ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป เบอร์ 7 ของ ลิเวอร์พูล จะถูกสวมใส่โดย หลุยส์ ดิอาซ หลังปีกตัวจี๊ดทีมชาติโคลัมเบียโยกจากเบอร์ 23 มาใส่เบอร์โปรดของเขา
ซึ่งนอกเหนือจาก เคนนี่ ดัลกริช ที่เคยเป็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 7 จนกลายเป็นภาพจำของแฟนบอลแล้ว ยังมีนักเตะอีกหลายชีวิต ที่เคยสวมใส่หมายเลขดังกล่าว
แล้วนักเตะที่เคยสวมเบอร์ 7 เหล่านั้นมีใครบ้าง และผลงานเป็นเช่นไร ติดตามไปพร้อมกับพวกเรา
เบอร์ 7 คนใหม่ของลิเวอร์พูลจะทำผลงานได้ดีแค่ไหนในฤดูกาลหน้า? ซึ่งเหล่า "เดอะ ค็อป" สามารถร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันของลิวเอร์พูลได้ที่นี่
ย้อนดูนักเตะลิเวอร์พูลหมายเลข 7
เคนนี่ ดัลกลิช (1977-1990)
ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความกับฝีเท้าที่สุดยอดของ เคนนี่ ดัลกลิช โดยเขาย้ายจากเซลติก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูลในปี 1977 ก่อนจะสถาปนาเป็นกองหน้าคนสำคัญ ที่ทำให้ทีมครองความยิ่งใหญ่ในอังกฤษช่วงปลายยุค 70s ถึงต้นยุค 90s
ซึ่ง เคนนี่ ดัลกลิช ลงสนามด้วยหมายเลข 7 ให้กับ ลิเวอร์พูล ไปมากถึง 501 นัด ทำได้ 163 ประตู และคว้าแชมป์ลีกได้มากถึง 8 สมัย พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดตำนานของสโมสรจนถึงปัจจุบัน
ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ (1987-1991)
ดาวยิงทีมชาติอังกฤษเป็นแข้งเพียงไม่กี่คนที่ลงเล่นให้กับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ เป็นที่จดจำมากกว่าในชุดสีแดงของ ลิเวอร์พูล โดยมีหมายเลข 7 อยู่ด้านหลัง
โดย เบียร์ดสลีย์ ย้ายเข้ามาอยู่ชายคาแอนด์ฟิลด์ในปี 1987 และใช้เวลา 5 ปีกับสโมสร แม้จะเป็นเวลาที่ไม่นานนัก แต่ เบียร์ดสลีย์ ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับทีมได้ไม่น้อย ด้วยการซัดไป 59 ประตู จาก 173 นัด และคว้าแชมป์ลีกกับทีมได้ 2 สมัย ในปี 1988 และ 1990
ไนเจล คลัฟ (1993-1996)
ไนเจล คลัฟ คือนักเตะคนแรกที่สวมเบอร์ 7 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในยุคพรีเมียร์ลีก โดยตัวรุกทีมชาติอังกฤษรายนี้ย้ายมาอยู่กับหงส์แดงเมื่อปี 1993 แต่ไม่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
โดยลงสนามไปเพียง 44 นัดรวมทุกรายการ ทำได้ 9 ประตู กับอีก 4 แอสซิตส์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 1996
สตีฟ แม็คมานามาน (1996-1999)
สตีฟ แม็คมานามาน เข้ามารับช่วงต่อหมายเลข 7 หลังจาก ไนเจล คลัฟ ย้ายออกจากทีม ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลบนเสื้อหมายเลข 7 “แม็คกา” ทำผลงานได้น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฤดูกาล 1997-98 แม็คมานามาน ยิงในลีกไปทั้งสิ้น 11 ประตู ซึ่งนี่ถือเป็นสถิติการทำประตูที่ดีที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาลในอาชีพการค้าแข้งของเขา และแม้จะจบกับทีมไม่สวยนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สตีฟ แม็คมานามาน คือหนึ่งในตำนานของสโมสร
วลาดิมีร์ ซมิเซอร์ (1999-2003)
ตัวรุกทีมชาติเช็กย้ายเข้ามาเป็นตัวแทนของ สตีฟ แม็คมานามาน ที่ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แบบไม่มีค่าตัว และ วลาดิมีร์ ซมิเซอร์ ก็ทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมาย
ไฮไลท์สำคัญของ ซมิเซอร์ คงหนีไม่พ้นเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศปี 2005 ที่พบกับ เอซี มิลาน โดย ซมิเซอร์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมดังกล่าว คือคนที่ยิงประตูให้ทีมไล่ตามมิลานมาเป็น 2-3 ก่อนที่หลังจากนั้นลิเวอร์พูลจะตีเสมอได้สำเร็จ และชนะจุดโทษได้ราวกับปาฏิหาริย์
แฮร์รี คีเวลล์ (2003-2008)
ช่วงเวลาที่ย้ายมา แฮร์รี คีเวลล์ คือหนึ่งในตัวท็อปของพรีเมียร์ลีก หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด จนทำให้ตอนที่เขาย้ายมา วลาดิมีร์ ซมิเซอร์ เจ้าของเบอร์ 7 ในช่วงเวลาดังกล่าว ต้องยกเบอร์นี้ให้ แฮร์รี คีเวลล์
และแม้ว่าตัวรุกชาวออสเตรเลียจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าสมัยค้าแข้งอยู่กับยูงทอง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีช่วงเวลาที่ คีเวลล์ ทำผลงานได้ประทับใจอยู่บ้าง ซึ่งประตูและแอสซิตส์อย่างละ 16 ครั้ง คือตัวเลขที่ไม่น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย
รอบบี คีน (2008-2009)
รอบบี คีน ย้ายจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ มาสวมเบอร์ 7 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2008 ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 20 ล้านปอนด์ และใช้เวลาเพียงไม่นานในการพิสูจน์ว่าดีลนี้นั้นล้มเหลว
คีน ลงสนามในเลกแรกของฤดูกาล 2008-09 ให้กับ ลิเวอร์พูล 19 นัด ทำได้ 5 ประตู ก่อนที่ในช่วงเลกสองกองหน้าชาวไอริชจะย้ายกลับไปอยู่ที่ สเปอร์ส อย่างรวดเร็ว ซึ่งเท่ากับว่าศูนย์หน้าจอมยิงปืนกลรายนี้ลงรับใช้ลิเวอร์พูลเพียง 6 เดือนเท่านั้น
หลุยส์ ซัวเรซ (2011-2014)
หลังจากความล้มเหลวของ รอบบี คีน เป็นเวลากว่าสองปีที่ไม่มีนักเตะคนไหนสวมเบอร์ 7 ให้กับ ลิเวอร์พูล จนกระทั่งต้นปี 2011 หลุยส์ ซัวเรซ ได้ตบท้าวเข้าสู่แอนฟิลด์ และเขาได้สร้างตำนานกับสโมสรแห่งนี้บนเสื้อหมายเลข 7
แม้ฤดูกาลแรกกับ ลิเวอร์พูล ซัวเรซจะยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น แต่หลังจากฤดูกาล 2011-12 เป็นต้นมา ซัวเรซ ก็ระเบิดฟอร์มโหดยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และด้วยความทุ่มเททุกวินาทีของเขา จึงทำให้หัวหอกอุรุกวัยกลายเป็นที่รักของเหล่า “เดอะ ค็อป” และถึงแม้จะมีเพียงแค่ถ้วยลีกคัพใบเดียวที่ได้กับหงส์แดง แต่ 82 ประตู ที่เขาทำได้ มันทำให้ หลุยส์ ซัวเรซ กลายเป็นชื่อที่แฟนบอลรักเป็นอย่างมาก
เจมส์ มิลเนอร์ (2015-2023)
เจมส์ มิลเนอร์ คือนักเตะที่ครองเสื้อเบอร์ 7 ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร หากนับแค่ในยุคพรีเมียร์ลีก โดยเขาย้ายจาก แมนซิตี้ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015
พูดกันตามตรงว่า มิลเนอร์ ไม่ได้เป็นนักเตะที่โดดเด่นหรือมีสไตล์การเล่นที่หวือหวา แต่อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคนสำคัญของทีมในยุคเริ่มต้นของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ด้วยความสารพัดประโชน์ของเขาที่สามารถเล่นได้ทั้งกองกลาง และแบ็คซ้าย-ขวา นั่นจึงทำให้เขาลงสนามให้กับทีมไปมากถึง 332 นัด พร้อมคว้ามาเกือบทุกแชมป์ที่ลงเล่นร่วมกับ ลิเวอร์พูล
บทความที่เกี่ยวข้อง : หลุยส์ ดิอาซ เปลี่ยนมาใส่เบอร์ 7 ลุยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
บทความที่เกี่ยวข้อง : ย้อนดูนักเตะแมนยูหมายเลข 7 : เช็คผลงานตำนานเบอร์ 7 ทัพแมนยู
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก