ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางที่จะป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์หนนี้ โดยทัพตราไก่จะต้องมาพบกับ โมร็อกโก ในรอบรองชนะเลิศ
แม้จะเป็นงานที่ยากในการเจอกับ อังกฤษ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ลูกทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็มีความเฉียบขาดกว่าทัพนักเตะสิงโตคำราม ทำให้เกมนั้นพวกเขาชนะไป 2-1
โดยทาง ฝรั่งเศส เองก็ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่กับฟุตบอลโลกในยุคปัจจุบันด้วยการคว้าแชมป์โลกติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งเป็นอะไรที่ยากกว่าการคว้าแชมป์โลกเสียอีก
ส่วนทาง โมร็อกโก เองก็พยายามที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นชาติจากแอฟริกาทีมแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก และความร้อนแรงของกองหน้าวัย 23 ปีอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ อาจเป็นตัวชี้ขาดในเกมรอบรองชนะเลิศนัดนี้
มีทีมไหนเคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกติดต่อกันบ้าง?
หาก ฝรั่งเศส สามารถป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ พวกเขาจะเป็นชาติที่ 3 ที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกติดต่อกันได้ต่อจากทีมอย่าง บราซิล และ อิตาลี
ทีมที่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกติดต่อกัน
-
บราซิล 1958 และ 1962
บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกจากทั้งหมด 5 ครั้งในปี 1958 และป้องกันแชมป์ได้ในปี 1962 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของทัพแซมบ้าในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
แม้จะเสมอกับอังกฤษ 0-0 ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ในปี 1958 แต่ บราซิล ก็ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในฟุตบอลโลกครั้งนั้นได้
จากจุดนั้น เปเล่วัย 17 ปี ได้แสดงให้ทั้งโลกเห็นว่าเขาเก่งกาจเพียงใด ซึ่งเขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขัน โดยเกมนั้นทัพแซมบ้าคว้าชัยเหนือ เวลส์ ไป 1-0
58 years ago today, A 17-year old @Pele scores his first World Cup goal against Wales in the 1958 WC quarter-finals. pic.twitter.com/vWyBtNDUeA
— The Antique Football (@AntiqueFootball) June 19, 2016
อีกหนึ่งสถิติที่บ้าคลั่งของ เปเล่ เมื่อเขากลายเป็นผู้ทำแฮตทริกที่อายุน้อยที่สุดในฟุตบอลโลก ในเกมที่ชนะ ฝรั่งเศส 5-2 ขณะที่ทั้งโลกต่างจับตามองและจับจ้องไปที่ดาวรุ่งที่มีฟอร์มการเล่นอันน่าทึ่งคนนี้
เปเล่ ทำได้อีก 2 ประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่ บราซิล ชนะ สวีเดน ไป 5-2 ทำให้เขาคว้าแชมป์โลกและขึ้นเป็นตำนานของทัพแซมบ้าตั้งแต่อายุเพียงแค่ 17 ปี
😲🙌🇧🇷
— FIFA World Cup (@FIFAWorldCup) April 13, 2018
This week's @Hyundai_Global 'Anatomy of a Goal' remembers @Pele's superb technique in the 1958 #WorldCup Final against Sweden pic.twitter.com/kdevqiI7DB
ในปี 1962 บราซิล ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้อย่างไม่ยากเยน อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บทำให้เปเล่ นั้นไม่ได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นั้นอีกเลย หลังต้องออกจากสนามในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอกับ เชโกสโลวาเกีย 0-0
แม้จะไม่มี เปเล่ แต่ บราซิล ก็เอาชนะ เชโกสโลวาเกีย ไปได้ 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยฝีเท้าของนักเตะอย่าง การินชา
-
อิตาลี 1934 และ 1938
อิตาลี กลายเป็นชาติแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 1934 และ 1938
วิตโตรีโอ โปซโซ เป็นแข้งคนสำคัญของ อิตาลี ในทั้ง 2 ทัวนาร์เมนต์
ขณะที่ฟุตบอลโลกปี 1934 เริ่มเข้าสู่การแข่งขันรอบน็อคเอาท์ การถล่ม สหรัฐอเมริกา 7-1 ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าเกรงขามทันที ก่อนจะมาเอาชนะ สเปน และ ออสเตรีย ไปได้อย่างหวุดหวิด ตามมาด้วยการคว้าชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษเหนือ เชโกสโลวาเกีย ซึ่งก็ต้องขอบคุณคนทำประตูชัยอย่าง แอนเจโล่ สเกียวีโอ
ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมาในฟุตบอลโลก 1938 ที่ฝรั่งเศส จะเป็นความกดดันในการป้องกันแชมป์ที่แท้จริงสำหรับพวกเขา แต่ชัยชนะเหนือเจ้าภาพในรอบก่อนรองชนะเลิศกลายเป็นเครื่องปลดล็อคให้ อิตาลี นั้นผ่านทั้ง บราซิล และ ฮังการี จนคว้าแชมป์ไปในท้ายที่สุด
ฝรั่งเศส กับแชมป์ฟุตบอลโลก 2018
หลังจากแพ้ให้กับ โปรตุเกสใน รอบชิงชนะเลิศยูโร 2016 ที่ปารีส ฝรั่งเศส ก็ต้องมุ่งหน้าไปสู่ฟุตบอลโลก 2018 โดยหวังว่าจะแก้ตัวและคว้าแชมป์ได้ในทัวร์นาเมนต์
สำหรับพวกเขาเกมในรอบแบ่งกลุ่มไม่ได้แสดงให้เห็นว่าทัพตราไก่จะมีอะไรดีพอที่จะคว้าแชมป์โลกได้ แม้ว่า คิลิยัน เอ็มบัปเป้ จะกลายผู้ทำประตูในฟุตบอลโลกที่อายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศส ก่อนการมาพบกับ อาร์เจนตินา ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ชัยชนะเหนือทัพฟ้าขาวของ ลีโอเนล เมสซี 4-3 ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขามีดีพอที่จะเป็นแชมป์โลก อีกทั้ง เอ็มบัปเป้ ยังทำคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ พร้อมทั้งประกาศตัวให้โลกรู้ว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ในยุคต่อไป
In 2018, @KMbappe put the WORLD on notice and has been providing amazing moments ever since 🇫🇷💥
— FIFA World Cup (@FIFAWorldCup) December 10, 2022
พวกเขาผ่านทั้ง อุรุกวัย และ เบลเยียม มาได้ในรอบก่อนรองชนะเลิศและรอบรองชนะเลิศตามลำดับ
ในรอบชิงชนะเลิศกับ โครเอเชีย พวกเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะทีมตราหมากรุกไป 4-2 ซึ่งเกิดขึ้นจากประตูของ อ็องตวน กรีซมันน์, ปอล ป็อกบา และ เอ็มบัปเป้ ส่วนอีกหนึ่งประตูมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ มาริโอ มานซูคิช
ฝรั่งเศส สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกติดต่อกันได้หรือไม่?
แม้จะแพ้ให้กับ ตูนิเซีย ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ที่มสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เพราะทีมตราไก่เอาชนะมาได้ทั้ง ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก ใน 2 เกมก่อนหน้านี้
ส่วนเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย กองหน้าอย่าง เอ็มบัปเป้ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ก็จับคู่ทำประตูกันได้อย่างลงตัว โดยในเกมนั้น ฝรั่งเศส เอาชนะ โปแลนด์ ไปได้ 3-1 ก่อนที่ ชิรูด์ จะมาทำอีกหนึ่งประตูในเกมที่ชนะ อังกฤษ 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พาทัพตราไก่ผ่านเข้าสู่รองรองชนะเลิศได้สำเร็จ
แม้จะต้องมาเจอกับ โมร็อกโก ที่ดูเป็นรองกว่า แต่ก็คงไม่ใช่งานง่ายสำหรับลูกทีมของ เดส์ชองส์ อย่างแน่นอน เพราะชาติจากแอฟริกาทีมนี้นั้นผ่านมาได้ทั้ง เบลเยียม, สเปน และ โปรตุเกส
แต่ถ้าหากพวกเขาผ่านไปเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ทัพตราไก่อาจจะต้องมาเจอกับ โครเอเชีย อีกครั้งในการชิงดำ หรืออาจจะเป็นการมาพบกับ อาร์เจนตินา ที่มี ลีโอเนล เมสซี อยู่ในทีม
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก