เปาโล รอสซี่ : จากแข้งล้มบอลโดนแบน 2 ปี สู่ฮีโร่ผู้พาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก

The Sporting News

เปาโล รอสซี่ : จากแข้งล้มบอลโดนแบน 2 ปี สู่ฮีโร่ผู้พาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก image

กองหน้าของทีมชาติอิตาลีมักมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งทักษะที่เหลือร้าย, เซนส์บอลที่ยอดเยี่ยม และหน้าตาที่ทรงเสน่ห์ ทำให้ทุกยุคทุกสมัยกองหน้าชาวอิตาลีคือฮีโร่ฟุตบอลของใครหลายคน

แต่ เปาโล รอสซี่ ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาไม่ใช่กองหน้าหมายเลข 9 ที่มีเทคนิคการเล่นโดดเด่นจนเป็นที่น่าจับตามอง ไม่ได้มีการเล่นที่พริ้วไหวสวยงามจนรู้สึกหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่รอสซี่เป็นกองหน้าที่ตัวเล็ก ดูเหมือนเปราะบาง ไม่น่าจะเป็นหัวหอกระดับแถวหน้าของวงการฟุตบอลได้

อีกทั้งครั้งหนึ่งเขาถูกแบนเพราะคดีล้มบอล ไม่ได้เล่นฟุตบอลนานถึง 2 ปี แต่ใครจะเชื่อว่านักเตะที่ขาดคุณสมบัติทั้งใน และนอกสนามแบบนี้ จะกลายเป็นฮีโร่พาทีมชาตอิตาลีคว้าแชมป์โลก และฝากหนึ่งในตำนานที่น่าจดจำที่สุดในฟุตบอลโลก

ฝ่าวิกฤติสร้างชื่อ

เปาโล รอสซี่ เริ่มอาชีพการค้าแข้งที่ยูเวนตุส ในช่วงที่ขึ้นจากทีมชุดเล็กสู่ชุดใหญ่ แต่แน่นอนจากรูปร่างของเขา ทำให้ไม่ได้โอกาสในการเล่นเลยแม้แต่นัดเดียว 

ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเริ่มต้นอาชีพของ เขาต้องถูกผ่าตัดที่เข่าถึง 3 ครั้ง นั่นยิ่งทำให้ทีมม้าลายต้องการหาทางปล่อยเขาออกไป 

ก่อนที่เขาถูกปล่อยยืมไปที่โคโม่ในเซเรีย บี และได้ย้ายไปโชว์ฟอร์มเก่งที่ วิเชนซ่า ในเวลาต่อมา จนรอสซี่สามารถยิง 21 ประตู จนพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในเซเรีย อา ได้สำเร็จ นั่นคือความสำเร็จแรก ๆ ในอาชีพของกองหน้าที่ชื่อว่า เปาโล รอสซี่ 

รอสซี่ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้รางวัลดาวซัลโว ใน 2 ระดับ ในช่วง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน หลังจากเขาขึ้นมาและกด 24 ประตูในเซเรีย อา ทันทีกับต้นสังกัดเดิมอย่างวิเซนซ่า

เอ็นโซ แบร์ซ็อต ผู้จัดการทีมชาติอิตาลีในตอนนั้น ต้องพารอสซี่ติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกในปี 1978 ด้วย ซึ่งกองหน้ารายนี้ก็ทำได้ถึง 3 ประตูในรายการใหญ่ พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

Getty Images

กลับมาในระดับสโมสร ยูเวนตุสอดีตต้นสังกัดของรอสซี่ ถึงยื่นข้อเสนอก้อนโตซื้อตัวกองหน้าฟอร์มแรงรายนี้กลับมา แต่รอสซี่เลือกจะไม่ย้ายทีม เขาขอลุยต่อกับวิเซนซ่า แม้ว่าสุดท้ายทีมจะตกชั้นกลับสู่เซเรีย บี ในฤดูกาล 1978-79 ก็ตาม

รอสซี่ย้ายไปอยู่กับเปรูจาด้วยสัญญายืมตัว และนี่คือจุดเริ่มต้นขาลงครั้งใหญ่ของกองหน้ารายนี้ 

คดีโตโต้เนโร่

ขณะที่รอสซี่ได้โชว์ฟอร์ม กับสโมสรเปรูจาแบบยืมตัว เขาทำได้ 13 ประตูในฤดูกาล 1979-80 นอกจากนี้ยังช่วยให้เปรูจาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของรายการยูฟ่า คัพ นั่นเริ่มเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขามากขึ้น 

แต่กลายเป็นว่าชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม เมื่อไปมีส่วนกับคดีโตโต้เนโร่ ซึ่งถือเป็นคดีที่โด่งดังมากในอิตาลี โดยเป็นคดีเกี่ยวกับการล้มบอลในปี 1980 

เริ่มจากมีเจ้าของร้านพนันในกรุงโรมอ้างว่า มีผู้เล่นบางคนล็อคผลการแข่งขันในเซเรีย อา โดยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรใหญ่ ๆ ในเซเรีย อา 

ส่วนชื่อของนักฟุตบอลอ้างว่ามีราว ๆ 20 คนที่เกี่ยวข้อง โดย 1 ในนั้นคือ เปาโล รอสซี่ กองหน้าทีมชาติอิตาลีนั่นเอง 

Getty Images

เหตุการณ์ของรอสซี่ เป็นเกมที่เขาลงเล่นให้กับเปรูจา เสมอกับสโมสรอเวลลิโน่ ด้วยผลการแข่งขัน 2-2 ซึ่งแม้ว่ารอสซี่จะปฏิเสธทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเมื่อมีการตัดสินว่าเขาผิดจริง ผลตรงนั้นส่งผลให้รอสซี่โดนแบนจากฟุตบอล 3 ปี ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะลดเหลือเพียง 2 ปีเท่านั้น นั่นทำให้เขาพลาดฟุตบอลยูโร 1980 ซึ่งการคาดรอสซี่คือส่วนสำคัญที่ทำให้อิตาลีไม่สามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้ในบ้านเกิดของตัวเอง 

รอสซี่ กลายเป็นนักเตะที่ถูกหาว่าล้มบอล บ้างว่าเขาก็ติดคุกจากเหตุการณ์นี้ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว เขาเองพยายามพิสูจน์ตัวเองมาตลอดว่าเขาเป็นเพียงเหยื่อของเรื่องราวเหล่านี้ 

มีการขุดคุ้ยเรื่องราวมากมาย จนเริ่มเจอกลิ่นของมาเฟียเข้ามาเกี่ยวข้อง แน่นอนว่าเมื่อยิ่งสาวเจอความดำมืด ก็ยิ่งทำให้คำพูดที่รอสซี่บอกว่าตัวเองบริสุทธิ์มีน้ำหนักมากขึ้น

ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ยูเวนตุสสโมสรเก่าของเขา ได้ทำการซื้อรอสซี่ร่วมทีมในปี 1981 ซึ่งเขาก็ได้กลับมาเล่นในช่วงท้ายของฤดูกาล 1981-82 หลังจากพ้นโทษแบนพอดี

แม้ว่าเขาจะได้ลงเล่นแค่ 3 เกม และยิง 1 ประตูเท่านั้น แต่เอ็นโซ แบร์ซ็อต ผู้จัดการทีมชาติอิตาลีก็ไว้ใจ และพาเขาติดทีมชาติไปเพื่อเล่นฟุตบอลโลกด้วย เพราะเชื่อว่าถึงจะไม่ได้เล่นบอลนาน 2 ปี รอสซี่ก็ยังมีความอันตรายของตัวเองอยู่ 

ฮีโร่แชมป์โลก

ฟุตบอลโลก 1982 จัดขึ้นในประเทศสเปน โดยที่ทีมชาติอิตาลีเป็นหนึ่งในทีมร่วมแข่งขัน พวกเขาไร้วี่แววที่จะสามารถคว้าแชมป์ได้ หลังจากที่ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกที่ไม่มีทีมเต็งเลยแม้แต่ทีมเดียว ประกอบไปด้วยโปแลนด์  แคเมอรูน และ เปรู พวกเขาเสมอในทุกเกม เพียงแต่มีลูกได้เสียที่ดีกว่าแคเมอรูน ทำให้พวกเขาจบเป็นที่ 2 ตามโปแลนด์แชมป์กลุ่มเข้าไปรอบแบ่งกลุ่มรอบสองได้

โดยตลอด 3 เกมแรก เปาโล รอสซี่ กองหน้าที่แบร์ซ็อตเชื่อใจยังยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว 

Getty Images

รอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 พวกเขาต้องเจอกับทีมที่ดีที่สุดในโลกในตอนนั้น และเต็งแชมป์อย่างทีมชาติบราซิล และทีมแชมป์เก่าอย่างอาร์เจนติน่า นี่คืองานที่ยากสุด ๆ กับทีมที่ยังชนะใครไม่ได้เลยในทัวร์นาเมนต์นี้

อิตาลีผ่านด่านอาร์เจนติน่ามาได้ 2-1 แบบหืดจับสุด ๆ และแน่นอนว่ารอสซี่ยังยิงไม่ได้เช่นเดิม

เสียงวิจารณ์หนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนเริ่มโทษแบร์ช็อตที่เลือกใช้งานรอสซี่ ซึ่งไม่ได้เล่นบอลมาร่วม 2 ปี จะเล่นไม่ดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป รอสซี่มาระเบิดฟอร์มในเกมกับทีมชาติบราซิล โดยที่กองหน้ารายนี้ยิงแฮตทริก พาอิตาลีขึ้นนำบราซิลเต็งแชมป์ถึง 3 ครั้ง จนอิตาลีสามารถเอาชนะบราซิลชุดนั้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยสกอร์ 3-2 

Getty Images

หลังจากการปลดล็อค รอสซี่ยิงต่อเนื่อง เขาเป็นคนยิง 2 ประตูที่เอาชนะโปแลนด์ในรอบรองชนะเลิศที่สนามคัมป์นู ในบาร์เซโลน่า ตามด้วยอีก 1 ประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศที่พวกเขาเอาชนะเยอรมันตะวันตก ด้วยสกอร์ 3-1 

จากคนไม่มีอะไร รอสซี่กลายเป็นฮีโร่ของชาวอิตาลีทั้งประเทศในทันที เพราะถ้าไม่มีเขา อิตาลีไม่มีทางได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 มาครองอย่างแน่นอน และถือเป็นแชมป์โลกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1938 อีกด้วย

สำหรับรอสซี่ เขาคว้าทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และดาวซัลโวในฟุตบอลโลก 1982 ก่อนจะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้อีกในช่วงปลายปี 1982 

Getty Images

เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในเส้นทางชีวิตของ เปาโล รอสซี่ เขาถึงจุดต่ำสุดก่อนจะขึ้นสูงสุด แต่ชีวิตมันก็แบบนี้ กองหน้าที่พร้อมพุ่งเข้าหาลูกบอลแบบไม่กลัวใคร สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือการทำประตูเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และเขาทำได้สำเร็จ

ตอนนี้สิ่งที่ผู้คนจดจำเปาโล รอสซี่ ไม่ใช่กองหน้าที่อยู่ในคดีล้มบอล แต่เป็นกองหน้าผู้เป็นฮีโร่ที่พาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์โลกในปี 1982 และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.