ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ พ่ายแพ้เป็นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เรียบร้อยแล้ว ในเกมที่พวกเขาเหลือเพียง 9 คนในสนามเมื่อจบ 90 นาที และต้องปราชัยต่อเชลซีไป 4-1
ไก่เดือยทองได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก เดยัน คูลูเซฟสกี้ ตั้งแต่นาทีที่ 6 ก่อนที่พวกเขาจะมีนักเตะสองคนโดนไล่ออกจากสนาม และต้านทานเกมรุกของทางฝั่งสิงโตน้ำเงินครามไม่ไหว
ในเกมดังกล่าว มีการใช้ VAR ถึง 5 ครั้ง และมีถึง 5 จังหวะที่ลูกบอลส่งไปกองอยู่ก้นตาข่าย แต่กลับกลายเป็นลูกไม่ได้ประตู รวมถึงจังหวะเจ้าปัญหาที่ เดสตินี อูโดกี้ เสียบขาคู่ใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ผู้ตัดสินกลับให้แค่ใบเหลือง
เกิดอะไรขึ้นบ้างในเกมลอนดอน ดาร์บี้ เมื่อคืนนี้ ติดตามได้ที่นี่
หลายเหตุการณ์
เริ่มต้นกันที่นาทีที่ 6 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำจากลูกเปิดของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่ยัดเข้ามาแล้วไปแฉลบ ลีวาย โควิลล์ เข้าประตูไป
นาทีที่ 13 สเปอร์ส มีโอกาสจะได้ประตูเพิ่มจากลูกยิงของ ซน ฮึง-มิน ที่วิ่งเข้ามาชาร์จเปลี่ยนทางเข้าประตูไป แต่โดน VAR ริบคืน หลังมีจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
ต่อมา นาทีที่ 21 ราฮีม สเตอร์ลิง เกือบจะสวมบทฮีโร่ตีเสมอให้กับทีมสิงห์บลูส์ได้ หลังเลี้ยงเดี่ยวหลุดไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงเข้าไป แต่โดน VAR ริบคืนเพราะมีจังหวะแฮนด์บอลเสียก่อน
14 นาทีต่อมา มอยเซส ไคเซโด้ ซัดไกลสุดสวยให้ เชลซี ตีเสมอ 1-1 อีกครั้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ประตูถูกริบคืน เนื่องจาก VAR มองว่า นิโคลัส แจ็คสัน ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และมีโอกาสเล่นฟุตบอลก่อนที่จะเข้าประตู
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น VAR ได้ดูอีกเหตุการณ์หนึ่งด้วย นั่นก็คือจังหวะที่ คริสเตียน โรเมโร สกัดโดนบอลก่อน แต่ดันเปิดปุ่มค้างใส่เพื่อนร่วมชาติอย่าง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ในกรอบเขตโทษ จึงทำให้ผู้ตัดสินให้จุดโทษกับ เชลซี และเป็นใบแดงของ โรเมโร จากนั้น โคล พาล์มเมอร์ แนวรุกของสิงโตน้ำเงินคราม ก็ยิงเข้าไปไม่เหลือ เชลซี ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 37 เชลซี เอาบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้อีกครั้ง จากจังหวะเข้าชาร์จของ แจ็คสัน แต่สุดท้ายก็โดนยกธงจับล้ำหน้าเหมือนเดิม
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นาน สเปอร์ส ต้องมาเหลือ 9 คน หลัง เดสตินี อูโดกี้ มาโดนใบเหลืองใบที่ 2 จากจังหวะสกัดพลาดใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง
จากนั้น สเปอร์ส ที่เหลือ 9 คน ก็สู้สุดใจ และเสี่ยงที่จะเสียประตูหลายครั้ง แต่ กูเยลโม่ วิคาริโอ นายด่านชาวอิตาลียังช่วยไว้ได้
จนมาถึงในนาทีที่ 76 เชลซี ได้ประตูออกนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะที่แนวรับของ สเปอร์ส เช็คล้ำหน้าพลาด และ สเตอร์ลิง ได้หลุดมาเปิดให้ แจ็คสัน ได้ชาร์จ เข้าไปจ่อ ๆ
แต่นาทีที่ 79 สเปอร์ส ก็เกือบได้ประตูตีเสมอ 2-2 แบบทันควัน จากจังหวะที่ โขกบอลมาให้ เอริค ดายเออร์ ที่รออยู่ทางขวาของกรอบเขตโทษซัดเข้าไป แต่สุดท้ายโดนจับล้ำหน้า
อย่างไรก็ตาม สุดท้าย นาทีที่ 90+4 และ 90+8 เกมก็ขาด หลัง นิโคลัส แจ็คสัน เบิ้ล 2 ลูกให้กับสิงห์บลูส์ในช่วงท้าย ทำให้สุดท้ายเป็น เชลซี ที่โดนนำก่อน พลิกเอาชนะ สเปอร์ส ที่เหลือ 9 คนไปได้ 2-1 และเป็นแฮตทริคของดาวเตะชาวเซเนกัลด้วย
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand