ฟุตบอลเปลี่ยนไป : 4 แท็กติกที่มีโอกาสสูญพันธุ์จากเกมลูกหนังในอนาคต

Kim Junumporn

ฟุตบอลเปลี่ยนไป : 4 แท็กติกที่มีโอกาสสูญพันธุ์จากเกมลูกหนังในอนาคต image

เกมฟุตบอลเป็นการแข่งขันที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 100 ปี และมันมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด และหากมองย้อนกลับไปในรอบ 10 ปี จะเห็นได้ว่ากีฬาลูกหนังชนิดนี้เปลี่ยนรูปโฉมไปอย่างมาก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยเทคโนโลยีทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และการพัฒนาทางด้านแท็กติกและเทคนิค ทำให้หลายอย่างที่เคยล้ำสมัยกลับกลายเป็นความล้าสมัย สิ่งที่เคยได้เปรียบกลับกลายเป็นเสียเปรียบ และบางอย่างที่เคยใช้กันแพร่หลายทั่วโลก ก็กลายเป็นสิ่งที่แทบไม่มีใครใช้กันแล้วในยุคปัจจุบัน

ว่าแต่มีอะไรบ้างที่เคยเป็นแท็กติกยอดนิยม และกำลังจะสูญพันธุ์ไปในอนาคต เรารวบรวมมาไว้ที่นี่

1. แผนการเล่นในระบบ 4-4-2

กาลครั้งหนึ่ง 4-4-2 เคยเป็นแผนการเล่นพื้นฐานที่แทบทุกทีมบนโลกใช้กัน โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ รูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่ทรงประสิทธิภาพ กองหลัง 4 คน กองกลาง 2 คน ปีก 2 ฝั่ง และศูนย์หน้าอีก 2 คน คอยทำหน้าที่ถล่มประตู

แผนการเล่นแบบ 4-4-2 กลายเป็นเรื่องล้าสมัย เมื่อบาร์เซโลนาของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ครองความยิ่งใหญ่ในยุโรป หลายๆ ทีม หลายๆ สโมสรพยายามถอดแบบแผน 4-3-3 ของกุนซือชาวสเปน รวมถึงความนิยมของแผน 4-2-3-1 ทำให้ 4-4-2 กลายเป็นเรื่องของกุนซือหัวโบราณอย่างรวดเร็ว

ราวๆ ปี 2009-10 มีถึงกว่าครึ่งของสโมสรในพรีเมียร์ลีกเลือกใช้แผน 4-4-2 ตามสถิติของ OPTA มี 43.9 เปอร์เซ็นต์ของ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ถูกจัดภายใต้แผนนี้ ก่อนจะลดลงมาเหลือ 33 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012-13 และกลายเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ในเวลาต่อมา

ในฤดูกาลปัจจุบัน มีเพียง 6.5 เปอร์เซ็นต์ของ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่เลือกใช้แผนนี้ โดยมีสโมสรอย่าง เบิร์นลีย์, ลูตัน ทาวน์ และคริสตัล พาเลซ เป็น 3 สโมสรหลักที่ยังใช้แผนนี้อยู่

2. เปิดเตะมุมเข้าไปโหม่ง

ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

ลูกตั้งเตะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายสโมสรเลือกใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำประตู โดยแต่ละทีมจะเลือกผู้เล่นในตำแหน่งปีก หรือเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งเป็นคนที่เปิดบอลได้แม่นยำที่สุดเป็นผู้เล่นลูกเตะมุม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำประตูให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ดี แนวคิดดังกล่าวเริ่มมีการเปลี่ยนไป เมื่อดูจากสถิติแล้ว มันไม่ได้ทรงประสิทธิภาพอย่างที่คิดไว้ ตลอด 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีลูกเตะมุมเกิดขึ้น 40,715 ลูกในพรีเมียร์ลีก และมีเพียง 1,409 ลูกที่กลายเป็นประตู ฟังดูเหมือนเยอะ แต่เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว มีเพียง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ที่กลายเป็นประตู หรือต้องใช้การเตะมุมถึง 29 ครั้งกว่าจะได้ 1 ลูก

ดังนั้น ผู้จัดการทีมทั้งหลายจึงหาหนทางที่จะทำให้การเล่นลูกเตะมุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไล่ตั้งแต่การเลือกใช้ผู้เล่นฟูลแบ็คมาเล่นลูกเตะมุมแทน ไปจนถึงการเล่นลูกเตะมุมสั้น ซึ่งเมื่อฤดูกาล 2012-13 มีการเล่นลูกเตะมุมสั้นเพียง 11.7 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะกลายมาเป็น 20.6 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลปัจจุบัน เทียบกับ 17.7 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้

จริงอยู่ที่การโยนบอลเข้าไปลุ้นลูกโหม่งยังคงเป็นทางเลือกส่วนใหญ่ของหลายสโมสรในวงการฟุตบอล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันกำลังลดลงไปเรื่อยๆ และอาจกลายเป็นแท็กติกที่ทีมส่วนน้อยเลือกใช้ในอนาคต

3. ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ

เมื่อพูดถึงประตูสุดสวย คุณอาจจะนึกถึงวิธีส่งบอลไปกองก้นตาข่ายด้วยรูปแบบมากมาย ไล่ตั้งแต่การลากบอลเข้าไปยิงประตู, ลูกยิงผาดโผน ไปจนถึงการยิงไกลจากระยะที่คาดไม่ถึง ซึ่งในปัจจุบันเป็นวิธีการเล่นที่ค่อยๆ ลดความนิยมลงเรื่อยๆ

ในฤดูกาล 2009-10 มีถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นลูกยิงจากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเหลือ 33.2 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลที่แล้ว และในฤดูกาลนี้ เหลือเพียง 32.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เหตุผลง่ายๆ คือแต่ละทีมเลือกที่จะยิงไกลกันน้อยลง และพิถีพิถันกับการเลือกยิงไกลมากขึ้น โดยถึงแม้แต่ละทีมจะเลือกยิงไกลกันน้อยลง แต่การยิงไกลแต่ละครั้งของพวกเขากลับมีเปอร์เซ็นต์กลายเป็นประตูสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

4. ผู้รักษาประตูโยนบอลเตะ

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน การโยนบอลเตะไปข้างหน้าของผู้รักษาประตู ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกหลักที่มือกาวแทบทุกคนเลือกใช้ เมื่อได้ครองบอล ซึ่งเมื่อคิดจากบริบทในยุคนั้น การเลือกใช้วิธีทีทำให้บอลไปอยู่ไกลจากปากประตูของตัวเองดูเหมือนจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ดี ด้วยฟุตบอลในปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญกับการครองบอลมากขึ้น การเลือกใช้วิธีโยนเตะออกไปให้ไกลที่สุดดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ถูกใช้น้อยลงเรื่อยๆ และหลายๆ ทีมก็หันมาให้ผู้รักษาประตูเล่นลูกสั้นและพยายามตั้งเกมขึ้นไปจากหน้าปากประตูตัวเองมากกว่า

ในปี 2003-04 เปอร์เซ็นต์การผ่านบอลสำเร็จของผู้รักษาประตูอยู่ที่เพียง 42.5 เปอร์เซ็นต์ กลายเป็น 71.8 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าทำไมการโยนบอลเตะออกไปถึงกำลังจะสูญพันธุ์ในอนาคต

ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Kim Junumporn

Kim Junumporn Photo

นักเขียน The Sporting News Thailand