จากดาวสู่ดิน : คาลวิน ฟิลลิปส์ ฟอร์มตกกู่ไม่กลับเพราะอะไร?

Nattanan Chankwang

จากดาวสู่ดิน : คาลวิน ฟิลลิปส์ ฟอร์มตกกู่ไม่กลับเพราะอะไร? image

คาลวิน ฟิลลิปส์ ย้ายสู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2022 นี่คือการย้ายทีมที่ถูกจับตาไม่น้อยในเวลานั้น เพราะกองกลางรายนี้ไม่เพียงเป็นกำลังหลักของลีดส์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นแข้งทีมชาติอังกฤษดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมของทัพสิงโตคำรามในฤดูกาล 2020–21 และเป็นตัวหลักในชุดรองแชมป์ยูโร 2020

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองปี ฟิลลิปส์กลายเป็นนักเตะที่ล้มเหลวที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ทัพเรือใบสีฟ้า เขาถูกปล่อยยืมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด หลังลงเล่นเป็นตัวจริงในถิ่นเอติฮัดเพียง 6 เกมจากทุกรายการ ซึ่งหลังจากลงเล่นให้ทัพขุนค้อนได้ไม่นาน เขาถูกขนานนามว่าเป็น “การย้ายทีมแบบยืมตัวที่แย่ที่สุดตลอดกาล”

เกิดอะไรขึ้นกับคาลวิน ฟิลลิปส์ กันแน่ ? นี่คือเรื่องราวของเขาตลอดเวลา 18 เดือนกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปลี่ยนนักเตะอนาคตไกลของทีมชาติอังกฤษ สู่แข้งหมดประโยชน์ที่ทุกคนเบือนหน้าหนี

ล้มเหลวครั้งใหญ่ที่แมนฯ ซิตี้

Getty Images

เช่นเดียวกับนักเตะส่วนใหญ่ที่เพิ่งย้ายเข้าสู่เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นฤดูกาลแรก คาลวิน ฟิลลิปส์ เริ่มต้นบทบาทของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะตัวสำรองเป็นหลัก โดยเจ้าตัวพลาดการลงสนามในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2022 เนื่องจากใช้เวลาตลอด 90 นาทีบนม้านั่งสำรอง และได้โอกาสลงเล่นเพียงนาทีเดียว ในเกมพรีเมียร์ลีก 2022-23 นัดเปิดสนามกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ยังไม่ทันจะปรับตัวกับระบบการเล่นของเป๊บ กวาดิโอล่า ได้เท่าไหร่ ฟิลลิปส์กลับโชคร้ายได้รับอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ในเกมอุ่นเครื่องกับบาร์เซโลน่า อาการบาดเจ็บครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นที่เจ้าตัวต้องเข้ารับการผ่านตัด ส่งให้เจ้าตัวห่างหายจากการลงสนามไปนานกว่าสองเดือน รวมแล้วเป็นการพลาดช่วยทัพเรือใบสีฟ้ารวม 18 เกม

กว่าฟิลลิปส์จะกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือกลงสนามให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แฟนบอลต้องรอนานถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ฟิลลิปส์ต้องเดินทางไปลงแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เจ้าตัวจึงพลาดโอกาสที่จะใช้เวลาปรับตัวเข้ากับแทคติกอันซับซ้อนของกวาดิโอล่าอีกครั้ง

ฟิลลิปส์มีส่วนร่วมกับทัพสิงโตคำรามอยู่ไม่น้อยบนเวทีฟุตบอลโลก แต่ผลงานดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่กองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้ได้หลุดจากแผนการทำทีมของทัพเรือใบสีฟ้าในฤดูกาล 2022-23 เป็นที่เรียบร้อย กวาดิโอล่าแทบไม่ใช้งานฟิลลิปส์เลยหลังจากนั้น และที่สำคัญผู้จัดการทีมชาวสเปน ยังเลือกวิจารณ์ลูกทีมรายนี้ออกสื่อในเรื่องที่เขามีน้ำหนักตัวมากเกินไป หลังเดินทางกลับจากกาตาร์

“เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่เขากลับมาที่นี่พร้อมกับน้ำหนักตัวที่มากเกินไป เขาไม่ได้กลับมาในสภาพที่พร้อมจะฝึกซ้อม และลงเล่นให้กับเรา” กวาดิโอล่ากล่าวถึงสถานการณ์ของฟิลลิปส์ในช่วงเวลานั้น

แม้ฟิลลิปส์จะปฏิเสธว่าเขาไม่ได้น้ำหนักเกินเหมือนอย่างที่กุนซือชาวสเปนอ้าง แต่สถานการณ์ของเขาในถิ่นเอติฮัดก็ไม่ได้ดีขึ้น สรุปแล้ว ฟิลลิปส์ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลดังกล่าวเพียงสองนัด และมีส่วนร่วมกับฤดูกาลอันเป็นประวัติศาสตร์ทริปเปิลแชมป์ของทัพเรือใบสีฟ้า เพียง 593 นาที เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยลงเล่นเป็นตัวจริงบนเวทีแชมเปียนส์ลีกเลย

ไม่เคยเป็นที่รักของเป๊บ

Getty Images

ความจริงแล้ว คาลวิน ฟิลลิปส์ ไม่ได้มีแค่ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเท่านั้นในฤดูกาลแรกของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องทัศนคติที่ไม่ยอมพัฒนาตัวเองเพื่อแข่งขันกับเพื่อนร่วมทีม โดยเป๊บ กวาดิโอล่า กลับมาวิจารณ์ลูกทีมรายนี้ออกสื่ออีกครั้ง 

คราวนี้กุนซือชาวสเปนเอ่ยปากกระตุ้นให้ฟิลลิปส์ตั้งใจแข่งขันแย่งตำแหน่งกองกลางตัวรับกับโรดรี้ให้มากกว่านี้ เพราะสำหรับกวาดิโอล่า การแข่งขันของผู้เล่นจะส่งผลดีกับทีมโดยภาพรวม

ฟิลลิปส์พยายามจะพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้โอกาสลงสนามมากกว่านี้ มีการเปิดเผยว่าเขาฝึกซ้อมในยิมเพิ่มขึ้นจากปกติ รวมถึงมีการดูแลสภาพความฟิตของตัวเอง แม้จะเป็นช่วงพักผ่อนจากการแข่งขัน ฟิลลิปส์ทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด และกลับมาเป็นตัวเลือกที่ใช่ในสายตากุนซือชาวสเปน

น่าเสียดายที่กวาดิโอล่าไม่เคยเห็นคุณค่าในความพยายามเหล่านั้นของฟิลลิปส์ ค่อนข้างชัดเจนว่าความเชื่อใจที่เขามีต่อกองกลางทีมชาติอังกฤษได้หมดสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้ลงเล่นเลยในฐานะตัวจริงตลอด 9 นัดแรกของฤดูกาล 2022-23 และเมื่อเขาได้รับโอกาสออกสตาร์ทครั้งแรกในเกมคาราบาว คัพ กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เจ้าตัวกลับพาทีมแพ้ 0-1

นับจากวันนั้น แม้เจ้าของตำแหน่งกองกลางตัวรับอย่างโรดรี้ จะโดนแบนหรือได้รับอาการบาดเจ็บ ฟิลลิปส์ก็ไม่เคยได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามแทนที่กองกลางชาวสเปนอีกเลย นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เส้นทางของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบลง 

เพราะทัพเรือใบสีฟ้าตั้งใจซื้อเขามาเพื่อแย่งตำแหน่งกับโรดรี้ตั้งแต่ต้น เมื่อฟิลลิปส์ไม่สามารถทำตามเป้าหมายนี้ได้ เขาก็ต้องเก็บของออกจากเอติฮัด สเตเดี้ยม

ความมั่นใจที่หายไป

“ผมจำได้ว่าวันนั้นผมกลับบ้าน และผมหงุดหงิดกับตัวเองมาก หลังจากนั้นผมเริ่มที่จะร้องไห้”

นี่คือคำพูดของฟิลลิปส์เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์ของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เห็นได้ชัดว่าปัญหาของนักเตะรายนี้ไม่ได้เกิดจากอาการบาดเจ็บ หรือเรื่องของความฟิต แต่เป็นสภาพจิตใจที่บอบช้ำ จากการถูกมองข้ามในถิ่นเอติฮัดมาอย่างยาวนาน

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่ผลงานของเขากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กลับเลวร้ายไม่แพ้กัน เมื่อเขาทำผิดพลาดจนส่งผลให้ทีมเสียประตู ตั้งแต่ลงเล่นให้ทัพขุนค้อนเป็นเกมแรก หลังจากนั้นจึงมาโดนใบแดงในเกมที่สี่ของเขากับทีม 

ก่อนพ้นโทษแบนมาเป็นส่วนสำคัญให้ทีมโดนนิวคาสเซิลพลิกแซง 4-3 โดยเจ้าตัวเป็นต้นเหตุทำทีมเสียจุดโทษ ขณะเวสต์แฮมนำ 3-1 ยิ่งกว่านั้น เขายังจ่ายบอลในเกมดังกล่าวสำเร็จเพียง 5 ครั้ง แต่จ่ายบอลเสียถึง 6 ครั้ง

GettyImages

ผลงานที่ย่ำแย่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ความมั่นใจของนักเตะรายนี้แทบไม่เหลือแล้วในปัจจุบัน สถานการณ์ของคาลวิน ฟิลลิปส์ ในขณะนี้จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่เหลือฟอร์มเก่งจากที่เคยเห็นในยูโร 2020 อยู่เลย เนื่องจากสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และฟอร์มตกต่อเนื่องตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา

ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Nattanan Chankwang

Nattanan Chankwang Photo

นักเขียนทั่วไปของ The Sporting News Thailand