ฟีล โฟเด้น ขาดอะไร? เหตุใดทีมชาติอังกฤษไม่ใช้งานในฟุตบอลโลก 2022

Nuttanon Chankwang

ฟีล โฟเด้น ขาดอะไร? เหตุใดทีมชาติอังกฤษไม่ใช้งานในฟุตบอลโลก 2022 image

ฟีล โฟเด้น คือสุดยอดกองกลางตัวรุกแห่งยุคสมัยของประเทศอังกฤษ แต่เขากลับถูกมองข้ามโดยทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้รับโอกาสลงสนามในฟุตบอลโลก 2022

เกิดคำถามขึ้นมากมาย หลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ปฏิเสธการส่ง ฟิล โฟเด้น กองกลางตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนาม ในเกมที่ทัพสิงโตคำรามเสมอกับสหรัฐอเมริกา 0-0

แม้นักเตะรายนี้จะถูกยกย่องให้เป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก แถมยังแสดงผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องหลายปี ภายใต้สีเสื้อของเรือใบสีฟ้า แต่นักเตะรายนี้กลับถูกหมางเมินอย่างต่อเนื่องในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษ … อย่าว่าแต่ลงเล่นเป็นตัวจริง เขาไม่ได้รับโอกาสลงสนามในสถานการณ์ที่ทีมต้องการเขามากที่สุดด้วยซ้ำ

Jack Grealish Phil Foden Manchester City

เหตุใดหนึ่งในนักเตะที่อันตรายที่สุดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงแทบไม่ได้รับโอกาสบนเวทีทีมชาติ บางทีคนเดียวที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ แกเร็ธ เซาธ์เกต เพราะเขาไม่เพียงเป็นคนที่ตัดสินใจว่าจะส่งใครลงสนาม แต่ยังเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้โฟเด้นนั่งสำรองยาวอยู่ข้างสนาม แบบที่แฟนบอลทั่วโลกเห็นกันในขณะนี้

เหตุผลแรก และอาจเป็นเหตุผลเดียว ซึ่งทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจไม่ส่ง ฟิล โฟเด้น ลงสนามเป็นตัวจริงในสองเกมแรกของศึกฟุตบอลโลก 2022 นั่นคือ “เซาธ์เกตไม่ได้ชื่นชอบโฟเด้น” ในฐานะนักเตะแม้แต่น้อย  

แน่นอนว่า นี่เป็นความจริงที่น่าเหลือเชื่อ หากผู้จัดการทีมสักคนจะปฏิเสธทักษะอันยอดเยี่ยมของโฟเด้น แต่สำหรับกุนซือของทัพสิงโตคำรามรายนี้ เซาธ์เกตแสดงเห็นชัดว่าตัวเองไม่เคยโปรดปรานกองกลางรายนี้เป็นพิเศษ

ย้อนกลับไปก่อนที่โฟเด้นจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก นักเตะรายนี้ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ปี 2017 ก่อนขยับบทบาทขึ้นเป็นตัวหลักของทีมในเวลาต่อมา ความสำเร็จบนเวทีสโมสรตรงนี้ 

ถือเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงความสามารถของโฟเด้น เพราะเมื่อถึงปี 2020 ดาวรุ่งรายนี้ก็ประสบความสำเร็จในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ผ่านการลงสนามให้ต้นสังกัดทุกรายการ 64 นัด

ยิ่งบวกกับความจริงที่นักเตะรายนี้คือลูกรักของเป๊บ กวาดิโอล่า กุนซือเจ้าแทคติกแห่งทัพเรือใบสีฟ้า ซึ่งคอยสั่งสอนและปลุกปั้นโฟเด้นให้พัฒนาตัวเองจากดาวรุ่งพุ่งแรง จนกลายเป็นกำลังหลักของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปี 

Phil Foden Manchester City Premier League trophy 2020-21

ข้อได้เปรียบตรงนี้ยิ่งน่าจะทำให้โฟเด้น สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติอังกฤษได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างที่แฟนบอลทั่วโลกเห็นกันในเกมกับสหรัฐอเมริกา โฟเด้น ไม่ใช่แม้แต่ตัวเลือกแรกสำหรับเซาธ์เกต เมื่อเขากำลังมองหาตัวเลือกบนม้านั่งสำรองที่จะเข้ามาสร้างสรรค์เกมรุกให้หลากหลายมากขึ้น 

นี่คือหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เซาธ์เกตไม่ได้ชื่นชอบโฟเด้นแม้แต่น้อย และไม่ว่าบทบาทในสโมสรของเขาจะเป็นอย่างไร สำหรับกุนซือทีมชาติอังกฤษแล้ว โฟเด้นยังคงเป็นดาวรุ่งที่ไม่สามารถฝากความหวังได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

“การที่ฟิล โฟเด้น ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติอังกฤษ คือสิ่งที่น่าเสียดายมาก เพราะว่าเขาถือเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ชั้นยอด เขาคือนักเตะที่ดีที่สุด เขามีทักษะยอดเยี่ยมที่สุด และแน่นอนที่สุดคือ เขาควรจะได้ลงเล่น” แกรี่ เนวิลล์ แสดงความคิดเห็นถึงบทบาทที่โฟเด้นควรได้รับในทีมชาติอังกฤษ

ความจริงแล้วทั้งสองฝ่ายต่างทำงานร่วมกันในทีมชาติอังกฤษมาเป็นเวลากว่าสองปีแล้ว เซาธ์เกตจึงย่อมมองเห็นจุดแข็งของโฟเด้นอย่างปรุโปร่ง ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของนักเตะรายนี้คือ การลงสนามเข้ามารับบทบาท “ตัวเปลี่ยนเกม” หรือ a difference-maker 

เนื่องจากทักษะชั้นยอดที่สามารถยิงก็ได้ จ่ายก็ดี รวมถึงความเร็วที่มากพอจะโจมตีพื้นที่สุดท้ายอย่างต่อเนื่อง โฟเด้นจึงมักเป็นตัวเลือกแรกของกวาดิโอล่า หากกุนซือชาวสเปนต้องการประตูเพิ่มในช่วงท้ายเกม

น่าเสียดายที่จนถึงทุกวันนี้ โฟเด้นลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษแบบครบถ้วน 90 นาที เพียงแค่ 4 แมตช์ และได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในศึกยูโร 2020 เพียงแค่สองเกม 

ยิ่งเมื่อมองไปยังสถิติการติดทีมชาติเพียง 19 นัด ของนักเตะวัย 22 ปี ซึ่งกำลังลงเล่นเป็นตัวหลักให้แก่ทีมอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีก มันค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าเซาธ์เกตมีแนวคิดอย่างไรกับฝีเท้าของโฟเด้น ซึ่งหนึ่งในแนวคิดนั้น ย่อมไม่ใช่การมองนักเตะรายนี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมชั้นเยี่ยม

Phil Foden England

เมื่อผลลัพธ์เกมกับสหรัฐอเมริกาจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 เซาธ์เกตอธิบายถึงการตัดสินใจของตัวเองอย่างมั่นใจ เขากล่าวว่าทีมชาติอังกฤษไม่สามารถเปลี่ยนผู้เล่นชุดตัวจริงที่เพิ่งถล่มอิหร่าน 6-2 ได้ ยิ่งเมื่อมองไปยังคุณภาพของผู้เล่นเกมรุก 

ไล่ตั้งแต่ จู๊ด เบลลิงแฮม, เมสัน เมาท์, บูกาโย่ ซาก้า, ราฮีม สเตอลิ่ง และแฮร์รี่ เคน นี่จึงเป็นเรื่องยากที่เซาธ์เกจะถอดใครออก เพื่อเปิดทางให้โฟเด้นเข้ามายึดตำแหน่งตัวจริง

ส่วนของตัวสำรองก็เช่นเดียวกัน เซาธ์เกตเปิดเผยว่าเขาเลือกส่งจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนาม เพราะต้องการกองกลางที่มีประสบการณ์, ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะต้องการนักเตะความเร็วสูงลงไปโจมตี และส่ง แจ็ค กรีลิช เพราะต้องการให้สักคนที่สามารถครองอย่างเหนียวแน่นในพื้นที่สุดท้ายของสนาม

คำสัมภาษณ์หลังจบเกมตรงนี้เองที่กลายเป็นหลักฐานมัดตัวเซาธ์เกต ถึงความจริงที่เขาไม่ชอบโฟเด้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจุดเด่นเรื่องความเร็วของแรชฟอร์ด และการครองบอลในพื้นที่สุดท้ายของกรีลิช ต่างเป็นคุณสมบัติที่โฟเด้นมีอยู่ในตัวทั้งหมด 

เขาเป็นนักเตะที่สามารถฉีกกระชากแผงหลังมาแล้วนับไม่ถ้วน เมื่อสวมเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ด้วยผลงานระดับนี้ โฟเด้นกลับมีโอกาสลงสนามในฟุตบอลโลกหนนี้เพียง 19 นาที

Phil Foden Manchester City

แน่นอนว่า การส่งโฟเด้นลงสนามเป็นตัวจริง จะส่งผลกระทบต่อแผนการเล่นของทีมชาติอังกฤษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

แต่แฟนบอลทั่วโลกต่างมองเห็นกันจากสองเกมแรกแล้วว่า ราฮีม สเตอลิ่ง หรือ เมสัน เมาท์ อาจไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้ดีพอในเกมที่เต็มไปด้วยความตรึงเครียด และบางทีโฟเด้นอาจเป็นคนที่ควรได้รับโอกาสลงสนาม หากทีมชาติอังกฤษต้องการโจมตีคู่แข่งอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มต้น

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ฟิล โฟเด้น จะต้องลงเล่นเป็นตัวจริงเท่านั้นในเกมที่พบกับทีมชาติเวลส์ เพราะจนถึงขณะนี้ ยังมีกูรูส่วนหนึ่งจากสื่อต่างประเทศที่เชื่อว่าโฟเด้นไม่จำเป็นต้องลงสนามเป็นตัวจริง และควรจะยึดแกนกลางจากสองนัดแรกต่อไป 

อย่างไรก็ดี บรรดากูรูเหล่านี้เชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนสักตำแหน่งจากชุดตัวจริงสองนักแรก โฟเด้นควรเป็นคนแรกที่ได้รับโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายแทนสเตอลิ่ง หรือกองกลางตัวรุกแทนเมาท์  

ท้ายที่สุด การตัดสินใจตรงนี้ขึ้นอยู่กับแกเร็ธ เซาธ์เกต เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งจากผลงานในฐานะผู้จัดการทีมที่เคยพาทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูโร 2020 การตัดสินใจของเขายังคงเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ และการตั้งคำถามแบบตื่นตูมก็ไม่ควรเกิดขึ้น

ถึงอย่างนั้น ความจริงที่ทีมชาติอังกฤษเสมอสหรัฐอเมริกา 0-0 เนื่องจากเกมรุกขาดความสร้างสรรค์ แต่นักเตะที่เปลี่ยนเกมได้ดีที่สุดกลับไม่ถูกส่งลงสนาม ย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เซาธ์เกตคิดไม่ถูกในเรื่องนี้ ซึ่งถ้าหากเขาต้องการไปไกลกว่าตำแหน่งรองแชมป์ 

อคติที่บังตาไม่ให้เซาธ์เกตมองเห็นศักยภาพแท้จริงของโฟเด้น ต้องถูกลบออกไปโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้ว ทีมชาติอังกฤษอาจก้าวไปไม่ถึงแชมป์โลก เพียงเพราะพวกเขาไม่ย่อมส่งหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทีมลงสนาม แค่นั้นเอง

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Nuttanon Chankwang

Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand