งานวิจัย เผย พรีเมียร์ลีก เป็นลีกยุโรป ที่นักเตะบาดเจ็บบ่อยที่สุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

The Sporting News

งานวิจัย เผย พรีเมียร์ลีก เป็นลีกยุโรป ที่นักเตะบาดเจ็บบ่อยที่สุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว image

จากงานวิจัย พบว่า พรีเมียร์ลีก คือลีกฟุตบอลที่นักเตะได้รับบาดเจ็บบ่อยที่สุด หากเทียบกับอีก 5 ลีกชั้นนำในยุโรปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกได้รับอาการบาดเจ็บจำนวนทั้งหมด 1,231 ครั้ง โดยเชลซีเป็นสโมสรที่นักเตะบาดเจ็บบ่อยที่สุดจำนวน 97 ครั้ง 

ตามมาด้วยอันดับสองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 81 ครั้ง อันดับสาม ลิเวอร์พูล 80 ครั้ง ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นักเตะได้รับบาดเจ็บ 67 ครั้ง

ค่าเสียหายจากการที่นักเตะพรีเมียร์ลีกได้รับอาการบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลที่แล้วทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 184.57 ล้านปอนด์

มีการบาดเจ็บของนักเตะเกิดขึ้น 4,810 ครั้ง ใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป เพิ่มขึ้น 20% จากฤดูกาล 2020/21 ค่าเสียหายจากการที่นักเตะใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป ได้รับอาการบาดเจ็บมีมูลค่ารวม 513.23 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 29% จากฤดูกาล 2020/21

เปแอสเช ทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ต้องใช้จ่ายเงินไปกับผู้เล่นที่บาดเจ็บมากที่สุดที่ 34.22 ล้านปอนด์ เรอัล มาดริด ตามมาเป็นอันดับสองที่ 33.95 ล้านปอนด์

การวิจัยได้ตั้งข้อสงสัยอีกว่า ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่นักเตะได้รับอาการบาดเจ็บนั้น จะส่งผลต่อสถานะทางการเงินของสโมสรในระยะยาวหรือไม่ และจะหาทางลดจำนวนการได้รับบาดเจ็บของนักเตะได้อย่างไร

โดยผลการศึกษาล่าสุดของ FifPro ชี้ให้เห็นว่า นักเตะมีโอกาสที่จะได้รับอาการบาดเจ็บมากขึ้น จากโปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่นมากกว่าในอดีต จนทำให้นักเตะไม่ได้มีเวลาพักผ่อนร่างกายอย่างเพียงพอ

นอกจากนี้ ยังมีการบาดเจ็บที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปีในทั่วยุโรป โดยเกิดขึ้น 326 ครั้งในฤดูกาล 2021/22 เพิ่มขึ้นมา 30 ครั้ง หากเทียบกับในฤดูกาล 2019/20

และยังมีการบาดเจ็บซ้ำหลายครั้งของนักเตะบางคน โดยมี 2,091 ครั้ง จากการบาดเจ็บ 4,810 ครั้ง ที่เป็นการได้รับบาดเจ็บซ้ำของนักเตะ เฉลี่ยแล้วนักเตะกลุ่มนี้จะบาดเจ็บ 2.3 ครั้งต่อคน

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.