ภาพซ้อมก่อนเกมบุนเดสลีกานัดส่งท้ายซีซั่น ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านพบ ดาร์มชตัดท์ ดังไปทั่วประเทศเมื่อสรีระของ นิคลาส ซูเล่ ปรากาศหลังของทัพ "เสือเหลือง" แปลงร่างจากพี่เบิ้มหุ่นยักษ์ไปสู่พี่หมีอวบอั๋นพุงพลุ้ยจนแฟน ๆ ที่ได้เห็นถึงกับตกใจเพราะอีกแค่ 2 สัปดาห์ก็ถึงนัดชิง UCL แล้ว
ทันทีที่ภาพและคลิปหุ่นตุต๊ะของ ซูเล่ ออกมาก็มีคำถามจากผู้ได้พบเห็นว่านี่เป็นของแท้หรือตัดต่อจน AS สื่อสัญชาติสเปนได้เผยคลิปฝึกซ้อมล่าสุดของ ดอร์ทมุนด์ ให้แฟน ๆ ได้วิเคราะห์กัน แต่สุดท้ายก็มีผู้ออกมาเผยความจริงเมื่อ มาร์คุส บับเบิ้ล กุนซือที่ปลุกปั้นเขาเดบิวต์ครั้งแรกกับ ฮอฟเฟนไฮม์ เมื่อปี 2012 เล่าถึงพฤติกรรมการกินของ ซูเล่ ที่ไม่น่าให้อภัย
ทำไม ซูเล่ ลงพุงอย่างน่าตกใจ?
แฟนบอลดอร์ทมุนด์ที่ตามดูทีมมาในฤดูกาลนี้คงแอบคิดว่าทำไม ซูเล่ ตัวใหญ่จัง เขาไปเล่นกล้ามมาเหรอ? แต่ความจริงไม่ใช่เพราะกองหลังวัย 28 ปีรายนี้กำลังสะสมน้ำหนักตัวเองเพิ่มต่างหาก โดยปัจจุบันเขามีสัดส่วนสูง 195 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 99 กิโลกรัม ค่าดัชนีมวลกาย 26.04 อยู่ในเกณฑ์อ้วนอันตรายระดับ 2
โดยสถานะปัจจุบันเขาตกไปเป็นตัวสำรองในตำแหน่งเซนเตอร์ของ นิโค ชล็อทเทอร์เบ็ค กับ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ส่วนทีมชาติเยอรมันก็หลุดชุดลุยศึก ยูโร 2024 แบบไม่ได้ลุ้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?
อย่างไรก็ตาม มาร์คุส บับเบิ้ล กุนซือที่ปลุกปั้นมาสมัยเล่นที่ ฮอฟเฟนไฮม์ เมื่อปี 2012 เป็นคนออกมาพูดความจริงถึงหุ่นอดีตลูกทีมคนนี้ว่ามันเกิดจากพฤติกรรมการกินสนุกปากของตัวเองมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
"ซูเล่ เขาเป็นคนสุขภาพดี แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุด ผมคิดว่าเขามีปัญหากับการมีวินัยในการเป็นนักกีฬาอาชีพอย่างเหมาะสม ปกติแล้วเมื่อน้ำหนักขึ้นสักราว 3-4 กิโลกรัม มันจะสังเกตเห็นชัดเจนกว่าคนทั่วไป"
"ตอนเป็นดาวรุ่งผมสืบทราบว่าเขากินเคบับสัปดาห์ละ 8 ชิ้น และกินพิซซาถาดใหญ่คนเดียวอีกสัปดาห์ละ 6 ครั้ง แต่ผมไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ควรทำแบบนั้นเลย บางครั้งนักกีฬาก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ควรกินอาหารแบบนั้นทุกวัน" บับเบิ้ล กล่าวกับ Sport1 สื่อเยอรมันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand