เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ : อดีตปราการหลังทีมชาติผู้พาสหรัฐอเมริกากลับสู่ฟุตบอลโลกในรอบ 8 ปี

Kyle Bonn

เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ : อดีตปราการหลังทีมชาติผู้พาสหรัฐอเมริกากลับสู่ฟุตบอลโลกในรอบ 8 ปี image

หลังจากที่ทีมชาติสหรัฐอเมริกาตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ทางสหพันธ์ฟุตบอลแห่งสหรัฐอเมริกาจึงสรรหาโค้ชคนใหม่ โดยมีเป้าหมายที่การเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เพื่อต่อยอดไปยังฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก

เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ อดีตปราการหลังทีมชาติสหรัฐอเมริกาจึงรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ หลังจากที่เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์และบรูซ อารีน่า ได้แผ้วถางความสำเร็จไว้ก่อนหน้านี้

ผลงานเบอร์ฮาลเตอร์ในสีเสื้อพญาอินทรี

เบอร์ฮาลเตอร์เริ่มคุมทีมจากเดฟ ซาราชาน ในเดือนธันวาคม 2018 ประเดิมคุมทีมนัดแรกด้วยการชนะปานามา 3-0 ในเกมกระชับมิตรเมื่อเดือนมกราคม 2019 

ก่อนแข่งขันคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2019 สหรัฐแพ้ในเกมกระชับมิตร 2 นัดติดต่อจาเมกาและเวเนซุเอลา แต่เมื่อถึงรอบสุดท้าย สามารถพาพญาอินทรีเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนแพ้ให้กับเม็กซิโก 0-1 แต่ก็สามารถล้างแค้นได้รอบชิงชนะเลิศคอนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีกด้วยสกอร์ 3-2 และย้ำแค้นในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 ในอีก 2 ปีถัดมา

การคุมทีมของเบอร์ฮาลเตอร์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เน้นเรียกตัวผู้เล่นจากลีกในประเทศมากกว่าเพราะว่าเบอร์ฮาลเตอร์มีประสบการณ์การคุมทีมในเมเจอร์ลีกกับโคลัมบัส ครูว์ จึงเห็นฟอร์มผู้เล่นในลีกมากกว่า แต่ข้อวิจารณ์นี้เริ่มเงียบลงเมื่อหันมาเรียกผู้เล่นจากต่างประเทศมากขึ้นและผู้เล่นที่ค้าแข้งในประเทศโชว์ฟอร์มโดดเด่นในทีมชาติ

ปัญหาเกมเยือนเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เบอร์ฮาลเตอร์ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ ในรอบคัดเลือกรอบสามโซนคอนคาเคฟ สหรัฐชนะเกมเยือนเพียงนัดเดียวจาก 7 นัดในเกมพบกับฮอนดูรัส ต่างจากเกมในบ้านที่ชนะ 6 เสมอ 1 

จุดเด่นของเบอร์ฮาลเตอร์คือการให้โอกาสผู้เล่นที่มีสองสัญชาติเข้ามาติดทีมชาติ ทั้งแซร์จินโญ่ เดสต์ (เนเธอร์แลนด์), ยูนุส มูซาห์ (อังกฤษ-กาน่า), เฮซุส แฟร์ไรร่า (โคลอมเบีย), จิโอ เรย์น่า (อังกฤษ), ริคาร์โด เปปิ (เม็กซิโก) และกาเบรียล สโลนิน่า (โปแลนด์) รวมไปถึงการเก็บผู้เล่นดาวรุ่งชั้นดีไว้ใช้ทีมชาติชุดใหญ่ในโอกาสต่อไป

ผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมชาติในยุคของเบอร์ฮาลเตอร์ ประกอบด้วยสามหัวใจแดนกลางอย่างไทเลอร์ อดัมส์, เวสตัน แม็คเคนนี่ และยูนุส มูซาห์ รวมไปถึงผู้เล่นริมเส้นอย่างจิโอ เรย์น่า, ทิโมธี เวอาห์ และแบรนดอน อารอนสัน โดยมีผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างคริสเตียน พูลิซิช, ไมเคิล แบรดลีย์ และโจซี อัลติดอร์ ประคองทีม

แทคติกและสไตล์การเล่น

เบอร์ฮาลเตอร์เริ่มต้นงานโค้ชจากการผู้ช่วยบรูซ อารีน่าที่แอลเอ แกแล็กซี่ ก่อนข้ามทวีปรับงานเป็นเฮดโค้ชเต็มตัวกับฮัมมาร์บี้ในปี 2011 ก่อนโดนไล่ออกในอีก 2 ปีต่อมา ในข้อหา “ขาดปรัชญาเกมรุก”

4-3-3 เป็นแผนการเล่นที่เบอร์ฮาลเตอร์นิยมใช้ในทีมชาติ และปรับใช้ระบบหลังสามในบางโอกาส โดยในระบบ 4-3-3 โดยมีกองกลางหมายเลข 6 ทำหน้าที่เป็น box-2-box คอยปัดกวาดหน้ากองหลังและเปิดเกมรุก ใช้ปีกสองคนคอยสนัยสนุนกองหน้ามากกว่าการใช้เพลย์เมกเกอร์

เบอร์ฮาลเตอร์เป็นโค้ชที่นิยมการเพรสซิ่งตลอด 90 นาที ใช้สามประสานแดนหน้าคอยกดดันแนวรับคู่แข่งให้อยู่ในพื้นที่สุดท้าย นิยมเปลี่ยนจากรุกเป็นรับอย่างรวดเร็วมากกว่าการเซตบอล โดยมีพื้นฐานจากการครอบครองบอลและเปลี่ยนจังหวะการครอบครองโดยทันที

ยุคของเบอร์ฮาลเตอร์นิยมกระชับมิตรกับทีมที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งต่ำกว่าเพื่อเป็นการทดลองทีม เน้นใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่มีเคมีเข้ากันเป็นระยะเวลายาวนานแทนที่การหมุนเวียนผู้เล่นและให้โอกาสลงเล่นเป็นระยะเวลาสั้นๆ หากต้องการเห็นฟอร์มการเล่น

แผนการเล่นของเบอร์ฮาลเตอร์มีความโดดเด่นที่แนวรับและกองกลางที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี แต่ต้องปรับปรุงในการหากองหน้าตัวหลักที่จะเล่นในพื้นที่สุดท้าย

สัญญาและรายได้

เบอร์ฮาลเตอร์เซ็นสัญญา 4 ปีจนจบฟุตบอลโลก 2022 โดยมีรายได้อยู่ที่ 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 49 ล้านบาท) ทำให้เขาเป็นโค้ชที่มีรายได้สูงสุดตลอดกาล

หลังจากจบฟุตบอลโลกจะมีการพิจารณาสัญญาใหม่อีกครั้ง ขึ้นอยู่กับผลงานที่กาตาร์เป็นหลัก โดยมีเป้าหมายต่อไปคือการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งเพื่อเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติในฟุตบอลโลก 2026 ที่เป็นเจ้าภาพร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา

ผลงานการเป็นโค้ช

เบอร์ฮาลเตอร์เริ่มต้นงานโค้ชจากการผู้ช่วยบรูซ อารีน่าที่แอลเอ แกแล็กซี่ ช่วยให้ทีมได้แชมป์ Supporters’ Shield และ MLS Cup ก่อนสร้างประวัติศาสตร์เป็นโค้ชอเมริกันคนที่ 2 ที่คุมทีมในยุโรปต่อจากโธมัส ดูลีย์

ผลงานของเบอร์ฮาลเตอร์กับฮัมมาร์บี้ สามารถพาทีมจบอันดับ 4 และ 5 ในลีกรองของสวีเดน ก่อนถูกปลดและเป็นนานเนอ เบิร์กสตรานด์ที่พาทีมเลื่อนชั้นในปี 2014

หลังกลับมาจากสวีเดน เบอร์ฮาลเตอร์รับงานเป็นเฮดโค้ชและผู้อำนวยการสโมสรโคลัมบัส ครูว์ ตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาลที่โลเวอร์.คอม ฟิลด์ เขาช่วยให้ทีมเข้ารอบเพลย์ออฟ 4 จาก 5 ฤดูกาล และเข้ารอบชิง MLS Cup ก่อนแพ้ปอร์ทแลนด์ ทิมเบอร์ส 1-2 ในปี 2015

เบอร์ฮาลเตอร์ลาออกจากโคลัมบัสหลังจบฤดูกาล 2018 เพื่อรับโอกาสคุมทีมชาติสหรัฐอเมริกา

ผลงานการเป็นผู้เล่น

เบอร์ฮาลเตอร์เริ่มเล่นฟุตบอลมหาวิทยาลัยกับนอร์ท แคโรไลน่าตั้งแต่ 1991-94 ก่อนย้ายไปเล่นอาชีพในเนเธอร์แลนด์กับซโวลล์, สปาร์ตา รอตเตอร์ดัม และคัมบูร์ ก่อนย้ายไปในลีกรองของอังกฤษกับคริสตัล พาเลซฤดูกาล 2001-02 ต่อด้วยย้ายไปเล่นในเยอรมนีกับเอเนอร์กี้ ค็อตบุสและ 1860 มิวนิก ถึง 7 ปี ก่อนย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับแอลเอ แกแล็กซี่จนแขวนสตั๊ดในปี 2011

เบอร์ฮาลเตอร์ติดทีมชาติครั้งแรกในเกมที่พบซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนตุลาคม 1994 มีรายชื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดฟุตบอลโลก 2002 ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และฟุตบอลโลก 2006 ในฐานะตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามตลอด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนอำลาทีมชาติด้วยสถิติการลงเล่น 44 นัด

ความสำเร็จ

ผู้เล่น

  • MLS Cup: 2011 (LA Galaxy)

  • MLS Supporters' Shield: 2010, 2011 (LA Galaxy)

เฮดโค้ช

  • CONCACAF Nations League: 2019/20 (USMNT)

  • CONCACAF Gold Cup: 2021 (USMNT)

 

Kyle Bonn

Kyle Bonn Photo

Kyle Bonn, is a Syracuse University broadcast journalism graduate with over a decade of experience covering soccer globally. Kyle specializes in soccer tactics and betting, with a degree in data analytics. Kyle also does TV broadcasts for Wake Forest soccer, and has had previous stops with NBC Soccer and IMG College. When not covering the game, he has long enjoyed loyalty to the New York Giants, Yankees, and Fulham. Kyle enjoys playing racquetball and video games when not watching or covering sports.