ทำความรู้จัก Super Ballon d'Or รางวัลในตำนานที่มีแข้งหนึ่งเดียวในโลกได้ครอง

Songsak Srisuk

ทำความรู้จัก Super Ballon d'Or รางวัลในตำนานที่มีแข้งหนึ่งเดียวในโลกได้ครอง image

แฟนบอลหลายคนคงคุ้นชินกับถ้วยรางวัล "บัลลงดอร์" กันมานานแสนนาน ที่จะมอบเป็นประจำทุกปีให้กับสุดยอดนักเตะผู้มีผลงานดีสุดตลอดฤดูกาลแข่งขัน แต่กระนั้นหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งโลกนี้ก็เคยมีรางวัลที่ชื่อว่า "ซูเปอร์บัลลงดอร์" มอบให้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม รางวัล ซูเปอร์บัลลงดอร์ กลายเป็นตำนานตลอดกาลก็เพราะว่ามันเป็นรางวัลพิเศษที่มีการจัดทำขึ้นมาแค่ครั้งเดียว และมอบให้กับนักฟุตบอลแค่คนเดียวในประวัติศาสตร์โลกนี้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นถ้วยรางวัล ซูเปอร์บัลลงดอร์ ยังพบกับจุดจบที่ไม่สวยงามและเป็นปริศนาดำมืด 

เรื่องราวของรางวัล "ซูเปอร์บัลลงดอร์" เริ่มต้นอย่างไร และมีจุดจบน่าเศร้าแค่ไหน ทีมงานของ The Sporting News Thailand สรุปมาให้แล้ว ติดตามเรื่องราวได้ที่นี่...

Super Ballon d'Or (ซูเปอร์บัลลงดอร์)      

ย้อนกลับไปปี 1989 นิตยสาร France Football (ฟรองซ์ ฟุตบอล) ผู้จัดรางวัลบัลลงดอร์ได้คิดค้นรางวัลพิเศษขึ้นมาจัดควบคู่กับรางวัลบัลลงดอร์แบบปกติด้วยการเพิ่มถ้วยรางวัล "ซูเปอร์บัลลงดอร์" ขึ้นมา ซึ่งจะวัดเกณฑ์จากนักฟุตบอลที่ทำผลงานดีที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่ 1959-1989 

โดยผู้เข้าชิงรางวัลซูเปอร์บัลลงดอร์ ล้วนก็เป็นเหล่าแข้งดังที่ผ่านการคว้าบัลลงดอร์มาทั้งนั้น เช่น โยฮัน ครัฟฟ์, มิเชล พลาตินี่, ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์, คาร์ล ไฮนซ์-รุมมินิเก, เควิน คีแกน และ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน เป็นต้น

ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลโลกที่นี่

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

สำหรับกติกาการโหวตคะแนนแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ได้แก่ การโหวตจากผู้ชมและผู้อ่าน, คณะกรรมการตัดสินฟุตบอลฟร้องซ์ และอดีตผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งผลปรากฏว่าผู้ชมและผู้อ่านโหวตให้ มิเชล พลาตินี่ เป็นผู้ชนะ ส่วนทางคณะกรรมการฟรองซ์ฟุตบอลและอดีตผู้ชนะบัลลงดอร์โหวตเลือก อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน

นั่นทำให้ ดิ สเตฟาโน ผู้เป็นตำนานตลอดกาล เรอัล มาดริด คว้ารางวัลพิเศษถ้วยเบ่อเริ่มนี้ไปครองด้วยเสียงโหวต 2 ต่อ 1 เสียง ขณะที่รางวัลบัลลงดอร์แบบปกติในปี 1989 ตกเป็นของ มาร์โก ฟาน บาสเท่น

เวลาต่อมา ถ้วยรางวัลซูเปอร์บัลลงดอร์ได้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ของสโมสร เรอัล มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาเบว จนกระทั่งเดือนกันยายนปี 2021 ลูกหลานของ ดิ สเตฟาโน่ ได้เวนคืนรางวัลทั้งหมดของเขาจำนวน 796 รายการ มาจากสโมสรเพื่อนำไปประมูลขายโดยไม่บอกเหตุผลที่แท้จริง หลังจาก ดิ สเตฟาโน่ เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 2014

L’Equipe

รางวัลทั้งหมดถูกนำไปประมูลกับบริษัท Julien ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางผู้ประมูลเผยว่าของแรร์ไอเทมอย่าง ซูเปอร์บัลลงดอร์ ถูกประมูลออกไปในราคา 187,500 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทย 8,255,000 บาท ขณะที่ถ้วยรางวัลบัลลงดอร์ปี 1957 และ 1959 ที่ ดิ สเตฟาโน่ ถูกประมูลออกไปสนนราคา 60,800 ปอนด์ (2,676,342 บาท) และ 54,400 ปอนด์ (2,394,622 บาท) ตามลำดับ  

นอกจากนี้ เหรียญแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 5 เส้นของ ดิ สเตฟาโน่ ก็โดนลอยแพขายเช่นกันโดยมันถูกปล่อยไปราคา 35,200 ปอนด์ (1,549,326 บาท)

ปัจจุบัน ไม่มีใครทราบว่าถ้วยรางวัล ซูเปอร์บัลลงดอร์ ที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในโลกมีสภาพเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหน และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริง แต่ที่น่าเศร้าที่สุดคือเรามิอาจทราบได้ว่าทำไมลูกหลานของ ดิ สเตฟาโน่ ถึงได้กล้าเอามรดกของบรรพบุรุษมาหากินแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 นิตยสาร France Football เคยพิจารณามอบรางวัล ซูเปอร์บัลลงดอร์ ให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ โดยเฉพาะแต่ทว่าก็ถูกยกเลิกไป แต่พวกเขายังไม่ล้มเลิกความพยายามเพราะทางนิตยสารวางแผนว่าในปี 2029 หรือวาระครบรอบ 30 ปีจากรางวัลซูเปอร์บัลลงดอร์ครั้งก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเราคงเดาไม่ยากเลยว่าใครจะได้ไปครอง

ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลโลกที่นี่

เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Songsak Srisuk

Songsak Srisuk Photo

นักเขียน The Sporting News Thailand ที่อยากถามว่าคุณฟังวงอะไร? ผมฟังวง "ไปส่งกู บขส. ดู๊