เชื่อหรือไม่ว่าอาการป่วยจะทำให้คนอย่าง เฆซุส นาบาส ก้าวขึ้นมาเป็นตำนานสโมสร เซบีญา ผู้ยิ่งใหญ่ที่ชูถ้วยแชมป์ ยูโรปาลีก กับทีมไปมากกว่า 4 สมัย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ากว่าจะมาอยู่จุดนี้ของ นาบาส ต้องแลกกับอาการป่วยที่หวานอมขมกลืน
ย้อนกลับไปปี 2005 นาบาส ในวัย 19 ปีถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค Homesick หรือโรคคิดถึงบ้านขั้นรุนแรง หลังจากเจ้าตัวไม่มีกะจิตกะใจจะซ้อมกับทีมระหว่างออกมาเข้าแคมป์เก็บตัวก่อนเปิดฤดูกาลที่นอกจังหวัดเซบีญา แค่ราว ๆ 100 กิโลเมตร
หลังจากนั้นสโมสรก็รู้ดีว่าการปล่อย นาบาส ออกจากอ้อมอกคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ทว่าเรื่องดีที่เกิดขึ้นสวนทางมาก็คือมันช่วยรับประกันได้ว่า นาบาส จะอยู่กับสโมสรไม่จากไปไหนเพียงแต่เขาอาจเจออุปสรรคยามต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือนหรือออกไปเตะกับทีมชาติสเปนในสถานที่ห่างไกล
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลประจำวันได้ที่นี่
นาบาส ก้าวขึ้นมายึดตัวจริงทีมได้ถาวรในตำแหน่งปีกขวาช่วงฤดูกาล 2004-2005 จนถึง 2009-2010 กระทั่งฟอร์มไปเข้าตา บิเซนเต เดล บอสเก้ เรียกติดทีมชาติสเปนไปลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ดี สื่อของสเปนไม่ได้รายงานว่า นาบาส เจออาการป่วยคิดถึงบ้านเล่นงานหรือไม่เพราะกระแสที่ทัพ "กระทิงดุ" คว้าแชมป์โลกในปีนั้นก็กลบอาการป่วยเขาไปหมด
วันเวลาผ่านมาจนถึงทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2012 ที่ประเทศยูเครนและโปแลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วม นาบาส ขอถอนตัวจากทีมชาติสเปนเพราะคิดถึงบ้านอย่างรุนแรงก่อนแข่งไม่กี่วันจนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วยุโรป แม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะกลับใจไม่ถอนตัวหลังได้จิตแพทย์มาดูแลส่วนตัวจนจบทัวร์นาเมนต์พร้อมชูถ้วยแชมป์กับเพื่อน ๆ ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม โชคก็เข้ามาหาเขาอีกครั้งในปี 2013 เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอก้อนโตเข้ามาซึ่งเขาและสโมสร เซบีญา ไม่อาจปฏิเสธได้ขณะเดียวกันสื่ออังกฤษก็ประโคมข่าวโรคคิดถึงบ้านของ นาบาส กันไม่เว้นวันพระวันเจ้าว่ามันคุ้มหรือที่ แมนฯ ซิตี้ จะฝากผีฝากไข้กับคนป่วยอย่างเขา
ในที่สุด นาบาส ก็ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต เขารู้ดีว่าหลังจากถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ในปี 2005 ก็มีทีมแพทย์ประกบติดตัวเขา 24 ชั่วโมง ยามต้องออกไปเล่นทีมเยือนหรือไปเข้าแคมป์นอกจังหวัดเซบีญา และเมื่อเขาตัดสินใจจะไปแล้ว นาบาส ก็เข้ารับคำปรึกษาเกี่ยวกับอาการคิดถึงบ้านเรื้อรังและปัญหาอื่น ๆ ทีมแพทย์กล่าวว่าเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อเดินทางไปต่างแดนกับทีมชาติสเปนหรือออกไปเยือนในถ้วยยุโรปกับ เซบีย่า เขาก็สามารถทำได้ ขั้นตอนต่อไปคือความกล้าที่จะการย้ายไปต่างประเทศเท่านั้น
และในเดือนมิถุนายน 2013 เซบีญา ก็ยอมรับข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในพรีเมียร์ลีก นาบาส รู้สึกว่าพร้อมที่จะตอบตกลง ถึงเวลาแล้วที่เขาจะเอาชนะความคิดถึงบ้านได้หรือไม่
การต่อสู้กับความวิตกกังวลและอาการคิดถึงบ้านในช่วงต้นอาชีพของเขาได้รับการบันทึกไว้อย่างดี แม้กระทั่งปีแรกกับ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่ มานูเอล เปเญกรินี่ ที่มีประสบการณ์ในลีกสเปนมาก่อนก็รู้วิธีจัดการกับเขาได้พอสมควร แม้ว่า นาบาส จะยอมรับว่าเขามีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ในตอนแรก แต่อาการคิดถึงบ้านเรื้อรังที่ทำให้เขาบั่นทอนจิตใจตั้งแต่ยังหนุ่มไม่เคยปรากฏเลย
ฤดูกาล 2015-2016 นาบาส เปิดใจกับสื่อ fourfourtwo เกี่ยวกับฤดูกาลที่สามของเขาในอังกฤษ เขาเผยว่าอาการคิดถึงบ้านของเขาอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างแน่นหนาจากทีมจิตแพทย์ของ แมนฯ ซิตี้
"ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมมีความสุขที่เอาชนะปัญหาเหล่านี้ได้และโฟกัสไปที่ฟุตบอล ซึ่งมีความหมายกับผมทุกอย่าง ความจริงก็คือฉันตั้งรกรากได้ดีที่อังกฤษ ผมเป็นคนเงียบ ๆ ชอบไปดูหนังกับภรรยาและออกไปเที่ยวกับลูกชาย มันค่อนข้างเหมือนกับที่เคยทำที่บ้าน อากาศแตกต่างออกไป แต่ผมมาที่นี่เพื่อความสนุก ได้เล่นฟุตบอลและผมมีความสุขกับมัน" นาบาส กล่าวกับ fourfourtwo เมื่อปี 2015
กระทั่งช่วงปลายฤดูกาล 2016-2017 นาบาส ไม่ขอต่อสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ และแจ้งสโมสรว่าจะย้ายกลับ เซบีญา แม้ฤดูกาลนั้นเขาจะแจ้งเกิดกับตำแหน่งใหม่อย่างแบ็กขวาภายใต้กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ตามที ปิดฉากแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และแชมป์ คาราบาว คัพ 2 สมัย กับ "เรือใบสีฟ้า"
นาบาส ผ่านอุปสรรคโรคคิดถึงบ้านไปได้ 4 ปีในอังกฤษได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเอาชนะจิตใตตัวเองได้และเมื่อหมดสัญญาเขาก็กลับมาทำสิ่งที่ใจเรียกร้องอีกครั้งนั่นคือการกลับมาเป็นตำนาน เซบีญา จนถึงปัจจุบันในวัย 37 ปี
หลังกลับมาบ้านเกิด นาบาส ให้สัมภาษณ์กับสื่อของสโมสร เขาถูกถามว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอังกฤษคืออะไร แบ็กขวารายนี้ก็ตอบ
"ณ ที่แห่งนั้นไม่มีช่วงเวลาใดเป็นพิเศษ ไม่มีเลย"
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก