หากย้อนเวลากลับไปสักประมาณ 10 ปี ‘อิสโก้’ ในวัย 20 ต้น ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะอนาคตไกลของวงการฟุตบอลสเปน ที่มักถูกนำไปเปรียบเทียบกับแข้งระดับตำนานอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า เนื่องจากทั้งคู่มีตำแหน่งและสไตล์การเล่นที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน
และถึงแม้ว่าท้ายที่สุด อิสโก้ จะไม่สามารถขึ้นไปแตะคำว่า “เวิลด์คลาส” ได้เหมือนกับ อิเนียสต้า แต่ทว่าผลงานและความสำเร็จของเขาตลอด 9 ปี ที่เรอัล มาดริด นั้นก็ยอดเยี่ยมแบบไร้ข้อกังขาและปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืออีกหนึ่งยอดเพลย์เมกเกอร์แห่งยุค
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากอำลาราชันชุดขาว ในปี 2022 ดูเหมือนว่าเส้นทางการค้าแข้งของเขาจะไม่สวยงามเสียเท่าไหร่ และต้องเจอกับมรสุมชีวิตอย่างมากมาย
กระทั่งในฤดูกาลนี้ อิสโก้ ในวัย 31 ปี ก็ได้เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง หลังทำไป 3 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ ในสีเสื้อของ เรอัล เบติส แถมเจ้าตัวยังมีสถิติที่เทียบเท่ากับกองกลางฟอร์มแรงของยุโรปอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม และ เจมส์ แมดดิสัน อีกด้วย
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลลาลีกาที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
เปิดสถิติ อิสโก้ กลับมาเป็นกองกลางแถวหน้าของยุโรปอีกครั้ง
ชีวิตหลังอำลา เรอัล มาดริด
หลังจากลงสนามไปมากกว่า 350 นัด พ่วงด้วยการคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีก 5 สมัย, ลาลีกา 3 สมัย และโคปา เดล เรย์อีก 1 สมัย ในปี 2022 อิสโก้ ก็ตัดสินใจยุติการเดินทางในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไว้ที่ 9 ปี ก่อนจะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ที่ เซบียา ด้วยสัญญา 2 ปี
อย่างไรก็ดี ชีวิตของ อิสโก้ ที่เซบียา นั้นไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง เนื่องจากเขาทำได้เพียง 1 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนามเพียง 19 นัดเท่านั้น ก่อนที่ในช่วงปลายปี 2022 อิสโก้ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมได้เพียง 4 เดือน ก็ถูกต้นสังกัดยกเลิกสัญญาอย่างกระทันหัน
แม้จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัด แต่คาดว่าเหตุผลที่ทำให้ อิสโก้ ถูกยกเลิกสัญญา เป็นเพราะว่าเขามีปัญหาไม่ลงรอยกับผู้อำนวยการสโมสรอย่าง มอนชี ทำให้เขาถูกแยกซ้อมเดี่ยวในช่วงก่อนฟุตบอลโลก ก่อนที่ภายหลังจะมีการแยกทางในที่สุด
หลังจากอำลา เซบียา อิสโก้ ในฐานะนักเตะฟรีเอเยนต์ ก็ได้รับความสนใจจากหลากหลายทีมทั่วยุโรป แต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับเลือกทีมน้องใหม่ของบุนเดสลีกา อย่าง อูนิโอน เบอร์ลิน
ซึ่งดีลนี้ก็ดูเหมือนจะลุล่วงไปได้ด้วยดี และไม่น่ามีปัญหาอะไร เนื่องจากมิดฟิลด์ชาวสเปนเดินทางไปตรวจร่างกายถึงเยอรมันเป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าในขั้นตอนเซ็นสัญญา ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงรายละเอียดกันได้ ทำให้ดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้น และทำให้อิสโก้ ต้องเป็นนักเตะไร้สังกัดนานถึง 6 เดือนเลยทีเดียว
เกิดใหม่ที่ เรอัล เบติส
หลังจากว่างเว้นการเล่นฟุตบอลอาชีพไปราว ๆ ครึ่งปี ในที่สุด อิสโก้ ก็ได้ต้นสังกัดใหม่ เมื่อ เรอัล เบติส อีกหนึ่งสโมสรดังแห่งแคว้นอันดาลูเซียได้หยิบยื่นโอกาสให้ อิสโก้ กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ด้วยการมอบสัญญาระยะสั้นเป็นเวลา 1 ปี ให้กับเจ้าตัว
ซึ่ง อิสโก้ ก็ตอบแทนโอกาสครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำไป 3 ประตู กับ อีก 2 แอสซิสต์จากการลงสนาม 14 นัดรวมทุกรายการ พร้อมกับพาต้นสังกัดใหม่รั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางลาลีกา สเปน ณ ขณะนี้
และนอกจากนี้เอง อิสโก้ ยังขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 4 ของนักฟุตบอลใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ที่มีสถิติการยิงตรงกรอบมากกว่า 10 ครั้ง, สร้างโอกาสได้มากกว่า 10 ครั้ง, สกัดบอลได้ 10 ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จได้มากกว่า 10 ครั้ง เช่นเดียวกับ จู๊ด เบลลิงแฮม, เจมส์ แมดดิสัน และ อับดุลลาย ดูคูเร่
โดยฤดูกาลนี้แข้งชาวสเปนมีโอกาสยิงเข้ากรอบ 11 ครั้ง, สร้างสรรค์โอกาส 31 ครั้ง, สกัดบอล 12 ครั้ง และมีสถิติเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 20 ครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น อิสโก้ ยังได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากถึง 7 ครั้งอีกด้วย
“ผมหวังว่าผมจะกลับมามีชื่อติดทีมชาติอีกครั้ง มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับนักฟุตบอลทุกคน ผมมีความสุขกับงานที่ผมทำ แต่การมีชื่อติดทีมชาติขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผมทำในสนาม ถ้ารางวัลนั้นมาสักวันหนึ่งผมก็จะมีความสุข” อิสโก้ พูดถึงโอกาสการกลับมาติดทีมชาติสเปน
ทั้งนี้ อิสโก้ ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติสเปนมานานถึง 4 ปี ซึ่งครั้งล่าสุดต้อนย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2019 ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก ที่สเปนพบกับหมู่เกาะแฟโรและสวีเดน ซึ่งหากว่ากันตามฟอร์มจริง ๆ ในฟีฟ่า เดย์ รอบนี้ นั้้นมีโอกาสไม่น้อยเลยที่ อิสโก้ จะมีชื่อกลับมาติดธงอีกครั้ง
Four players in Europe's big-five divisions have registered 10+ shots on target, created 10+ chances, made 10+ tackles and completed 10+ take-ons in the league this season:
— Squawka (@Squawka) October 24, 2023
◉ Jude Bellingham
◉ James Maddison
◉ Abdoulaye Doucouré
◉ Isco
Complete packages. 📦 pic.twitter.com/1dgsJ9sZXT
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลลาลีกาที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand