วลีที่ว่า “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องบนโลกใบนี้ เช่นเดียวกับกีฬาฟุตบอล ที่เรามักจะเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขันก็ดี รูปเกมในแต่ละแมตช์ก็ดี และไปถึงการซื้อขายนักเตะ ก็มักจะมีเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาเกิดขึ้นได้เสมอเช่นกัน
เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมา เคยมีหลายต่อหลายดีล และการซื้อขายหลายต่อหลายครั้ง ที่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันกลับต้องกลายเป็นหมัน เนื่องจากหลากหลายเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งในวันนี้ เราจะพาไปย้อนดู 5 เหตุการณ์ดีลล่มชื่อดัง ที่เคยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล จะมีเหตุการณ์ไหนบ้าง ติดตามไปพร้อมกับพวกเรา
ไม่ว่าดีลไหนจะล่ม แต่คุณสามารถร่วมสมัครเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลได้ที่นี่
ย้อนรอย : 5 เหตุการณ์ดีลล่มสนั่นวงการฟุตบอล
ดาบิด เด เกอา อดย้ายไป เรอัล มาดริด เพราะเครื่องแฟกซ์ มีปัญหา
ก่อนที่ ดาบิด เด เกอา จะมีจังหวะเหวอ ๆ ให้เห็นอยู่หลายครั้งในช่วง 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทว่าในอดีต เด เกอา เคยถูกยกให้เป็นผู้รักษาประตูระดับต้น ๆ ของโลก และในบางครั้งหากจะพูดว่าเขาคือมือ 1 ของโลก ก็คงจะไม่ผิดซะทีเดียว
ยิ่งในปีช่วงปี 2015 เด เกอา ในวัย 24 ปี อยู่ในจุดพีคของอาชีพสุด ๆ และทำให้เขาได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด ที่ต้องการตัวเขาไปเป็นตัวแทนของ อิเคร์ กาซิยาส และทำให้ ราชันชุดขาว เดินหน้าเต็มที่กับดีลนี้ และก็มีโอกาสูงที่พวกเขาจะสมหวัง
อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวที่ดูเหมือนจะสดใส กลับต้องล่มไม่เป็นท่า เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เรอัล มาดริด ไม่สามารถเคลียร์เรื่องเอกสารได้ทันก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายวันสุดท้าย ด้วยสาเหตุจาก “เครื่องแฟกซ์” มีปัญหา ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา ดาบิด เด เกอา ก็ไม่ได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด อีกเลย
นาบิล เฟคีร์ อดร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เพราะเอเยนต์ส่วนตัว
หลังจากที่เป็น 1 ในขุนพลทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 นาบิล เฟคีร์ เคยเกือบย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล หลังจากที่เขาเดินทางมาตรวจร่างกายถึงแอนฟิลด์
แต่ทว่าความฝันทุกอย่างก็ต้องพังลงไป เนื่องจากวันตรวจร่างกาย ได้มีรายงานออกมาว่าเขามีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า อย่างไรก็ดี เฟคีร์ เคยได้ออกมาพูดเกี่ยวกับต้นตอสาเหตุที่แท้จริง ที่ทำให้ดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวเท่านั้น
โดย เฟคีร์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกอย่างนั้นใกล้มาก ๆ ผมเกือบจะได้ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล ผมได้คุยกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาบอกผมว่าเขารักผมมาก แต่เมื่อเรากำลังจะเซ็นสัญญา มันก็ดันมีปัญหาเกี่ยวกับเอยนต์ของผม และแน่นอนว่าการเจรจาก็พังลง”
“พวกเขาบอกว่าเป็นเพราะปัญหาที่หัวเข่าทำให้ดีลต้องล่มไป แต่แล้วความจริงก็ได้รับการพิสูจน์เมื่อเวลาผ่านไป ว่าเข่าของผมนั้นปกติ”
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เกือบมา แบล็คเบิร์น แต่ภูเขาไฟระเบิดทำให้อดย้ายทีม
ก่อนที่จะกลายเป็นยอดดาวยิงระดับโลก เฉกเช่นในปัจจุบันนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เคยเกือบมาค้าแข้งใพรีเมียร์ลีก กับทีมที่ไม่ใหญ่มากอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แต่ทว่าด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้นเหตุที่ดีลดังกล่าวนั้นกลายเป็นแค่เรื่องที่น่าเสียดาย
จากการเปิดเผยของ แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือของทีมกุหลาบไฟในตอนนั้น ได้บอกผ่านสื่อว่า “ในปี 2010 ผมและหัวหน้าทีมแมวมอง ได้เดินทางไปดู เลวานดอฟสกี้ และพวกเราประทับใจเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งเขาก็เตรียมเดินทางมาเซ็นสัญญากับเราแล้ว แต่ทว่าภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ดันปะทุเสียก่อน ทำให้ทุกไฟลต์ต้องโดนยกเลิก”
และหลังจากที่อดมาโชว์ฝีเท้าที่พรีเมียร์ลีก ในปีเดียวกัน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้เซ็นสัญญาไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่หลังจากนั้น ทั้งโลกใบนี้ก็ได้รู้จักศูนย์หน้าชาวโปแลนด์รายนี้กันมากขึ้น ในฐานะยอดดาวยิงระดับพระกาฬ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยเกือบเป็นนักเตะเรือใบสีฟ้า แต่ได้ป๋าเฟอร์กี้เบรกเอาไว้
แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือ หนึ่งในตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าตอนจบอาจจะไม่สวยงามอย่างที่หวังไว้ อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้แฟนบอลแมนยูต้องร้องไห้ หลังตัดสินใจคัมแบ็คมาร่วมทีมคำรบที่ 2
ในปี 2021 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เตรียมอำลายูเวนตุสเพื่อหาความท้าทายใหม่ โดยในตอนนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองของแมนยู จ้องแข้งทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ตาเป็นมัน เนื่องจากในตอนนั้นพวกเขายังขาดกองหน้าตัวเป้า และโรนัลโด้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ซึ่งทางโรนัลโด้เองก็สนใจในดีลนี้ไม่น้อย และเตรียมย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ฝั่งสีฟ้าเต็มที แต่ทว่าทันทีที่ข่าวนี้หลุดลอยไปเข้าหูของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานของแมนยู ดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
โดย โรนัลโด้ ได้เปิดเผยผ่านรายการของ เพียร์ส มอร์แกน เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เอาไว้ว่า เขาเกือบจะย้ายไปเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม จริง ๆ แต่ทาง “เฟอร์กี้” เป็นคนกล่อมให้เขาย้ายมาเล่นที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้น CR7 จะกลับมาสวมยูนิฟอร์มของปีศาจแดงอีกครั้งนึง
ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ขับรถกว่า 100 ไมล์ แต่สุดท้ายอดย้ายทีม
แม้ว่า ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ จะไม่ใช่นักเตะชื่อดังระดับโลก และบางคนอาจจะไม่รู้จักกองหน้ารายนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ทว่าถ้าจะให้พูดถึงเหตุการณ์ดีลล่มที่ฮาและน่าสงสารที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่มีทางเลยที่จะไม่นึกถึงดีลระหว่าง ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ กับ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส
ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมปี 2013 ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ที่เป็นเหมือนส่วนเกินของ เวส์บรอมวิช อัลเบียน ยอมลงทุนขับรถระยะทางกว่า 125 ไมล์ เพื่อเดินทางมายังสนามของ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส เนื่องจากทั้งสองทีมใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกันได้แล้ว
โอเดมวิงกี้ เดินทางมาถึงสนามโดยมีแฟน ๆ มากมายรอต้อนรับ มิหนำซ้ำศูนย์หน้ารายนี้ยังให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกว่า ฝีเท้าของเขาจะยกระดับ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ได้อย่างแน่นอน และมั่นใจว่าทีมจะรอดตกชั้น พร้อมกับกล่าวอำลาแฟนบอลของ เวส์บรอมวิช อัลเบียน ไปในตัว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนขับรถมากว่า 100 ไมล์ของ โอเดมวิงกี้ กลับต้องสูญเปล่า เมื่อทั้งสองทีมเจรจากันไม่ลงตัว จึงทำให้ดีลนี้ล่มไม่เป็นท่า และ โอเดมวิงกี้ ก็ต้องขับรถกลับไปที่สโมสรเก่า พร้อมกับมีการขอโทษแฟนบอลกันยกใหญ่
#OnThisDay in 2013, Peter Odemwingie tried to force through a move to QPR by turning up at Loftus Road. pic.twitter.com/DP5uTu0xUJ
— Sky Sports Retro (@SkySportsRetro) January 31, 2022
บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้หรือไม่? : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เคยเกือบย้ายมาแมนยู แต่ดีลล่มเพราะท่าวิ่ง
