บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดประกาศว่าในเกมที่พวกเขาเปิดบ้าน เสมอ กับ บีจีปทุม ยูไนเต็ด 2-2 พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันและของที่ระลึกได้ถึง 11 ล้านบาท นับว่าเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเงินรางวัลแชมป์ไทยลีก ที่ตั้งเอาไว้ที่ 10 ล้านบาท
เกมที่ ช้างอารีน่า สู้กันอย่างสนุก เพราะทีมเยือนเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และลูกโหม่งของอิคสัน ฟานดี้ แต่เป็นเหมือนการปลุกทริปเปิ้ลแชมป์ปีล่าสุดให้ตื่นขึ้น เพราะพวกเขาตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกจุดโทษของ โกรัน เคาซิช และลูกยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 ของ ศุภชัย ใจเด็ด โดย นาทีสุดท้ายบีจี เหลือ 10 คน เมื่อ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ มาโดนเหลืองที่สอง
นอกจากแมตช์ที่ครบทุกรสชาติ และ เป็นการหยุดสถิติแพ้ต่อ บีจีปทุม เอาไว้ที่ 5 เกมรวดได้แล้ว สิ่งที่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและเป็นประเด็นที่น่าพูดถึงคือ เมื่อมีการประกาศจำนวนยอดผู้เข้าชมและรายได้จากการแข่งขันบนสกอร์บอร์ดในช้างอารีน่า
ปรากฏว่านัดนี้มีคนดู 21,648 คน คิดเป็นรายได้จากผู้ชม 1,409,870 บาท ขณะที่ยอดจากการจำหน่ายสินค้าที่สนามอยู่ที่ 9,719,137 บาท ส่งผลให้ยอดรวมจากรายได้นัดนี้ของบุรีรัมย์อยู่ที่ 11,129,007 บาท
เมื่อนำไปเทียบกับเงินรางวัลแชมป์ไทยลีก 1 ที่ต้องลงเตะตลอดทั้งฤดูกาลนั้นจะได้อยู่ที่ 10 ล้านบาท นับว่าการบริหารงานของ บุรีรัมย์ เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก
เช่นเดียวกับเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมสามารถจำหน่ายเสื้อออกหมดทั้ง 35,000 ตัว ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
และนี่คือยอดขายเสื้อในช่วงเปิดตัวชุดแข่งขันของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
- 2017- 35,500
- 2018 - 27,572
- 2019 - 40,196
- 2020/21- 49,164
- 2021/22- 20,271
สำหรับชุดเหย้าและเยือนของบุรีรัมย์ในซีซั่น มีราคาอยู่ที่ตัวละ 740 บาท