หนึ่งในม้ามืดที่หลายคนจับตามองในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์คือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของหลุยส์ ฟาน กัล ที่ก็เป็นชาติหนึ่งที่โด่งดังเมื่อเราพูดถึงฟุตบอลโลก แต่โชคยังไม่เคยเข้าข้างพวกเขาเลยกับการเข้าชิงชนะเลิศเพราะเข้าไปก็มักจะพลาดเสมอไม่ว่าจะมีทีมที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน
แต่แล้วหลังผ่านไป 2 เกมหลายคนเริ่มคิดแล้วว่าทีมชุดนี้จะไหวแค่ไหน พวกเขาอาจไปไม่ได้ไกลด้วยซ้ำ ในเมื่อจนถึงตอนนี้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมออกมาได้เลยแม้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก จุดอ่อนของพวกเขามีอยู่มากมาย และจำเป็นต้องพัฒนาทีมให้ดีกว่านี้เท่านั้นถึงจะมีโอกาสไปได้ไกล
เริ่มต้นเร็ว แต่ไม่สานต่อ
โคดี้ กัคโป ยิงประตูเปิดหัวให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ 6 นาทีแรกในเกมกับทีมชาติเซเนกัล โดยที่กัคโปรับบอลจาก เดวี่ คลาสเซ่น ก่อนยิงผ่านมือเฮอร์มัน กาลินเดซผู้รักษาประตูเอกวาดอร์ไปอย่างเฉียบคม
ถือเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อชั้นเหนือกว่ามาก และสามารถมองได้ถึงการเอาชนะ 2 เกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงยังเป็นการการันตีให้พวกเขาสามารถเข้าไปในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แบบไม่ยากเย็นนัก เหมือนกับในสายตาแฟนบอลหลายต่อหลายคนที่ก็วางเนเธอร์แลนด์เอาไว้ในกลุ่มทีมม้ามืดของฟุตบอลโลกครั้งนี้
รูปเกมเริ่มที่จะไม่ดีหลังจากที่ขึ้นนำไปได้ กลายเป็นเอกวาดอร์ที่เริ่มบุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เห็นว่าในฟุตบอลโลกคราวนี้พวกเขาไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน
โดยก่อนจบครึ่งแรก เปร์บิส เอสตูปินญาน สะกิดบอลจากจังหวะยิงไกลของ อังเจโล่ เปรเซียโด้เข้าประตูไปช่วงก่อนทดเวลาบาดเจ็บ แต่ดันมีแจ๊คสัน โปโรโซ่ ยืนล้ำหน้าอยู่ทำให้กลายเป็นถูกยึดประตูตีเสมอไป จบครึ่งแรกในแบบที่เนเธอร์แลนด์ไม่น่าพอใจ แม้ว่าพวกเขาจะขึ้นนำอยู่ และน่าจะครอบครองเกมได้ดีกว่านั้น
ในครึ่งหลังสิ่งที่เนเธอร์แลนด์ควรจะทำคือหาประตูต่อไปเพื่อปิดเกม แต่กลับกันกลายเป็นว่าเอกวาดอร์มีลูกฮึดมากกว่า พร้อมที่จะวิ่งเข้าหาราวกับนี่เป็นนัดตัดสินสุดท้ายของพวกเขาต่างกับเนเธอร์แลนด์
สุดท้ายก็เลยกลายเป็นประตูตีเสมอมาอย่างรวดเร็วจากประตูของ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย กองหน้าตัวเก่งของทีม ซึ่งพอเมื่อรวมการเล่นตลอดทั้ง 90 นาทีของเกมนี้ บอกได้อย่างเต็มปากว่าถ้าหากจะมีทีมไหนชนะ ทีมชาติเอกวาดอร์ดูจะเป็นทีมที่คู่ควรมากกว่า
มีแต่กัคโป
ลูกยิงเปิดหัวของ โคดี้ กัคโป ในเกมกับเอกวาดอร์เป็นรูปแบบที่ต่างจากเกมแรกกับเซเนกัลชัดเจน ประตูแรกของเขาเกิดจากการขยับที่ยอดเยี่ยม อ่านจังหวะได้ดีก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายเพื่อขึ้นโหม่งทำประตู
ส่วนประตูในเกมกับเอกวาดอร์เขาก็ยิงจากแถวหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปอย่างมั่นใจ แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการเล่น และความมั่นใจของเขาในชั่วโมงนี้ซึ่งสานต่อจากที่เขาเล่นในระดับสโมสรกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งเขาเองถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามอง
แต่กัคโปดูจะเป็นคนเดียวที่ได้เฉิดฉายอย่างจริงจังในทัวร์นาเมนต์นี้ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เพราะหมากที่หลุยส์ ฟาน กัลวางมา รวมถึงคุณภาพโดยรอบดูจะช่วยงานในเกมรุกของกัคโปได้น้อยมาก
อย่างในเกมกับเอกวาดอร์ กัคโปเล่นเป็นกองหน้าร่วมกับ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ก็เล่นไม่ดีจนถูกเปลี่ยนออกตั้งแต่ในช่วงต้นครึ่งหลัง หรืออย่าง เมมฟีส เดปาย ก็ลงมาเล่นแบบที่ร่างกายของเขาไม่ได้สมบูรณ์เต็มร้อย ทำให้ในเกมรุกของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ขาดคุณภาพไปอย่างชัดเจน
มีเพียงโคดี้ กัคโป เท่านั้นที่ทำได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน และน่าจะเป็นแค่คนเดียวที่ทำให้เกมรับของทีมคู่แข่งมีปัญหาในการรับมือ ขณะที่ทีเด็ดแนวรุกอื่นก็ไม่มีอะไรที่จะสร้างความน่ากลัวให้ทีมคู่แข่งได้เลย
เสียบอลง่าย
ในการครอบครองบอลของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ถือว่าเป็นวิธีการเล่นหลักของพวกเขา ซึ่งจำเป็นต้องมีการครองบอลให้อยู่กับฝั่งของพวกเขาให้มากที่สุด ก่อนที่จะต่อเกมขึ้นไปสร้างเกมรุก
แต่ในเกมกับทีมชาติเอกวาดอร์ พวกเขาครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยที่ 55 เปอร์เซนต์ นั่นเป็นตัวเลขที่ทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ครองบอลเหนือกว่าเอกวาดอร์สักเท่าไร
หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมของเนเธอร์แลนด์ ก็แสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ เพราะลูกทีมของเขาเสียบอลง่ายเกินไปทำให้การขึ้นเกมของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้เกมของพวกเขาไม่ลื่นไหลแบบที่ควรจะเป็น
มากไปกว่านั้น เมื่อนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ดวลกับนักเตะทีมชาติเอกวาดอร์ในการแย่งบอล ส่วนใหญ่แล้วกลายเป็นว่าสภาพร่างกายของนักเตะเอกวาดอร์ได้เปรียบและมักใช้ความเร็วเอาชนะได้อยู่เสมอ
ทำให้เห็นว่าในเกมนี้กลายเป็นทีมชาติเนเธอร์แลนด์พ่ายแพ้เอกวาดอร์ในแทบทุกส่วนของเกม อาจมีแค่สกอร์เท่านั้นที่พวกเขาโชคดีที่จบลงด้วยผลเสมอ
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จำเป็นจะต้องแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของพวกเขาให้มากกว่านี้ในการเล่น ถ้าหากต้องการจะไปได้ไกลในทัวร์นาเมนต์นี้ มันไม่น่าพอใจอยู่แล้วกับรูปเกมที่ได้เห็น ซึ่งอาจรวมทั้ง 2 เกมที่พวกเขาเล่นเลยก็ได้
โชคดีที่เกมนัดหน้าพวกเขาเจอกับทีมชาติกาตาร์ที่ตกรอบไปแล้ว อาจทำให้อะไรมันง่ายขึ้นในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่เมื่อเจอของแข็งพวกเขาก็อาจพบเจอปัญหาแบบนี้อีกก็ได้เหมือนกัน
