ดีแคลน ไรซ์ กลายเป็นฮีโร่ของแฟนบอล อาร์เซนอล หลังกองกลางเจ้าของเสื้อหมายเลข 41 ซัดประตูให้ “ไอปืนใหญ่” แซงขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะของทีมสีแดงจากกรุงลอนดอนที่สกอร์ 3-1
ซึ่งตลอด 90 นาที ในเกมดังกล่าว แข้งค่าตัวระดับประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ไปครอบครอง พร้อมกับเข้าไปนั่งในใจของเหล่า “กูนเนอร์ส” เป็นที่เรียบร้อย
ถึงแม้ว่าจะลงเล่นให้กับทีมเพียง 5 นัด แต่การคว้าตัว ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทีม คือดีลที่คุ่มค่าที่สุดสำหรับอาร์เซนอลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพราะอะไรเราถึงคิดเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
ดีแคลน ไรซ์ จะประสบความสำเร็จกับไอปืนใหญ่หรือไม่ ร่วมสมัครเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันของอาร์เซนอลได้ที่นี่
ดีแคลน ไรซ์ : ดีลที่ตอบโจทย์ทุกอย่างสำหรับ “อาร์เซนอล”
อายุการใช้งาน
ชื่อของ ดีแคลน ไรซ์ ถือเป็นชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงแฟนบอลทั่วโลกมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเด็กหนุ่มที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขลอนดอนรายนี้สร้างชื่อกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาตั้งแต่อายุได้เพียง 18 ปีเท่านั้น
ซึ่งตลอดระยะเวลากับเวสต์แฮม ดีแคลน ไรซ์ ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ “เดอะ แฮมเมอร์ส” ด้วยการลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปทั้งสิ้น 204 นัด
ต่อด้วยการก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในศึกยูโร และฟุตบอลโลก ที่สำคัญที่สุด ก็คือการที่ ไรซ์ ได้รับเกียรติให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากตำนานของเวสต์แฮม อย่าง มาร์ค โนเบิล
แต่ใครจะเชื่อว่าทุกสิ่งที่ได้กล่าวไป ล้วนเกิดขึ้นกับ ดีแคลน ไรซ์ ก่อนวัยเบญจเพส เพราะปัจจุบันนี้กองกลางหน้าคมเลือดผู้ดี มีอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น
ซึ่งนั่นเท่ากับว่าหาก ดีแคลน ไรซ์ อยู่จนครบสัญญาฉบับแรกกับอาร์เซนอล (5 ปี) เขาจะมีอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะเลยแม้แต่น้อยสำหรับวงการฟุตบอลในยุคนี้
ที่สำคัญที่สุด ตลอดอาชีพการค้าแข้งที่ผ่านมา เราแทบไม่เคยเห็น ดีแคลน ไรซ์ บาดเจ็บแบบรุนแรงเลยแม้แต่ครั้งเดียว และยิ่งเมื่อกางสถิติออกมาก็จะพบว่า ตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 ดีแคลน ไรซ์ ไม่เคยลงเล่นต่ำกว่า 30 นัด แม้แต่ฤดูกาลเดียว
ดังนั้นแฟนบอลอาร์เซนอล จงมั่นใจได้เปราะนึงว่า ดีแคลน ไรซ์ จะไม่เจ็บออด ๆ แอด ๆ เหมือนกับที่ต้องพบเจอกับ โธมัส ปาร์เตย์ ในหลาย ๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา และเขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญให้กับทีมไปอีกยาวนาน
สารพัดตำแหน่ง
หลายคนคงคุ้นชินกับการเห็น ดีแคลน ไรซ์ ในบทบาทมิดฟิดล์ตัวรับหมายเลข 6 แต่อย่างไรก็ดี นักเตะรายนี้ มีสกิลเกมรุกมากกว่าที่หลายคนคิด
เพราะในฤดูกาลที่ผ่านมากับเวสต์แฮม ไรซ์ ถูกขยับมาเล่นเป็นกองกลางประเภท "Box-To-Box" และเฉิดฉายอย่างเต็มตัวในตำแหน่งนี้ ด้วยสถิติ 4 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 37 นัดในพรีเมียร์ลีก
ขณะที่เกมรับ ที่เป็นเหมือนของถนัดของเจ้าตัว ไรซ์ ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยสถิติการเข้าแทคเกิ้ลสำเร็จ 48% จากความพยายาม 79 ครั้ง ส่วนสถิติการตัดบอล ไรซ์ ทำได้มากถึง 63 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และที่สำคัญตลอดการลงเล่นพรีเมียร์ลีก ไรซ์ ทำพลาดจนทีมเสียประตูไปเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
จากสถิติหลาย ๆ อย่าง บ่งชีว่า ไรซ์ สามารถทดแทนการจากไปของ กรานิต ชาก้า ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แน่นอนว่า ไรซ์ ก็สามารถลงเล่นได้แบบไร้เครื่องหมายคำถาม
จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของอาร์เซนอล
นับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2019 กุนซือชาวสเปน เสริมนิดเติมหน่อย และค่อย ๆ ทำให้ อาร์เซนอล กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง หลังกลับมามีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
อาร์เตต้า เริ่มทยอยปล่อยนักเตะอายุเยอะออกจากทีมปีละคนสองคน เริ่มที่ เมซุต โอซิล ต่อด้วย ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง และรวมไปถึงในรายของ อเล็กซองเดร์ ลากาแซตต์
หลังจากนั้น อาร์เตต้า ก็เริ่มนำนักเตะหนุ่มวัยห้าว ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลัก ทั้ง บูกาโย ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และกัปตันทีมอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด จนทำให้ “ไอปืนใหญ่” ได้ส่วนผสมที่ลงตัว จนก้าวไปคั่วแชมป์กับแมนฯ ซิตี้ ในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การจากไปของ กรานิต ชาก้า และปัญหาอาการบาดเจ็บที่มีมาให้เห็นตลอด ของ โธมัส ปาร์เตย์ ทำให้ตำแหน่งกองกลางตัวรับเป็นปัญหาใหญ่ ๆ ที่ อาร์เตต้า ต้องแก้ไข
ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเป็น ดีแคลน ไรซ์ ที่เข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งนี้ และดูจะทำได้ดีเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ประเดิมสนามให้กับอาร์เซนอล
หลังจากนี้ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วฤดูกาลนี้ ดีแคลน ไรซ์ กับ อาร์เซนอล จะสมหวังหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ เพียงแค่ 5 เกมแรก มิดฟิดล์ทีมชาติอังกฤษก็แสดงให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า เงิน 105 ล้านปอนด์ ที่ อาร์เซนอล ยอมจ่ายไป นั้นจะคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน
