หนึ่งในนักฟุตบอลที่เรียกได้ว่าเป็นที่จดจำของแฟนลิเวอร์พูล แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ลงสนาม คือ ดีว็อค โอริกี้ หลังจากกองหน้าชาวเบลเยี่ยมรายนี้ลงมายิงประตูชัยในฐานะตัวสำรองให้ทีมได้บ่อยครั้ง
หลังจากกวาดแชมป์ทุกรายการในอังกฤษ รวมถึง แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับลิเวอร์พูล … โอริกี้ได้อำลาสโมสรไปในปี 2022 หลังหมดสัญญากับทัพหงส์แดง และชื่อของเขาก็เงียบหายไปจากหน้าสื่อ และการพูดถึงของแฟนบอล ไม่เหมือนสมัยอยู่กับลิเวอร์พูล
แฟนหงส์แดงหลายคนคงรู้ว่าเขาย้ายไปเซ็นสัญญากับเอซี มิลาน ทีมบอลจากอิตาลี แต่หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? หากคุณไม่ได้ติดตามนักบอลคนนี้จริง ๆ คงไม่มีทางรู้
ชีวิตฟุตบอลของ ดีว็อค โอริกี้ เป็นเป็นอย่างไรหลังออกจากลิเวอร์พูล? ติดตามไปพร้อมกับ The Sporting News
ดีว็อค โอริกี้ เป็นอย่างไรหลังออกจากลิเวอร์พูล?
หลังจากหมดสัญญากับลิเวอร์พูลในปี 2022 โอริกี้ย้ายไปเซ็นสัญญากับสโมสรดีกรีแชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีในเวลานั้น อย่าง เอซี มิลาน ด้วยสัญญายาว 4 ปีเต็ม
แม้ว่าการย้ายมาอยู่ที่มิลาน จะทำให้โอริกี้มีโอกาสลงสนามมากขึ้นตามที่ต้องการ และได้เล่นในฤดูกาล 2022-23 ไปถึง 36 นัด แต่ผลงานของเขากลับเข้าขั้นหายนะ …
เพราะตลอด 36 นัด โอริกี้ยิงไปแค่ 2 ประตู เท่านั้น!
ด้วยผลงานที่ไม่น่าจดจำระดับนี้ ทำให้เส้นทางลูกหนังของโอริกี้ที่มิลานจบลงภายในปีเดียว ทั้งที่เขาเซ็นสัญญากับทีมถึง 4 ปี
เพราะทันทีที่เข้าฤดูกาลใหม่ โอริกี้ถูกจับขึ้นบัญชีขาย ก่อนจะเป็น น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ พาเขากลับมาเล่นฟุตบอลที่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมออปชั่นซื้อขาด
แต่ชีวิตลูกหนังของโอริกี้ยังคงย่ำแย่ต่อไป เขาไม่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริงให้ฟอเรสต์แม้แค่เกมเดียว โดยผ่านการลงสนามไปแค่ 5 เกมในฐานะตัวสำรอง
ที่แย่กว่านั้นคือเขายังยิงประตูไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว รวมถึงได้ใบเหลืองติดตัวมาด้วย 1 ใบ
จะบอกว่าในตอนนี้ โอริกี้อยู่ในจุดต่ำสุดของอาชีพค้าแข้งของเขาก็ไม่ผิดนัก แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องใส่ใจอะไรก็ได้ เพราะเขาเคยคว้าแชมป์มากมายสมัยอยู่กับลิเวอร์พูล และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็จะเป็นฮีโร่ของแฟนบอลลิเวอร์พูลไปอีกนานเท่านาน
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand