อย่างตึงเลยจารย์ : เหตุใดนักฟุตบอลบราซิล จึงทำผลงานในพรีเมียร์ลีกได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ?

The Sporting News

อย่างตึงเลยจารย์ : เหตุใดนักฟุตบอลบราซิล จึงทำผลงานในพรีเมียร์ลีกได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ?  image

บรูโน่ กิมาไรส์ ย้ายมานิวคาสเซิลไม่นาน และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดของทีม, อันโทนี่ ปีกเจ้าของค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถแต่ตอนนี้เขายิงประตูได้ 3 เกมติดต่อกัน, บ๊อบบี้ ฟีร์มิโน่ คือนักเตะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ บอกว่าเป็นหัวใจของ ลิเวอร์พูล, ติอาโก้ ซิลวา ในวัย 38 ปี เป็นผู้บัญชาการในแผงหลังของ เชลซี, กาเบรียล เฆซุส คือผู้เปลี่ยนทีม อาร์เซน่อล ให้กลายเป็นทีมลุ้นเเชมป์เต็มตัว 

ทำไมนักเตะบราซิลสมัยนี้ถูกชะตาราศรี กับพรีเมียร์ลีกมากมายนัก ทั้ง ๆ ที่นักเตะบราซิลช่วงปี 90s และ 2000s แทบจะหาคนที่ประสบความสำเร็จในลีกอังกฤษแบบนับคนได้ ... ช่วงเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับนักเตะบราซิลและฟุตบอลอังกฤษกันแน่ ? 

ติดตามได้ที่ The Sporting News 

ก็มันผิดธรรมชาติ 

ถ้าคุณดูฟุตบอลเป็นประจำ คุณจะนึกออกทันทีว่า นักเตะบราซิลในมีจุดเด่นที่สุดคือจุดไหน ? ลีลาที่สวยงาม ทักษะที่ยอดเยี่ยม และความมุทะลุอยากจะเอาชนะด้วยสกิลที่พวกเขามี นักเตะบราซิลเป็นแบบนั้นมาเสมอทุกยุคทุกสมัย และสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาเป็นชาติที่คว้าเเชมป์ฟุตบอลโลกมาที่สุดตลอดกาล (5 ครั้ง) 

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ในโลกฟุตบอลมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า DNA มันคือสิ่งที่ถูกถ่ายทอดมาจากชีวิตความเป็นอยู่ แนวคิด และอุปนิสัยของคนในแต่ละประเทศ โดยสิ่งเหล่านี้จะถูกส่งผ่านไปยังวิธีการเล่นฟุตบอลของพวกเขา คนบราซิลเป็นแบบไหน พวกเขาก็เล่นฟุตบอลแบบนั้น 

Ronaldo Brazil World Cup 2002

คนบราซิล มีวิถีชีวิตรักสนุก ชอบมีปฎิสัมพันธ์ มีอิสระทางความคิด มีจินตนาการ มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย และมันก็ส่งกลับมาที่ฟุตบอลของพวกเขาที่เป็นฟุตบอลที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัว มั่นใจในตัวเอง และใช้พรสวรรค์ของตัวเองในการพิชิตฝั่งตรงข้าม 

สิ่งที่กล่าวมาคุณพอจะเห็นถึงความแตกต่างอะไรบางอย่างหรือไม่ ? แม้ "บราซิลเลี่ยนสไตล์" จะถูกเคลือบชั้นภายนอกให้น่าหลงไหลด้วยความฉูดฉาดตื่นตาตื่นใจ แต่เนื้อในของสิ่งเหล่านั้นคือพวกเขาเป็นคนที่มีอิสระทางความคิดมากพอสมควร 

และในโลกฟุตบอลการมีอิสระและทำตามใจมากเกินไปมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฟุตบอลยุคใหม่ที่เรียกว่า "โมเดิร์นฟุตบอล" 

โมเดิร์นฟุตบอล คือเกมฟุตบอลที่เต็มไปด้วยแท็คติก ระเบียบวินัย และความเข้าใจเกม 3 สิ่งนี้สำคัญมากเมื่อคุณต้องแข่งขันกับทีมที่คุณภาพและระดับความสามารถนักเตะเท่า ๆ กัน สิ่งที่จะตัดสินผู้ชนะคือใครเด็ดขาด และเล่นบนแนวทางที่ถูกต้องมากกว่ากัน ...สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้นักเตะบราซิลไม่ประสบความสำเร็จในอังกฤษ 

นักเตะบราซิล ไม่ใช่แค่ชอบทำตามใจตัวเองในสนามเท่าน้น แต่การคอนโทรลพวกเขานอกสนามก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ... 

Ronaldinho en sus tiempos en Querétaro.
Getty Images

ฟุตบอลอังกฤษเตะกันไม่มีพักเบรก หวดกันยาว ๆ 9 เดือน ช่วงเวลาที่เตะกันถี่ที่สุดก็เป็นช่วงคริสต์มาสต่อปีใหม่ สิ่งเหล่านี้ผิดธรรมชาตินักเตะบราซิลแบบสุด ๆ 

เพราะชาวบราซิลเป็นชาวคริสต์ที่ให้ความสำคัญกับวันคริสต์มาสเป็นอย่างมาก พวกเขาจะรวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ถ้าพวกเขามาเล่นในลีกอังกฤษต่อให้มีเงินในกระเป๋ามากแค่ไหน อย่างดีที่สุดก็ทำได้แค่ปาร์ตี้เล็ก ๆ เพราะโปรเเกรมฟุตบอลสุดเข้มข้นรออยู่ 

นอกจากนี้คนบราซิลก็ชอบการสังสรรค์ ชอบปาร์ตี้เสมอ การที่คุณบีบให้พวกเขาอยู่ในกรอบเหมือนคุณขังเสือไว้ในกรง ต่อให้เสือตัวนั้นจะดุแค่ไหนก็ไม่มีความหมายเพราะเขี้ยวเล็บของพวกเขาไม่ถูกนำมาใช้ เมื่อพวกเขาถูกขังในกรอบพวกเขาก็ไม่มีความสุข และเมื่อไม่มีความสุขพวกเขาก็จะขาดจินตนาการ สิ่งเหล่านี้ส่งต่อกันหมด 

และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักเตะ บราซิล ยุคเก่า ๆ ที่มาเล่นในอังกฤษจึงประสบความสำเร็จน้อยมากแบบนับคนได้ เท่าที่นึกออก จากยุค 90s ต่อยุค 2000 ต้น ๆ  ก็น่าจะมีแค่ จูนินโญ่ เปาลิสต้า ของ มิดเดิลสโบรห์ และ จิลแบร์โต้ ซิลวา ของ อาร์เซน่อล เท่านั้น

ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่สอบตกกันเกือบหมด ยกตัวอย่างเช่น บรังโก้ และ อัลฟอนโซ่ อัลเวส (มิดเดิลสโบรห์), โรเก้ จูเนียร์ (ลีดส์), เคลเเบร์สัน (แมนฯ ยูไนเต็ด), มาริโอ ยาร์เดล (โบลตัน), เอเมอร์สัน โธม (ซันเดอร์แลนด์) และใครอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยถึง พวกเขาเหล่านี้ต่างยืนยันด้วยตัวเองวามีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับชีวิต และแนวทางฟุตบอลของอังกฤษ 

Getty Images

โดยในรายของ เคลแบร์สัน ถึงกับตัดพ้อหลังจากย้ายออกมาจาก ยูไนเต็ด ว่า "ผมพยายามทุกอย่างเเล้วที่เปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่เคยเป็น ผมพยายามจะจ่ายบอลให้มากขึ้น ดุดันให้มากขึ้น สกัดบอลหใมากขึ้น แต่มันยากเกินไป ฟุตบอลอังกฤษไม่ใช่เกมของผม" ... คำพูดของเขายืนยันถึงความล้มเหลวของเเข้งเเซมบ้าในฟุตบอลอังกฤษยุค 15-20 ปีที่เเล้วได้เป็นอย่างดี 

แต่เรื่องแบบนี้แก้ได้ด้วยเงิน 

นิสัยใจคอ และวิธีการเล่นบอลของนักเตะบราซิลเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราจะพูดถึงแน่ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันเกี่ยวกับช่วงเวลาส่งผ่านของฟุตบอลอังกฤษด้วย ในช่วงปลายปี 90s ต่อ 2000s เป็นช่วงเวลาที่พรีเมียร์ลีกเอาชนะลีกอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างขาดลอยในแง่ของความนิยม พวกเขาทำการตลาดแบบสุดโหด ค่าลิขสิทธิ์แพงยับ มีการปรับโปรเเกรมการแข่งขัน และอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อให้เข้าถึงแฟนบอลทั่วโลกมากขึ้น

ว่าง่าย ๆ ก็คือการเปลี่ยนให้เป็นระบอบทุนนิยมอย่างเต็มตัว พวกเขาไม่ได้แคร์แค่เฉพาะคนดูบอลท้องถิ่นอีกเเล้ว แต่พวกเขาต้องการซื้อใจคนทั้งโลกให้ได้ ... และบังเอิญว่าพวกเขาทำสำเร็จด้วย 

เมื่อตีตลาดได้ สิ่งที่ตามมาก็คือเม็ดเงินที่จะเข้ากระเป๋าสโมสรต่าง ๆ มากขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้นสโมสรในอังกฤษก็จะสามารถซื้อนักเตะฝีเท้าดีขึ้นได้ตามจำนวนเงินที่พวกเขามี 

ในช่วงหลังปี 2000s เป็นต้นมาพรีเมียร์ลีกกลายเป็นหมุดหมายของนักเตะต่างชาติระดับหัวแถวมากขึ้น ที่นี่มีค่าจ้างก้อนโตรออยู่ และจะมีนักเตะชาติใดที่ชี้ขาดผลการแข่งขันได้มากกว่านักเตะบราซิลเกรดเออีกล่ะ ? 

จากยุค 90s ทีมจากพรีเมียร์ลีกซื้อได้แต่นักเตะบราซิลระดับหางแถว ราคาไม่หนัก ค่าจ้างไม่แพง ส่วนใหญ่แทบไม่มีประสบการณ์ทีมชาติ แต่พอหลังช่วง 2000s เป็นต้นมาจนกระทั่งผ่านยุค 2010s พรีเมียร์ลีกใช้เงินกับนักเตะบราซิลมากขึ้น โดยเฉพาะนักเตะบราซิลเกรดดี ๆ ที่มีความเสี่ยงน้อย กล่าวคือเคยมีประสบการณ์ในลีกยุโรปมาเเล้ว เคยติดทีมชาติชุดใหญ่หรือทีมชุดเยาวชนมาเเล้ว ซึ่งส่วนนี้สามารถกรองเอานักเตะคุณภาพได้ดีมากขึ้น 

ยิ่งประกอบกับหลังยุค 2010s เป็นต้นมาแต่ละทีมให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมแมวมองของพวกเขาด้วย ไหนจะมีหน่วยเก็บสถิติวิเคราะห์ตัวเลขข้อมูลของนักเตะที่ทีมให้ความสนใจ ยิ่งทำให้กว่าที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อนักเตะสักคนต้องผ่านกระบวนการที่หลายขั้นตอนมากขึ้น เพื่อทำความเสี่ยงที่จะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ให้น้อยที่สุด 

Getty Images

เชลซี ได้ตัว ออสการ์, วิลเลี่ยน, ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส ที่กลายเป็นตัวหลักของทีม ขณะที่ลิเวอร์พูล ได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หรือแม้แต่ ลูคัส เลว่า 

ส่วนยุคปัจจุบันไม่ต้องพูดถึง ทีมจากอังกฤษไม่กลัวที่จะต้องจ่ายไม่อั้นเพื่อนักเตะบราซิลชั้นดี (รวมถึงสัญชาติอื่นด้วย) ไม่ว่าจะเป็น กาเซมิโร่, อันโทนี่,กาเบรียล เชซุส, เฟร็ด, บรูโน่ กิมาไรส์, ลูคัส ปาเกต้า, แฟร์นันดินโญ่, ฟาบินโญ่, เอเเดร์ซอน, อลีสซง ยังมีอีกเพียบที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ 

หรือแม้กระทั่งทีมเล็ก ๆ ก็ยังกล้าทุ่มเงินกับนักเตะบราซิลที่พวกเขาสเก้าท์มาแล้วว่าดีจริง วัตฟอร์ด ได้ ริชาร์ลิซอน (15 ล้านปอนด์), ลีดส์ ได้ ราฟินญ่า (25 ล้านปอนด์) ... เห็นราคาของพวกเขาเหล่านี้ คุณก็น่าจะพอคาดเดาได้ว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นนักเตะที่มีคุณภาพแบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย เหมือนนักเตะบราซิลในพรีเมียร์ลีกช่วงปี 90s อย่างแน่นอน 

เงินเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้เช่นเดี่ยวกับคุณภาพของนักเตะบราซิล เมื่อพวกเขามาด้วยค่าตัวที่แพง ค่าจ้างที่สูง และพวกเขาก็ผ่านเวทีใหญ่ ๆ มาไม่น้อยก่อนมาจะมาที่อังกฤษ มันก็เป็นเหมือนการันตีให้กับสโมสร และเป็นการบีบให้นักเตะรักษาความเป็นมืออาชีพของตัวเอง เพื่อให้ได้อยู่บนจุดสูงสุดต่อไป ต่อให้ต้องมองข้ามวันคริสต์มาสที่แสนสำคัญของพวกเขาก็จำเป็นจะต้องทำ 

Gabriel Jesus got a goal and assist in a 2-0 preseason win over Everton in Baltimore
(Getty Images)

เพราะสิ่งที่รออยู่หลังจากความอดทนต่อกิเลศนั้นมีมากมาย  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของเกียรติยศความยิ่งใหญ่ หรือแม้จะเป็นเรื่องการันตีค่าจ้างที่มีแต่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ หากพวกเขาพัฒนาตัวเองได้ 

เหตุผลมันก็คล้าย ๆ กับฟุตบอลอิตาลียุค 90s ที่เป็นลีกเบอร์ 1 ของโลกนั่นแหละ พวกเขามีเงินมากกว่าลีกอื่น พวกเขาจึงได้นักเตะที่ดีที่สุดในโลกไปรวมตัวกันที่นั่น 

ถ้าจะมองแค่นักเตะบราซิล คุณได้เห็นนักเตะอย่าง โรนัลโด, คาฟู, เลโอนาร์โด้, โตนินโญ่ และ ดุงก้า ในยุค 2000s ุคณได้เห็น ลูซิโอ, กาก้า, ดิด้า, อาเดรียโน่  นักเตะที่กล่าวมาเป็นนักเตะะดับทีมชาติบราซิลทั้งนั้น … “หล่อเลือกได้ แต่รวยเลือกก่อน” จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ผิดนัก 

ตัดมาที่ฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง คุณได้นักเตะที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างดี การันตีด้วยเรื่องในและนอกสนาม ไม่แปลกที่นักเตะบราซิลยุคหลัง ๆ จะเป็นแกนหลักตัวสำคัญของทีมในพรีเมียร์ลีกกันทั้งสิ้น ... แต่เรื่องของเงินไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้ การพัฒนาของสโมสรในพรีเมียร์ลีกในแง่ของแท็คติกก็เกี่ยวของไม่น้อยไปกว่ากันเลย 

โมเดิร์นฟุตบอล…ภาษาเดียวกัน 

ต้องกลับมาที่คำ ๆ นี้อีกครั้ง โมเดิร์นฟุตบอล คือฟุตบอลที่ยึดติดกับระบบ ความเข้าใจเกม และความฟิต หากคุณไม่มีคุณสมบัติ 3 ข้อนี้ ต่อให้คุณไม่ใช่นักเตะบราซิลคุณก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในฟุตบอลยุคสมัยนี้อยู่ดี 

อย่างที่กล่าวในข้างต้น นักเตะบราซิลในพรีเมียร์ลีกยุคปัจจุบันถูกกรองมาแล้ว อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มีความเป็นมืออาชีพ และนั่นทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวกับอะไร ๆ ได้ดีขึ้น เพื่อให้ที่สุดเเล้ว "งาน" ของพวกเขาออกมามีประสิทธิภาพ 

Manchester City celebrate becoming 2021/22 Premier League champions

พวกเขามาถึงจุดที่สูงเกินกว่าจะเกเร และเป็นนักเตะที่ทำตามใจควบคุมไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาโฟกัสอยู่กับงานของตัวเอง และนั่นทำให้พวกเขาสามารถรีดฟอร์มของตัวเองกลับมาให้ดีขึ้นได้ 

ยิ่งกับฟุตบอลอังกฤษในปัจจุบัน แม้จะยังมีความหนักหน่วงและเกมที่เร็วอยู่ แต่สิ่งที่สามารถพูดได้ตรง ๆ ณ ตอนนี้เลยคือ "ฟุตบอลโบราณ" ไม่มีหลงเหลือในพรีเมียร์ลีกอีกแล้วจากวันที่ เบิร์นลี่ย์ ตกชั้นไปในฤดูกาลล่าสุด

ทีมจากพรีเมียร์ลีกใช้โค้ชต่างชาติกันมากขึ้น พวกเขาเหล่านี้มาพร้อมกับแท็คติกที่เป็นเอกลัษณ์ และต้องการนักเตะที่ตอบโจทย์กับแท็คติกเหล่านั้นเป็นพิเศษ 

โดยทีมส่วนใหญ่โดยเฉพาะทีมระดับแถวหน้าให้ความสำคัญเรื่องการครองบอล การรับส่งบอล การเอาชนะในการดวล 1-1 ไม่ว่าจะตอนเป็นฝ่ายเล่นเกมรับหรือเกมรุก .. สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากเทคนิคระดับสูงทั้งนั้น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่นักเตะบราซิลมีติดตัวกันแทบทุกคน 

โค้ชที่เก่งและมีประสบการณ์จะสามารถสื่อสารให้กับลูกทีมได้เข้าใจว่าพวกเขาต้องการสิ่งไหนจากนักเตะ ใครจะกล้าคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้ บรูโน่ กิมาไรส์ และ โจเอลินตอน 2 นักเตะบราซิลที่เคยโดดเด่นเรื่องเกมรุกก่อนจะมาเล่นในพรีเมียร์ลีก จะกลายเป็นผึ้งงานคอยวิ่งไล่บอลขึ้นสุดลงสุด คอยตัดเกมให้กับ นิวคาสเซิล ตลอด 90 นาที

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้าง เเฟร์นันดินโญ่ ให้กลายเป็นมิดฟิลด์ที่ยืนอยู่หน้ากองหลังที่ดีที่สุดในยุคสมัยของเขา, เยอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ ฟาบินโญ่ เป็นตัวคุมจังหวะเกม, เชลซี ใช้ ติอาโก้ ซิลวา ในวัย 38 ปี เป็นผู้นำในเกมรับ 

คุณจะเห็นได้ว่านักเตะบราซิลยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะนักเตะบราซิลแถวหน้านั้นมีความเข้าใจในเกมฟุตบอลมากขึ้นเยอะ พวกเขาปรับตัวให้อยู่ในกฎ ในระเบียบ อยู่ในกรอบที่โค้ชสั่งได้แล้ว ยิ่งมาเจอกับสไตล์ฟุตบอลยุคปัจจุบันที่เล่นบอลกันเท้าสู่เท้า และเอาตัวรอดหลบหลีกจากการสกัดหนัก ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นของถนัดนักเตะแซมบ้าอยู่แล้ว 

ส่วนเกมรุกไม่ต้องพูดถึงนักเตะบราซิลแบบที่ได้บอลแล้วตะบี้ตะบันเลี้ยง ไม่เหลียวซ้ายแลขวามองเพื่อนร่วมทีมก็แทบไม่มีให้เห็น พวกเขากลายเป็นตัวรุกที่มีจังหวะจะโคน จังหวะไหนควรยิง จังหวะไหนควรส่ง จังหวะไหนควรเคลื่อนที่ 

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่ กาเบรียล เชซุส และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทำกับ อาร์เซน่อล  พวกเขากลายเป็นตัวรุกที่ชี้ขาดผลการแข่งขันได้ และไม่มีจังหวะ "ช็อตฟีล" หรือ "จังหวะนรก" ให้เสียอารมณ์เหมือนนักเตะบราซิลยุคก่อนเป็นอีกเเล้ว  

หากจะกล่าวโดยสรุปของคำถามที่ว่าเหตุใดนักฟุตบอลบราซิล จึงทำผลงานในพรีเมียร์ลีกได้ดีขึ้นกว่ายุคก่อน ๆ คำตอบหลัก ๆ ก็คือพวกเขาถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดีจากราคาและค่าจ้าง, พวกเขาเรียนรู้ไปอีกระดับเข้าถึงเเก่นแท้ของโมเดิร์นฟุตบอล และแน่นอนที่สุดไม่ใช่แค่พวกเขาปรับตัวเข้าหาฟุตบอลอังกฤษเท่านั้น แต่ฟุตบอลอังกฤษก็ปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น แท็คติกต่าง ๆ เข้าหาพวกเขาด้วยในคราวเดียว

ถึงตอนนี้สัญชาติแทบจะไม่มีผลอีกต่อไปแล้วในเกมฟุตบอล ณ ปัจจุบัน ตราบใดที่คุณมีทัศนคติที่ดี มีความฟิต และมีความเข้าใจเกมในระดับที่สูงมากพอ คุณก็จะสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ทั้งนั้น ...นี่คือการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอลอังกฤษ ณ ปัจจุบันโดยแท้จริง

Gabriel Jesus has completed his long-anticipated move to Arsenal

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.