หลังจากที่ฟุตบอลโลกแข่งขันไปถึงครึ่งทางของรอบ 16 ทีมแล้ว ภาพรวมของทีมที่มีโอกาสจะคว้าแชมป์โลกในทัวร์เมนต์นี้ก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางทีมที่ต้องลงแข่งขันในรอบ 16 ทีมก่อน ก่อนที่จะไปฝันถึงถ้วยแชมป์โลกในบั้นปลาย ซึ่งทีมเต็งเหล่านั้นจะเป็นทีมไหนกันบ้าง ติดตามได้ที่นี่
บราซิล
ขุนพลเซเลเซาได้ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยังไม่เริ่ม และตอนนี้พวกเขาก็ทำได้สมราคากับการที่ถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ โดยที่ บราซิล นั้นชนะในการแข่งขันทั้ง 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้พวกเขาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้วเรียบร้อย
แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ในเกมสุดท้ายพวกเขาต้องมาพ่ายให้กับ แคเมอรูน 0-1 เนื่องด้วยเหตุผลของการพักตัวผู้เล่น
อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากสุดยอดโค้ชอย่าง ติเต้ ที่วางแผนการเล่นได้อย่างแยบยล อีกทั้งพวกเขายังมีขุมกำลังนักเตะมากความสามารถให้เลือกใช้มากมาย
และถึงแม้ว่า บราซิล จะขาด เนย์มาร์ ไปใน 2 เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่เกมที่พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าการขาดดาวดังคนสำคัญไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ซึ่งเกมที่จะพบกับ เกาหลีใต้ ในรอบ 16 ทีมคืนนี้ ติเต้ ก็ได้ออกมายืนยันข่าวดีของพวกเขาแล้วว่าสตาร์ดังอย่าง เนย์มาร์ พร้อมที่จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในนัดนี้
ฝรั่งเศส
แชมป์เก่าเมื่อปี 2018 ถึงแม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยังไม่เริ่ม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยการเอาชนะทั้ง 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมทั้งเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นชาติแรก
การขาดกองกลางตัวหลักอย่าง ปอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตอนแรกดูเหมือนพวกเขาจะต้องคิดหนักในเรื่องนี้ แต่สุดท้ายคู่กลางที่มาแทนอย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี และ อาเดรียน ราบิโอต์ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ
และที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้เลยคือตำแหน่งกองหน้าอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งเขาลงเล่นแทนเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งเขาก็ยังเล่นเข้ากับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งเกมรอบ 16 ทีมที่พบกับ โปแลนด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ฝรั่งเศส ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าทีมของพวกเขานั้นแข็งแกร่งจริง ๆ โดยเฉพาะกองหน้าอย่าง เอ็มบัปเป้ ที่ซัดไปคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ ทำให้เขาขึ้นมานำดาวซัลโวแบบเดี่ยว ๆ อยู่ที่ 5 ลูก
สเปน
พวกเขาเปิดหัวในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการถล่มเอาชนะ คอสตาริก้า ไปถึง 7-0 ทำให้ในตอนนี้ขุนพลกระทิงดุเป็นทีมที่ยิงได้เยอะที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว และถึงแม้ว่าจะต้องเสมอกับ เยอรมัน ในเกมถัดมา แต่โอกาสการเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มของพวกเขาก็ยังมีสูงกว่าใคร ๆ
ทางด้านตัวผู้เล่นของพวกเขา อดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมนักเตะอย่าง เปรดี้ และ กาบี้ คู่หูดาวรุ่งจาก บาร์เซโลน่า ที่เป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งก็ต้องให้เครดิตไปถึงกุนซืออย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ด้วยที่เชื่อใจให้สองดาวรุ่งรายนี้ได้ลงเล่นในเกมระดับเมเจอร์
แต่สุดท้าย สเปน ก็ทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ใจคิด เพราะเกมล่าสุดพวกเขาต้องพ่ายให้กับ ญี่ปุ่น ไป 1-2 ทำให้ทัพกระทิงดุต้องตกมาเป็นรองแชมป์กลุ่ม และไปพบกับ โมร็อกโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าฟอร์มของพวกเขาในตอนนี้น่าจะผ่าน โมร็อกโก ยากอยู่พอสมควร ถ้าหากพวกเขายังไม่เร่งฟอร์มเดิมกลับมาได้ทันเวลา
อาร์เจนตินา
แม้ว่าพวกเขาจะต้องเจอฝันร้ายตั้งแต่นัดเปิดสนาม โดยที่ขุนพลฟ้าขาวนั้นพ่ายให้กับ ซาอุดีอาระเบีย ไปแบบช็อคโลก 1-2 แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาเอาชนะได้ทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ จนคว้าแชมป์ของกลุ่มไปได้
โดยในรอบ 16 ทีม ทัพฟ้าขาวก็ผ่าน ออสเตรเลีย มาได้อย่างไม่ยากเย็น และรอไปพบกับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งแน่นอนว่าแข้งคนสำคัญของทีมที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ ลีโอเนล เมสซี่ ซึ่งเขาก็ทำไป แล้ว 3 ประตูให้กับ อาร์เจนตินา ดังนั้นเขาจึงเป็นตัวความหวังสูงสุดของพลพรรคฟ้าขาวในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะถ้าคราวนี้หากเขาไม่สามารถพา อาร์เจนตินา คว้าแชมป์โลกได้ ตัวเขาเองก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้วในฟุตบอลโลกครั้งต่อไป
อังกฤษ
ขุนพลสิงโตคำรามเปิดตัวได้อย่างสวยหรูในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเอาชนะ อิหร่าน ไป 6-2 และถึงแม้ว่าจะเสมอกับ สหรัฐอเมริกา 0-0 ในเกมที่สอง แต่ อังกฤษ ก็มาแก้ตัวได้ด้วยการเอาชนะ เวลส์ 3-0 พร้อมทั้งความแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ
ส่วนในรอบ 16 ทีมที่พบกับ เซเนกัล เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาก็เอาชนะไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และในรอบ 8 ทีมทัพสิงโตคำรามก็มีงานหนักอย่าง ฝรั่งเศส รออยู่
ขุมกำลังและฟอร์มการเล่นของพวกเขาจะเรียกได้ว่านี่เป็นยุคทองของทีมชาติอังกฤษก็คงไม่ผิดอะไร เพราะพลพรรคสิงโตคำรามนั้นต่อยอดในทั้งสองเรื่องมาได้ดีตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018
และตัวผู้เล่นอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม, เดแคลน ไรซ์, เมสัน เมาท์, บูกาโย่ ซาก้า, ฟิล โฟเด้น และมาร์คัส แรชฟอร์ด ก็คงอยู่กับทีมและมีโอกาสได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ให้กับทีมชาติอังกฤษไปได้อีกหลายสมัย
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
