ตอนนี้อาร์เซนอลกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้า เครดิตเป็นของเขาที่สามารถสร้างทีมขึ้นมาให้กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้
หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงไปน้อยกว่าที่ควรคือ ความเปลี่ยนแปลงของกรานิต ชาก้า ที่กลับมาเป็นคนสำคัญในแผนของอาร์เตต้าฤดูกาลนี้ และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่อาร์เซนอลทำได้ยอดเยี่ยมอยู่ในตอนนี้
กรานิต ชาก้า เปลี่ยนจากนักเตะที่แฟนอาร์เซนอลเบือนหน้าหนี สู่กองกลางตัวจบสกอร์คุณภาพได้อย่างไร ติดตามไปพร้อมกับเรา
ได้เล่นในพื้นที่ถนัด
กรานิต ชาก้า มีปัญหาอยู่เสมอ เมื่อเขาต้องทำหน้าที่ในการเล่นเกมรับ ซึ่งการย้ายมาอาร์เซนอลของเขา ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่านี่คือกองกลางตัวรับ กลับกันเขาคือกองกลางที่มีการจ่ายบอลที่ดี แต่เมื่อต้องเล่นเกมรับเขาไม่เคยที่จะทำได้ดีเลย นับตั้งแต่สมัยอยู่กับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคแล้ว
ทำให้บ่อยครั้งเวลาเขาต้องตัดเกม กลายเป็นโดนใบเหลืองทันที เพราะนั่นคือวิธีที่เขาถนัด เขาไม่ใช่กองกลางตัวสุดท้ายที่ต้องเล่นเกมรับ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาเล่นตั้งแต่สมัยอยู่กลัดบัค ผิดกับตอนที่อยู่อาร์เซนอล หลาย ๆ ครั้งเขาต้องยืนต่ำสุดในแผงกองกลาง
โค้ชชาวสเปนเห็นถึงปัญหาของชาก้า สิ่งที่อาร์เตต้าปรับคือการให้ชาก้า เล่นร่วมกับโธมัส ปาร์เตย์ ที่จะช่วยจัดการหน้าที่เกมรับให้กับชาก้าทั้งหมด
ส่วนชาก้าได้กลับไปทำหน้าที่ในการจ่ายบอลสั้น และยาว ช่วยเคลื่อนเกมให้อาร์เซนอลบุกขึ้นไปข้างหน้าได้อย่างสะดวกมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าเขาแทบจะไม่มีปัญหาเลยในช่วงหลัง เพราะเมื่อทุกอย่างลงตัว เขาได้กลับมาอยู่เล่นในแบบที่ถนัด ทั้งการสร้างสรรค์เกม และมีโอกาสขึ้นไปจบสกอร์
ชาก้าก็ไม่ทำให้อาร์เตต้าต้องผิดหวัง เขาสามารถแสดงให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้ ต่างกับในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่เขาต้องทำหน้าที่เล่นเกมรับอันไม่ถนัด จนเกิดข้อผิดพลาดมากมายตามมา
มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น
ความโดดเด่นของชาก้านั้น มีขึ้นเพราะเขามีส่วนร่วมในการเคลื่อนบอลของอาร์เซนอลมากขึ้น เดิมแล้วชาก้ามีส่วนในการช่ายบอลตรงพื้นที่แนวรับค่อนข้างเยอะ แต่ในฤดูกาลนี้มีการเปลี่ยนแปลง โดยอาร์เตต้าต้องการให้ชาก้าเป็นหนึ่งในอาวุธที่ช่วยขึ้นไปส่งเสริมเกมรุกในพื้นที่สุดท้าย
ชาก้าจึงเป็นนักเตะที่ขึ้นที่ตั้งแต่หน้าปากประตูตัวเอง จนถึงกรอบเขตโทษคู่แข่ง จะเห็นว่าเขาอยู่แทบทุกส่วนของสนาม ไม่ว่าจะระหว่างที่ตั้งเกมจากแดนตัวเองขึ้นไปข้างหน้า หรือการจ่ายบอลตรงพื้นที่แนวรับของคู่แข่ง
เขาคือคนคุมจังหวะเกมไม่ให้เร็วเกินไป หรือช้าเกินไป ค่อย ๆ เล่นจนเกิดความนิ่งให้กับทีม เพื่อป้องกันปัญหาการถูกโจมตีเพราะความผิดพลาดในการจ่ายบอล
ส่วนแนวรุกหลายต่อหลายครั้ง เขาสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่พร้อมจบสกอร์ นี่คือสิ่งที่อาร์เตต้าเพิ่มให้กับชาก้าในฤดูกาลนี้ ต่อยอดจากการปรับตำแหน่งที่ทำให้ชาก้าเล่นได้อย่างหายห่วงแล้ว แต่เพิ่มความสำคัญเข้าไปอีก
ส่วนหนึ่งที่การปรับเปลี่ยนแบบนี้มันง่ายขึ้นในฤดูกาลนี้สำหรับชาก้า เกิดจากระบบที่อาร์เตต้าได้วางเอาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่นักเตะบางคนไม่สามารถจะเล่นได้
เช่นจากเดิมแล้ว แบ็คซ้ายจะเป็นหน้าที่ของ คีแรน เทียร์นีย์ ที่จะวิ่งพื้นที่ริมเส้นเป็นหลัก ไม่สามารถเข้ามาช่วยเกมในแดนกลาง ทำให้ชาก้าต้องเล่นเกมรับมากขึ้น
แต่เมื่อได้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เข้ามาช่วยในการประคองแดนกลางได้เพิ่มเติม ตามความเข้าใจของนักเตะที่เคยอยู่ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้งานของชาก้าได้เล่นเกมบุกตามถนัดมากขึ้น จนสามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้
เขากลายเป็นคนสำคัญทั้งการตั้งเกมในพื้นที่เกมรับ และในคราวนี้เกมรุกเขาก็มีส่วนมากขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ การสร้างโอกาสในการยิงของเขาอยู่ในระดับเดียวกับ เควิน เดอ บรอยน์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ นั่นทำให้แล้วว่าเขายอดเยี่ยมแค่ไหนกับฤดูกาลนี้
ได้รับการยอมรับ
เมื่อทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางแล้วสำหรับชาก้าในฤดูกาลนี้ เขาก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
บทบาทใหม่ของเขาในสนามของเขานำมาซึ่งประตูฝังท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 ในเกมนอร์ธลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ มีแต่ความสุขหลังจบเกมนัดนั้นสำหรับอาร์เซนอล และยังเดินหน้าล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป
ชาก้าเองได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม และในตอนนี้ดูเหมือนแฟน ๆ จะยอมรับเขามากขึ้นแล้วเช่นกันกับช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของเขาแบบนี้
ล่าสุดตำนานสโมสรอย่างมาร์ติน คีโอว์นยกให้ชาก้าเป็น “ลูกรักคนใหม่ของแฟนอาร์เซนอล” เลยทีเดียว ทำให้เห็นว่าชาก้าเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน เขาทุ่มเทอย่างหนักเพื่อแฟนบอลอาร์เซนอลมาเสมอ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือผู้นำอย่างแท้จริง
มันคงถึงเวลาที่ผู้คนจะให้อภัยในความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตของเขา และกลับมายอมรับในความยอดเยี่ยมของกรานิท ชาก้าสักที
