พลังหนุ่มล้างอาถรรพ์ : ฝรั่งเศสกับการเปลี่ยนทีม เพื่อความสำเร็จในฟุตบอลโลก

The Sporting News

พลังหนุ่มล้างอาถรรพ์ : ฝรั่งเศสกับการเปลี่ยนทีม เพื่อความสำเร็จในฟุตบอลโลก image

อาถรรพ์ทีมแชมป์ฟุตบอลโลกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จนถึงตอนนี้ไม่เคยมีชาติไหนสามารถป้องกันแชมป์ได้นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1962 ที่ทีมชาติบราซิลป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ เมื่อ 60 ปีก่อนเลยทีเดียว 

เราต่างเห็นทีมชาติแชมป์เก่าตกรอบเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะ 3 ชาติหลังสุด ที่ในฟุตบอลโลกรอบท้ายครั้งต่อมา พวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี , สเปน หรือแม้แต่ เยอรมนี

ทีมชาติเยอรมนีหลายคนคิดว่าพวกเขาทำได้แน่ เพราะมีทีมที่ยอดเยี่ยมทั้งชุดปัจจุบันและดาวรุ่ง รวมถึงทีมชุดสำรองพึ่งคว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา

แต่เยอรมันก็หลบหนีอาถรรพ์นี้ไม่พ้น ซึ่งพวกเขาตกรอบในฐานะบ๊วยเลยด้วยซ้ำในฟุตบอลโลก 2018 แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่แข็งมากนัก 

Kylian Mbappe of France with the World Cup trophy
Getty Images

แน่นอนว่าสถานการณ์มันก็คล้าย ๆ กับทีมชาติฝรั่งเศสในปัจจุบัน นั่นอาจหมายความว่า การตกรอบของแชมป์เก่าไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่ทีมรวมดาวที่มีตัวเก่งทั้งตัวเก๋า และดาวรุ่งรวมอยู่ในทีมเดียวกัน  ตราบใดที่เป็นแชมป์เก่าของฟุตบอลโลก ก็ตกรอบได้เสมอ

ใช้เด็กรุ่นใหม่ให้เป็นประโยชน์

สิ่งเดียวที่ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ สามารถทำได้คือการเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อป้องกันความล้มเหลวที่รอเขาอยู่ข้างหน้า การพัฒนาทีมให้เข้ากับสถานการณ์ที่มีคือส่วนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเดส์ชองส์จะพยายามสร้างทีมในปี 2018 ด้วยนักเตะชุดใหม่ที่มีอยู่ในมือ   

ย้อนกลับไปตอนที่ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาอยู่ในฐานะทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยเป็นอันดับที่ 2 เท่ากับอังกฤษ มีเพียงไนจีเรียที่มีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าทีมของพวกเขา 

พลังของคนหนุ่มทำให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกอย่างดุดัน แต่ปัจจุบันทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เตรียมต้องเจอปัญหาที่ทีมแชมป์ที่เมื่อมาป้องกันแชมป์พวกเขาเลยจุดพีคไปแล้วป็นที่เรียบร้อย แต่เขาสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ เมื่อมีนักเตะพลังหนุ่มที่มีคุณภาพให้เลือกใช้มากมาย    

สิ่งที่เดส์ชองส์ทำคือ การปฎิวัติเพื่อชุบชีวิตทีมชาติฝรั่งเศสให้กลับมามีพละกำลังดุดันไม่ต่างจากปี 2018 ด้วยการเปลี่ยนผ่านกองกลางอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ แบลส มาตุยดี้ ที่ในตอนนี้ต่างก็โรยกันไปแล้ว ซึ่งก็องเต้พบเจอกับอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดในตอนนี้ ส่วนมาตุยดี้ตอนนี้ไม่มีทีมเล่นหลังแยกทางกับอินเตอร์ ไมอามี่ช่วงต้นปี 2022 

ส่วน ปอล ป็อกบา ที่เป็นตัวสร้างสรรค์เกมในแดนกลางก็ยังมีอาการบาดเจ็บสะสมในช่วงเริ่มฤดูกาล จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ เดส์ชองส์จะยังใช้กองกลางชุดเดิมในฟุตบอลโลกปลายปีนี้ 

Paul Pogba Kylian Mbappe
Getty Images

กองกลางคือพื้นที่สำคัญที่เดส์ชองส์มีการแก้ไขมากที่สุด เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ที่เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด ในวัย 19 ปีเขาพร้อมขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติ 

เช่นกันกับ ลอริยองต์ ชูอาเมนี่ ที่ในตอนนี้เขาอยู่กับเรอัล มาดริด และเป็นตัวแทนคาเซมิโร่ได้แบบสบาย ๆ ในแผงกลาง ชนิดที่แฟนชุดขาวลืมชื่อกองกลางทีมชาติบราซิลไปเลย 

พร้อมกับการให้โอกาส ยูสซูฟ โฟฟาน่า , มัตเตโอ เกนดูซี  และ บูบาคาร์ คามาร่า ที่ต่างก็ยังอายุไม่เกิน 23 ปีทั้งสิ้น ทำให้การเรียกตัวติดทีมชาติหนสุดท้าย ลุยรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก่อนฟุตบอลโลกปลายปีของทีมชาติฝรั่งเศสนั้นน่าสนใจสุด ๆ 

ส่วนในตำแหน่งอื่น ๆ ยังเป็นการผสมผสานหน้าเก่า และหน้าใหม่เข้าด้วยกัน จะเห็นว่ามีการกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ อุสมาน เดมเบเล่ ตามฟอร์มการเล่นปัจจุบันที่ต่างก็ดีกับต้นสังกัด 

การปรับทีมเพื่อลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ปลายปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ แต่หากไม่ทำอะไรเลย เขาก็เป็นผู้จัดการทีมที่รอเจอกับความล้มเหลวข้างหน้า เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เคยพาทีมแชมป์โลกมาตกรอบแรก

ด้วยฟอร์มการเล่นในรายการเนชันส์ลีก ที่มี 2 แต้ม จาก 4 เกมมันดูไม่ดีนักสำหรับการเตรียมตัวป้องกันแชมป์โลก แต่การชุบชีวิตให้ทีมกลับมามีพลังล้นเหลือในครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว 

 

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.