เมื่อพูดถึงนักเตะที่โชคร้ายที่สุดคนหนึ่งในโลกฟุตบอล มาร์โก รอยส์ ถือเป็นแข้งที่ใครหลายคนอาจนึกถึง เนื่องจากฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขา ไม่เคยพาเจ้าตัวประสบความสำเร็จในฐานะแชมป์ลีกเลยสักครั้ง
แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือโอกาสที่เขาควรถูกจดจำในฐานะแชมป์โลก หลังทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลโลก 2024 ยังเลือนหายไป เนื่องจากอาการบาดเจ็บอันไม่คาดฝัน นำมาสู่ฝันร้ายที่ยากจะลืมเลือนของแข้งรายนี้
น่าจับตายิ่งกว่าเมสซี
ย้อนกลับไปก่อนศึกฟุตบอลโลก 2014 มาร์โก รอยส์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามากที่สุดในโลกฟุตบอลขณะนั้น ผลงานในสองฤดูกาลแรกของเขากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้าขั้นเหนือชั้น จากการยิงทั้งหมดทุกรายการรวม 42 ประตู
โดยในฤดูกาล 2012-13 เขาพาทัพเสือเหลืองเข้าสู่รอบชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ส่วนในฤดูกาลถัดมา รอยส์สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบุนเดสลีกามาครองได้สำเร็จ
ณ เวลานั้น สื่อมวลชนหลายเจ้ายกย่องให้รอยส์เป็นนักเตะระดับท็อป 20 ของโลก โดยทุกฝ่ายต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า หากรอยส์สามารถโชว์ฟอร์มดีเหมือนกับเล่นให้ดอร์ทมุนด์ในศึกฟุตบอลโลกที่บราซิล ทีมชาติเยอรมันจะสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่สี่มาครองอย่างไม่ต้องสงสัย
รอยส์ยังเคยถูกเปรียบเทียบกับนักเตะหมายเลขหนึ่งแห่งยุคสมัย ลีโอเนล เมสซี ว่าใครจะแสดงผลงานได้ดีกว่ากันในศึกฟุตบอลโลก เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องขุมกำลังที่แตกต่างระหว่างอาร์เจนตินา และเยอรมัน โดยแฟนบอลจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่า องค์ประกอบที่ครบเครื่องของทัพอินทรีเหล็ก จะส่งผลให้รอยส์กลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในฟุตบอลโลก 2014
ตัดภาพไปยังการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ เมสซี่สามารถพาทัพฟ้าขาวเข้าไปพบกับทีมชาติเยอรมันในเกมตัดสิน พิสูจน์ว่าเขายังเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในทัวร์นาเมนต์
เช่นเดียวกับทัพอินทรีเหล็กที่ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นไปตามคาดการณ์ แต่ผู้ชายคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ คือดาวดังจากดอร์ทมุนด์ เมื่อรอยส์ต้องพบเจอกับฝันร้ายที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา
บทความที่เกี่ยวข้อง : พวกเขาอยู่ที่ไหน? 11 ตัวจริงดอร์ทมุนด์ชุดลุยนัดชิงแชมเปียนส์ลีก 2013
ฝันร้ายก่อนบอลโลก
รอยส์ถือเป็นกำลังหลักของทีมชาติเยอรมันตลอดรอบคัดเลือก เขาทำได้ 5 ประตู และ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่นหกนัด เจ้าตัวยังคงลงเล่นให้ทัพอินทรีเหล็กอย่างต่อเนื่องในเกมอุ่นเครื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด
แต่ในวันที่ 6 มิถุนายน เยอรมันลงเล่นกับอาร์เมเนียในเกมที่ไม่มีความหมายเท่าใดนัก เมื่อพวกเขาถล่มคู่แข่ง 6-1 แต่ข่าวร้ายที่สุดของทีมในช่วงหน้าร้อนปีนั้น เกิดขึ้นในเกมนี้
ตั้งแต่การแข่งขันครึ่งแรกยังไม่ทันจบ รอยส์ล้มไปกองกับพื้นสนามหลังได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และไม่สามารถออกจากสนามด้วยตัวเอง เพียงหนึ่งวันหลังจากนั้น มีการยืนยันว่ารอยส์ได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าฉีก และจะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บนาน 6-7 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าเขาต้องพลาดลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกที่บราซิล เนื่องจากการแข่งขันจะเริ่มต้นในอีก 5 วันข้างหน้า
ชโกดราน มุสตาฟี ปราการหลังดารุ่งวัย 22 ปี จากซามพ์โดเรีย ถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติแทนรอยส์ท่ามกลางความแปลกใจของแฟนบอล แต่กุนซือของทีมในเวลานั้น โยอาคิม เลิฟ กล่าวว่าทัพอินทรีเหล็กมีตัวแทนมากพอที่จะเข้ามารับหน้าที่แทนรอยส์โดยไม่เกิดปัญหา
ทั้ง ลูคัส โพดอลสกี้, อังเดร ชูร์เล่, มาริโอ เกิทเซ่, โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ และโทนี่ โครส ต่างเป็นตัวเลือกในแนวรุกที่เลิฟเอ่ยปากว่าสามารถพึ่งพาได้ไม่ต่างจากรอยส์
และความจริงก็เป็นเช่นนั้น เมื่อรายชื่อทีมเลิฟพูดมาต่างพาทีมชาติเยอรมันเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 มาครองได้สำเร็จ จากชัยชนะ 1-0 เหนืออาร์เจนตินา ด้วยประตูของเกิทเซ่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เหล่าขุนพลทัพอินทรีเหล็กต่างฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ และนักเตะ 23 คนได้ถูกจารึกชื่อลงบนหน้าประวัติศาสตร์
ขณะที่รอยส์ทำได้เพียงติดตามเรื่องราวทั้งหมดนี้อยู่ที่บ้านเกิด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย : ทำไมนักเตะดอร์ทมุนด์ร้องเพลง 'Someone Like You' ฉลองเข้าชิง UCL?
ความเจ็บปวดที่ยากจะรับ
บรรดาขุนพลทีมชาติเยอรมันไม่เคยลืมความสำคัญของรอยส์กับทีม เกิทเซ่ผู้ยิงประตูชัย และอดีตเพื่อนร่วมทีมดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจชูเสื้อแข่งขันของรอยส์เพื่อเป็นการให้เกียรตินักเตะผู้โชคร้าย โดยทุกคนยืนยันว่ารอยส์คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้แน่นอน
แต่ถึงแม้ทุกคนจะให้กำลังใจเขามากเพียงใด ความจริงที่เกิดขึ้นยังยากที่รอยส์จะรับได้ เขาพยายามตัดขาดตัวเองกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ด้วยการปฏิเสธคำเชิญของทีมชาติเยอรมันที่จะให้เขาเดินทางติดตามไปกับแคมป์ หรือเลือกเข้านอนก่อนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ รอยส์ไม่ได้เห็นภาพเกิทเซ่ชูเสื้อแข่งขันเขาแบบสด ๆ ด้วยซ้ำ
รอยส์เปิดเผยในภายหลังว่านั่นคือช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเจ็บปวดมากสำหรับเขา และยิ่งผลลัพธ์ของการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติเยอรมัน เขายิ่งเจ็บปวดมากเป็นสองเท่าที่พลาดโอกาสเดินทางไปลงเล่นที่ประเทศบราซิล อย่างไรก็ดี รอยส์ขอบคุณครอบครัว และเพื่อนของเขาที่คอยอยู่ข้าง ๆ เสมอในช่วงเวลานั้น
ถึงความฝันของรอยส์ในฐานะแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมันจะสิ้นสุดลงไป แต่เส้นทางของรอยส์ยังมีบางอย่างที่สำคัญกว่ารออยู่ ทุกวันนี้ รอยส์ยังคงเป็นกัปตันของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และมีโอกาสจะโบกมือลาสโมสรแห่งนี้ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
บางที มาร์โก รอยส์ อาจได้พบช่วงเวลาที่สวยงามของตัวเอง .. ช่วงเวลาที่อาจมีค่ากับเขาไม่แพ้การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand