คิลิยัน เอ็มบัปเป้ : ความหวังการป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกของทีมชาติฝรั่งเศส

Nuttanon Chankwang

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ : ความหวังการป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกของทีมชาติฝรั่งเศส image

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ พิสูจน์ว่าเขาคือของจริงในฟุตบอลโลกครั้งนี้หลังจากยิงไปแล้ว 5 ประตู พาทีมชาติฝรั่งเศสแชมป์เก่า ไล่ล่าเส้นทางป้องกันแชมป์ต่อไป

ตลอดช่วง 2 เกมที่ทีมชาติฝรั่งเศสลงเล่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ มันเต็มไปด้วยความกังวลจากโดยรอบเกี่ยวกับเรื่องของอาถรรพ์แชมป์เก่าในรายการฟุตบอลโลกที่อาจจะโชว์ฟอร์มได้ไม่สมกับการเป็นทีมแชมป์เก่า 

เพราะใน 3 ครั้งหลังสุดทีมแชมป์เก่าที่ตั้งใจจะมาป้องกันแชมป์ แม้ว่าตัวผู้เล่นจะดี หรืออย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นมักลงเอยด้วยการตกรอบแรกฟุตบอลโลกด้วยฟอร์มที่เละเทะ ไม่ว่าจะอิตาลี , สเปน หรือเยอรมัน ไม่มีทีมไหนรอดเลย หรืออาจรวมฝรั่งเศสที่เล่นในฐานะแชมป์เก่าเมื่อปี 2002 ด้วยก็มีสภาพที่ไม่ได้ต่างกัน 

แต่ดูเหมือนว่าการที่ทีมชาติฝรั่งเศสมี คิลิยัน เอ็มบัปเป้ อยู่ในทีมจะช่วยพวกเขาได้มากเลยทีเดียว และทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย

เกมรุกได้ทุกรูปแบบ

ทีมชาติฝรั่งเศสอยู่ในกลุ่มที่พวกเขาต้องเจอกับออสเตรเลีย, เดนมาร์ก และตูนิเซีย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่หนักมากนักหากดูจากชื่อชั้นของแต่ละชาติ โดยในเกมแรกพวกเขาขยี้ออสเตรเลียไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 และเอ็มบัปเป้ยิงประตูในเกมนั้นด้วยถือเป็นการเริ่มต้นในฟุตบอลโลกอย่างสวยงาม 

จะเห็นได้ว่าในเกมนั้นเอ็มบัปเป้ทำประตูได้จากลูกโหม่ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทางถนัดของเขาแต่ก็สามารถที่จะทำได้แบบยอดเยี่ยมในประตูที่ฝรั่งเศสทิ้งห่างออกไป 

ก่อนที่จะมาถึงเกมกับเดนมาร์ก ที่เอ็มบัปเป้ได้เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ โดยที่เขาเป็นคนสร้างทุกอย่างด้วยตัวเองสำหรับประตูแรก ที่ลากบอลมาทางริมเส้นก่อนจะทำชิ่งกับเตโอ เอร์นานเดซ แล้วไปหาจังหวะในการจบสกอร์จนได้ ทั้งที่ผู้เล่นแนวรับของเดนมาร์กยืนอยู่กันเต็มพื้นที่ 

Kylian Mbappe of France at World Cup vs Denmark celebrates
Getty Images

ส่วนลูกที่ 2 เป็นอีกครั้งที่เขาได้ไปอยู่ในจุดนัดพบก่อนจบสกอร์ สมกับการเป็นยอดกองหน้าที่สมบูรณ์แบบ เขาทำเกมรุกได้ในทุกรูปแบบ จะเล่นในพื้นที่ริมเส้นด้วยความเร็ว หรือเล่นแบบกองหน้าตัวจบก็สามารถทำได้ นั่นนำมาซึ่งความหลากหลายให้กับแนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส 

ความมหัศจรรย์

คงไม่มีคำไหนเกินไปกว่า เอ็มบัปเป้คือนักเตะมหัศจรรย์ เขาถูกนำมาพูดเปรียบเทียบกับเปเล่ หรือ โรนัลโด้ของทีมชาติบราซิล นั่นหมายความว่าเขาทำให้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมขนาดไหน 

แม้แต่ในเวทีใหญ่ ๆ อย่างฟุตบอลโลกเขาก็ยังสามารถเล่นได้แบบไร้ปัญหา แบบที่ว่าในตอนนี้เขาสามารถทำประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ไปแล้วถึง 3 ประตู เป็นกลุ่มลุ้นดาวซัลโว 

รวมถึงในฟุตบอลโลกถ้าหากนับทั้ง 2 ครั้ง เขาก็ยิงประตูไปแล้วถึง 9 ประตู ในวัยแค่ 23 ปี มีเวลาอีกมากให้เขาได้ยิงเพิ่มเติมในการทำลายสถิติในการเล่นฟุตบอลโลก 

Getty Images

ส่วนในเกมการแข่งขันจะเห็นเลยว่า อย่างเกมที่เจอกับเดนมาร์ก เมื่อเริ่มต้นครึ่งหลังการแก้เกมของแคสเปอร์ ฮุลมันด์ ผู้จัดการทีมชาติเดนมาร์กที่สั่งให้แนวรับยืนประชิดตัวกันมากขึ้นก็ทำให้แนวรุกฝรั่งเศสมีปัญหาเหมือนกัน 

มีเพียงเอ็มบัปเป้ ที่แก้สถานการณ์ได้ด้วยความมหัศจรรย์ของเขาเอง เริ่มทุกอย่างด้วยตัวเอง ท้าดวลความเร็ว หรือหาที่ว่างในการกระชากบอล ซึ่งเขาเองก็รู้ว่าคงยากจะมีใครหยุดเขาได้หากมีพื้นที่แบบนี้ 

เขาเองเป็นจุดเริ่มต้นในการยิงประตูปลดล็อคที่ขึ้นนำ ก่อนที่จะมายิงปิดประตูที่ 2 จนฝรั่งเศสเก็บ 3 แต้มไปได้ เชื่อเลยว่าหลายทีมอาจเจอปัญหาแน่ถ้าเจอเกมแบบนี้ แต่เมื่อฝรั่งเศสมีเอ็มบัปเป้อยู่ทั้งคน จากที่จะเจอปัญหา หลายปัญหาก็หมดไปในทันที 

อิสระในการเล่น

นอกจากความยอดเยี่ยมของเอ็มบัปเป้ เรายังต้องย้อนมาให้เครดิตกับผู้จัดการทีมอย่างดิดิเยร์ เดส์ชองส์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเราจะเห็นได้เลยว่านักเตะทุกคนในทีมชาติฝรั่งเศสจำเป็นจะต้องมีหน้าที่เพิ่มเติมในเกมรับ 

ไม่เว้นแม้แต่ตัวรุก อ็องตวน กรีซมันน์ ต้องช่วยแย่งบอลตรงกลางสนาม, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ วิ่งลงมาเหมือนเป็นกองกลางอีกคน หรือ อุสมาน เดมเบเล่ ก็วิ่งในพื้นที่ฝั่งขวาแบบขึ้นสุดลงสุดจนคล้ายกับว่าเขาเล่นวิงแบ็คเลยทีเดียว แม้ว่าจะเล่นเป็นปีกที่สร้างเกมรุกก็ตาม 

ขณะที่งานของเอ็มบัปเป้ ทางด้านเดส์ชองวางเอาไว้คือให้เล่นเกมรุกอย่างเต็มสูบ 

อิสระที่เอ็มบัปเป้ได้รับ ส่งผลให้เขาไม่ต้องมีหน้าที่ในเกมรับมากจนเกินไป และได้มีสมาธิในการเข้าเล่นงานแนวรับคู่แข่งได้ง่าย 

เขารอบอลตรงพื้นที่ริมเส้นฝั่งซ้าย รอเพื่อนร่วมทีมจ่ายให้ที่ว่างแล้ววิ่งเข้าหาแนวรับคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนว่ายังไงหากเป็นการดวลกันตัวต่อตัว เอ็มบัปเป้มีโอกาสเอาชนะได้สูง ซึ่งมันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากับทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้ที่กำลังลงแข่งเพื่อป้องกันแชมป์โลก 

Kylian Mbappe
(Getty Images)

เป็นอีกครั้งที่เอ็มบัปเป้ได้แสดงความมหัศจรรย์ให้โลกฟุตบอลได้เห็น เขาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติฝรั่งเศสล้างอาถรรพ์แชมป์เก่าลงได้สำเร็จ จนกลายเป็นทีมแรกที่การันตีในการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยทีมที่ยอดเยี่ยม

แต่ความยอดเยี่ยมของเอ็มบัปเป้ไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาทำคนเดียว 2 ประตู พาฝรั่งเศสเอาชนะโปแลนด์ 3-0 ไปต่อกับเส้นทางป้องกันแชมป์

การที่พวกเขามีนักเตะมหัศจรรย์แบบนี้ ดูแล้วอาจเป็นเรื่องยากที่จะมีใครมาหยุดความร้อนแรงของทีมแชมป์เก่าลงได้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Nuttanon Chankwang

Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand