ย้อนกลับไปในอดีต ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ถือเป็นกองหน้าระดับโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ตอนที่เขาโชว์ฟอร์มกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาเคยคว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกา
ตามด้วยการย้ายมาอยู่ในพรีเมียร์ลีก กับ อาร์เซนอล เขาก็เคยคว้าดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นเดียวกัน เขาถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ในวัย 33 ปี หลังจากก่อเรื่องไม่น่าจดจบกับอาร์เซนอล การได้ย้ายมาอยู่กับเชลซี จริง ๆ แล้วมันควรเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้โชว์ศักยภาพของเขาออกมา เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคือของจริง แต่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเชลซีที่พลาดไปกองหน้ารายนี้มาร่วมทีม
คนซื้อไม่ได้ใช้
ในตอนนี้ผู้จัดการเชลซีชื่อว่า แกรห์ม พอตเตอร์ และเขาไม่ใช่คนที่ดึง โอบาเมยอง มาร่วมทีม
ชัดเจนมากว่า ในช่วงท้ายของตลาดนักเตะผู้จัดการทีมคนก่อนอย่าง โธมัส ทูเคิล ดึงโอบาเมยองมาร่วมทีมเชลซี เพื่อที่จะนำมาช่วยปัญหากองหน้าปืนฝืดของทีม
สิ่งหนึ่งที่มองเห็นคือทูเคิลเชื่อใจโอบาเมยองในหลายเรื่อง เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อนสมัยอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และทูเคิลคือคนที่ปั้นจนโอบาเมยองกลายเป็นกองหน้าระดับโลก
แม้ศักยภาพในตอนนี้ จะลดลงไปมากแล้วก็ตาม แต่เชื่อได้เลยว่าทูเคิลมีโอกาสที่จะดึงศักยภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ของโอบาเมยองออกมาในสีเสื้อเชลซี
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อโอบาเมยองได้เล่นกับเชลซียุคทูเคิลเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง และแน่นอนพอเปลี่ยนโค้ชเป็นพอตเตอร์ก็ต้องมาเรียนรู้กันใหม่
นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก และสามารถบอกได้ว่าทูเคิลที่เป็นคนตั้งใจดึงโอบาเมยองมาร่วมทีมจากบาร์เซโลน่า กลับไม่ได้ใช้อย่างจริงจัง และคนที่ใช้กลับเป็นพอตเตอร์ที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รักโอบาเมยอง ในแบบเดียวกับที่ทูเคิลรักแน่นอน
อายุที่มากขึ้น
มีนักเตะหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะในยุคหลังสามารถเล่นฟุตบอลแบบเต็มศักยภาพ และเป็นผู้เล่นระดับโลกอยู่เหมือนเคย แม้อายุเข้าเลข 3
แต่สำหรับโอบาเมยอง เราเห็นชัดเจนว่า เมื่อเขาอายุมากขึ้น มันยิ่งส่งผลต่อฝีเท้าของเขาชัดเจนมาก ๆ
เขาไม่ใช่กองหน้าคนเดิมที่เราเคยรู้จัก เขาเป็นกองหน้าที่แค่เคยเก่ง ไม่ได้เก่งเท่าเดิมแล้ว ทั้งการเคลื่อนที่ หรือความกระฉับกระเฉงมันหายไปหมด เขาดูเลื่อนลอยไม่ได้สนุกกับการเล่นฟุตบอลแบบที่เราได้เห็นเมื่อหลายปีก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้โอบาเมยอง มีสถิติยิงประตูเกือบ 30 ประตูต่อฤดูกาล แต่ในสองฤดูกาลหลังสุด โอบาเมยองยิงได้สุด ๆ แค่ 20 ประตูเท่านั้น บางปีก็ไม่เกิน 20 ประตู
ยิ่งฤดูกาลนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทาง โอบาเมยองยิงได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น แสดงให้เห็นชัดว่า ประสิทธิภาพในการทำประตูของเขา ไม่ได้เป็นแบบเดิมอีกแล้ว
พอมองไปแล้ว เราสามารถบอกได้เลยว่า อายุของโอบาเมยองคือหนึ่งในปัญหาใหญ่ของเขาในตอนนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เชลซีไปคว้าตัวเขามา เหมือนกลายเป็นเพิ่มตัวแก่ให้กับทีมที่ก็ต้องมาหาทางขายทิ้งกันอีกในอนาคตอันใกล้ เพราะไม่สามารถใช้จริงได้ ทั้งที่ทีมในตอนนี้ต้องการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่
ศักยภาพที่ลดลง
จุดแข็งของ โอบาเมยอง ในช่วงเวลาที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนถูกมองว่าเป็นกองหน้าระดับโลกคือ “ความเร็ว”
การวิ่งฉีกตัวประกบ เพื่อเล่นเกมโต้กลับด้วยความเร็วสูงนั่นคือจุดเด่นที่สุดของกองหน้าคนนี้
แต่แล้วอายุที่มากขึ้น เราเห็นได้ชัดเจนว่าศักยภาพของเขาในด้านนี้ลดลงในทุกปี ตั้งแต่ช่วงปลายของเขากับอาร์เซนอล ยาวจนถึงในตอนนี้กับเชลซี
แม้ว่าเขายังคงมีสัญชาตญาณดาวยิงอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้สามารถที่จะทำแบบที่เคยทำได้เหมือนในอดีตอีกแล้ว
ศักยภาพที่ลดลงของโอบาเมยอง ชัดเจนว่าเขาไม่ใช่นักเตะคนเดิมที่เชลซีจะหวังผลได้ มากไปกว่านั้นจากนิสัยเจ้าตัว ก็ดูจะไม่ได้เดือดร้อนอะไรนัก เล่นไปเรื่อย ๆ หากได้ประตูก็ดี แต่ไม่ได้ก็ไว้ว่ากันใหม่ ไม่ได้พยายามผลักดันเพื่อเรียกศักยภาพเต็มออกมา นั่นทำให้เชลซีไม่ได้ประโยชน์จากกองหน้ารายนี้เท่าไหร่นัก
กับผลงานของโอบาเมยองจนถึงตอนนี้กับเชลซี จากการลงเล่น 13 เกมจากทุกรายการ และยิงไปได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น ทำให้เรามองเห็นภาพว่าในตอนนี้ความเป็นไปได้ว่าดีลของโอบาเมยอง กับเชลซี จะกลายเป็นดีลที่ล้มเหลวชัดขึ้นเรื่อย ๆ
บวกกับตัวนักเตะเองก็ไม่ได้ดูจะมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาเพื่อให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ทุกอย่างอาจยิ่งไปกันใหญ่
ถ้าสุดท้ายโอบาเมยองกลายเป็นดีลที่ล้มเหลวของเชลซี คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักจากเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก