ผลงานแย่ไม่สิ้นสุด : ถึงเวลาหรือยังที่ลิเวอร์พูล ต้องบอกลา 'เยอร์เก้น คล็อปป์'

The Sporting News

ผลงานแย่ไม่สิ้นสุด :   ถึงเวลาหรือยังที่ลิเวอร์พูล ต้องบอกลา 'เยอร์เก้น คล็อปป์' image

ลิเวอร์พูลของ เยอร์เกน คล็อปป์ เริ่มต้นฤดูกาล 2022-23 ได้อย่างย่ำแย่ พวกเขาไม่ได้สามารถต่อยอดฟอร์มการเล่นจากฤดูกาลก่อนที่ลุ้น 4 แชมป์ได้เลย มันเหมือนกับ

ว่าพวกเขาใช้พลังทั้งหมดไปหมดแล้ว ตอนนี้ปัญหาต่างๆตามมามากมายไม่มีหยุด นั้นทำให้คล็อปป์ต้องคอยแก้ปัญหาไปเรื่อย ๆ และดูเหมือนมันจะมีเพิ่มขึ้นมาแบบไม่มีวันหมดสิ้น 

เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว สมัยที่เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำโบรุสเซีย ดอร์ทมนุด์ ในปีสุดท้ายของเขากับทัพเสือเหลืองทีมเจอปัญหามากมายจนไปหนีตกชั้นอยู่ช่วงหนึ่ง และอำลาตำแหน่งไปในที่สุด เพราะถึงทางตันที่ไม่สามารถเดินต่อไปได้แล้ว 

บางทีการปลดคล็อปป์ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจก็เป็นได้ 

สถานการณ์ปัจจุบัน

กว่าจะไปถึงการปลด เยอร์เกน คล็อปป์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล เราก็ต้องไปดูกันที่สถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันของทีมหงส์แดง ว่าพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ขนาดไหนหรือพอจะสามารถลุ้นอะไรได้บ้างในฤดูกาลนี้ 

ซึ่งแน่นอนหากมองไปบนตารางพรีเมียร์ลีกตอนนี้อยู่อันดับที่ 7 โดยที่ห่างพื้นที่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 แต้มด้วยกัน มันไม่ได้ดูห่างไกลจากความจริงที่พวกเขายังมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่ในฤดูกาลหน้าอยู่ 

Getty Images

แต่สำหรับการลุ้นแชมป์ก็หมดหวังไปได้ตั้งนานแล้ว  เพราะลิเวอร์พูลตามหลังจ่าฝูงอย่างอาร์เซน่อลถึง 12 แต้ม ถึงจะเหลือโปรแกรมอีกเยอะ แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่มีทางจะเทียบผลงานอันร้อนแรงของอาร์เซน่อล และรองจ่าฝูง อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เลย

ส่วนรายการอื่น ๆ อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตอนแรกลิเวอร์พูลจะดูแย่หน่อยเพราะพวกเขาแพ้นาโปลีเละเทะตั้งแต่นัดแรก แต่หลังจากนั้นก็ชนะมาทุกนัด และโอกาสเข้ารอบสดใสเพราะมี 9 แต้ม ขอแค่ชนะอีกนัดเดียวก็ได้การันตีเข้ารอบต่อไป 

แต่แน่นอนหลังความพ่ายแพ้ต่อน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ก่อนเกมจะเริ่มเป็นทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีก มันก็ไม่แปลกที่จะมีแฟนบอลหลายต่อหลายคนกลับมาพูดถึงเรื่องราวที่ลิเวอร์พูล และคล็อปป์ อาจถึงเวลาจะต้องเลือกแยกทางกัน เพราะดูเหมือนโค้ชชาวเยอรมันจะไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ได้เลย 

ปัญหาอยู่ตรงไหน 

ความผิดพลาดของลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้มีอยู่เต็มไปหมด แน่นอนสิ่งเหล่านี้บ่งชี้ถึงปัญหาของทีมที่มีอยู่ในแทบทุกส่วน 

ส่วนหนึ่งคือสภาพร่างกายนักเตะของลิเวอร์พูล ที่พังมาจากฤดูกาลก่อนที่พวกเขาต้องลุ้น 4 แชมป์แบบยาว ๆ ทำให้กลายเป็นทีมที่ลงแข่งขันมากที่สุดในยุโรป 

ผสมกับสไตล์การเล่นของพวกเขาที่ดุดัน ใช่พลังงานเยอะ เมื่อมีช่วงพักระหว่างฤดูกาลน้อยกว่าปกติ เนื่องด้วยฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้ มันก็ส่งผลให้ไม่สามารถฟิตร่างกายให้เต็มที่ดีแบบเต็มร้อย นั่นส่งผลถึงการเตรียมทีมตั้งแต่ต้น ยาวไปจนถึงอาการบาดเจ็บที่ตามมาอยู่เรื่อย ๆ แบบไม่ขาดสาย เป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขาเป็นอย่างมาก 

Jurgen_Klopp_Liverpool_2021-22.jpg

นอกจากร่างกายแล้ว สภาพจิตใจก็สำคัญ เพราะแน่นอนเรื่องของความมั่นใจของนักเตะ จะลดน้อยถอยลงเมื่อพวกเขาทำได้ไม่ดียามลงเล่นในสนาม และอย่างที่เราได้เห็นกันว่าลิเวอร์พูลเองก็ทำได้ไม่ดีมาอยู่เรื่อย ๆ มีผลงานที่น่าผิดหวังเกิดขึ้นตลอด 

มันทำให้ยิ่งเล่นยิ่งแย่ พวกเขาไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา ด้วยเนื่องด้วยความมั่นใจที่ตกลงไปเยอะ นักเตะส่วนใหญ่ในทีมลิเวอร์พูลกำลังพบเจอกับปัญหานี้ 

แม้กระทั่งการชนะแมนฯ ซิตี้ ก็ไม่สามารถดึงพวกเขากลับมาได้ ซึ่งเห็นชัดเจนว่าหลังจากโดนทีมรองบ่อนอย่าง ฟอเรสต์ขึ้นนำก่อน แข้งหงส์แดงก็รนกันไปหมด และมันกำลังส่งผลอย่างหนักไปถึงฟอร์มการเล่นของพวกเขาโดยตรง 

เราเห็นตัวอย่างกันมาแล้วว่าลิเวอร์พูลสามารถเล่นได้ในฟอร์มระดับท็อป เช่น เกมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พวกเขาเล่นได้ในฟอร์มซึ่งไม่ได้ต่างจากฤดูกาลก่อนเลย 

แต่เมื่อร่างกายไม่ได้ฟิตเท่าเดิม ต้องเจอการแข่งขันติด ๆ กัน บวกกับความมั่นใจที่ไม่แน่นอน เราก็เห็นว่าพวกเขาแพ้ได้แม้กระทั่งน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ตลอดทั้งฤดูกาลก่อนหน้านี้ชนะมาได้แค่เกมเดียว 

ความจริงที่ต้องยอมรับคือลิเวอร์พูลในตอนนี้ ไม่ใช่ทีมเดิมอีกแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในฤดูกาลนี้ ปัญหาจากร่างกายมันส่งผลต่อเนื่องถึงจิตใจ ตามที่เราได้เห็นกันในตอนนี้ 

Fabio Carvalhol Liverpool
Getty Images

ไม่มีใครดีกว่าคล็อปป์

ณ ตอนนี้หากเรามองงานที่ลิเวอร์พูล ว่าเข้ามาแล้วต้องทำอะไรบ้าง แก้ไขจุดไหนบ้าง ก็จะพบว่ามีปัญหาเต็มไปหมดภายในทีม ที่ดูแก้ไม่ได้ด้วยเวลาสั้น ๆ 

โดยเฉพาะในตอนนี้ ส่วนหนึ่งของปัญหาคือสภาพร่างกายนักเตะที่ส่งผลต่อเนื่อง มาจากช่วงเวลาพักผ่อนที่น้อยกว่าปกติ มันก็ดูจะแก้ไขอะไรได้ลำบากหน่อย เพราะไม่ได้มียาวิเศษจะมาช่วยให้นักเตะกลับไปเต็มร้อยได้อย่างเก่าภายในเวลาสั้น ๆ มันต้องมีระยะพักฟื้นร่างกายด้วยเช่นกัน 

ในสนามคล็อปป์ก็พยายามใส่วิธีใหม่ ๆ ลงไปช่วยนักเตะ เพียงแต่ว่ามันยังไม่สเถียรเท่านั้นเอง 

งานที่ลิเวอร์พูลในตอนนี้ เรามองไปที่ผู้จัดการทีมที่ยังว่างงานอยู่คงมีเพียงไม่กี่ชื่อที่จะทำได้แบบคล็อปป์ เชื่อได้เลยว่าถึงจะมีการเปลี่ยนโค้ชในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ ลิเวอร์พูลก็จะยังไม่สามารถกลับมาดีขึ้นได้อย่างทันตาเห็น เพราะไม่มีใครที่เก่งกว่าคล็อปป์จะมาทำงานตรงนี้ได้นั้นทำให้การเปลี่ยนแปลง ณ ตอนนี้ยังเป็นเวลาที่เร็วเกินไป

บางทีเยอร์เกน คล็อปป์ คงต้องการเวลามาก ๆ ในคราวนี้ อาจต้องใช้เวลาอีกครึ่งฤดูกาล หรือจนจบฤดูกาลก็ได้ เพราะว่าในตอนนี้คงไม่มีใครจะเข้าใจปัญหาทีมลิเวอร์พูลชุดปัจจุบัน ไปมากกว่าเขาอีกแล้ว

Jurgen Klopp smiles during Liverpool training at the State de France

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.