นับตั้งแต่ทีมชาติอียิปต์ลงเล่นในฟุตบอลโลก 1934 มีอีก 13 ชาติจากแอฟริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันและสร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกในแต่ละครั้ง
5 สิงห์แอฟริกา
โมร็อกโก, ตูนิเซีย และเซเนกัล เป็นสามทีมที่ผ่านการลงเล่นในรอบสุดท้ายเมื่อปี 2018
ส่วนกานากับแคเมอรูนลงเล่นในรอบสุดท้ายอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2014
เซเนกัล อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับเจ้าภาพอย่างกาตาร์, เอกวาดอร์ และเนเธอร์แลนด์
ตูนิเซีย อยู่ในกลุ่ม D ร่วมกับฝรั่งเศสแชมป์โลก 2018, เดนมาร์ก และออสเตรเลีย
โมร็อกโก อยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับโครเอเชีย รองแชมป์โลกปี 2018, เบลเยียม อันดับ 3 และแคนาดา
แคเมอรูน อยู่ในกลุ่ม G ร่วมกับบราซิลแชมป์โลก 5 สมัย, สวิตเซอร์แลนด์ และเซอร์เบย
กานา อยู่ในกลุ่ม H ร่วมกับโปรตุเกส, อุรุกวัย และเกาหลีใต้
การคัดเลือกแบบแอฟริกา
ในโซนแอฟริกามีรอบคัดเลือก 3 รอบ รอบแรกเป็นการคัดเลือกระหว่างทีมอันดับ 27-ทีมอันดับ 54 ของทวีปเพื่อหา 14 ทีมลงเล่นกับทีมท็อป 26 ของทวีป โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆละ 4 ทีม เพื่อหาแชมป์กลุ่มไปเพลย์ออฟในรอบคัดเลือกรอบสาม
ตูนิเซียเข้ารอบด้วยประตูเดียวจากการสกัดเข้าประตูตัวเองมูสซ่า ซิสซาโก้ของมาลี ส่วนโมร็อกโกเปิดบ้านถล่มดีอาร์ คองโกผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 แบบสบายๆ
กานาเข้ารอบสุดท้ายด้วยอเวย์โกลโธมัส ปาร์เตย์ แคเมอรูนต้องลุ้นเหนื่อยถึงช่วงต่อเวลาพิเศษถึงจะชนะอัลจีเรีย และเซเนกัลชนะอียิปต์ในการดวลจุดโทษหลังทั้ง 2 เกมเสมอกันไป 1-1
ฟีฟ่าแรงกิ้งของทีมจากแอฟริกา
เซเนกัลเป็นทีมที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งในบรรดาทีมจากแอฟริกา โดยอยู่ที่อันดับ 18 ตามมาด้วยโมร็อกโกในอันดับ 22, ตูนิเซียอยู่อันดับ 30 ขึ้นมาจากที่ 36 เมื่อต้นปี 2022, แคเมอรูนอยู่อันดับที่ 43 และกานาอยู่ในอันดับ 61 ซึ่งเป็นอันดับ 11 ของทวีป
ดีสุดรอบ 8 ทีม
แคเมอรูนเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 1990 โดยเอาชนะอาร์เจนตินาแชมป์เก่าและโรมาเนียในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนเอาชนะโคลอมเบียในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากผลงานของโรเจอร์ มิลลา และโดนอังกฤษหยุดเส้นทางไว้ที่รอบก่อนรองชนะเลิศ
เซเนกัลเป็นอีกหนึ่งทีมที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2002 โดยเอาชนะฝรั่งเศสแชมป์เก่าในรอบแรก ชนะสวีเดนในรอบ 16 ทีมด้วยโกลเดนโกล์ของอองรี กามาร่า ก่อนโดนตุรกีหยุดเส้นทางในรอบ 8 ทีมจากโกลเดนโกล์ของอิลฮาน มานซิซ
กานาเป็นทีมล่าสุดที่เข้ารอบ 8 ทีมในปี 2010 โดยทัพดาวดำผ่านรอบแรกด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าออสเตรเลีย ก่อนเอาชนะสหรัฐอเมริกาในรอบต่อเวลาพิเศษ 2-1 และเกือบจะเข้ารอบรองชนะเลิศในเกมพบกับอุรกวัย ถ้าหลุยส์ ซัวเรซไม่เอามือปัดบอลในช่วงต่อเวลาพิเศษ นำมาสู่ความพ่ายแพ้ในช่วงการดวลจุดโทษในที่สุด