่ำเสมอของ เปเป้ ก็ลดลงเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุด เขาก็กลายเป็นเพียงแค่นักเตะส่วนเกินของทีมเท่านั้น
การถือกำเนิดของ บูกาโย ซาก้า
ในฤดูกาลที่ นิโคลัส เปเป้ ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซนอล มันคือช่วงเดียวกันที่ บูกาโย ซาก้า ก้าวขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย ในระบบกองหลัง 3 คน
แต่ทันทีที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีม เขาเลือกที่จะจับเด็กหนุ่มรายนี้ มายืนเป็นริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่หลังจากนั้นเป็นต้นมา ซาก้า จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถยึดตัวจริงในตำแหน่งนี้ได้อย่างถาวร และเบียดให้ เปเป้ เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น
ซึ่งจุดที่ทำให้ ซาก้า กลายเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งนี้ นั่นก็คือความสม่ำเสมอ การเล่นเกมรับ และการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ นิโคลัส เปเป้ ให้ อาร์เตต้า ไม่ได้
เมื่อวันเวลาผ่านไป ผลงานของ ซาก้า ก็เริ่มโดดเด่นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างเต็มตัว ซึ่งมันสวนทางกับ เปเป้ ที่แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเพื่อไปพิสูจน์ตัวเอง จนต้องถูกปล่อยยืมตัวไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ดังนั้น หากจะบอกว่า บูกาโย ซาก้า คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ นิโคลัส เปเป้ ล้มเหลวไม่เป็นท่า คงจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด
เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดกีฬาวันนี้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand
