เธียร์รี อองรี คือยอดกองหน้าระดับตำนานของอาร์เซนอล และพรีเมียร์ลีก การันตีได้จาก 228 ประตู จาก 377 เกม กับ “ไอปืนใหญ่” พร้อมกับกวาดความสำเร็จร่วมกับทีมอย่างมากมาย ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และเอฟเอ คัพอีก 3 สมัย
หลังจากโลดแล่นในลอนดอนเหนือมา 8 ปีเต็ม ในปี 2007 อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ก็ตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ บาร์เซโลนา ซึ่งเพียงแค่ฤดูกาลแรก หัวหอกเฟรนช์แมนก็ยังคงไม่ทิ้งลายยอดกองหน้า ด้วยการจัดไป 19 ประตู จบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม
กระทั่งในฤดูกาลต่อมา เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถูกดันขึ้นจากทีมชุดบี มาเป็นกุนซือให้กับทีมชุดใหญ่ อองรี ในวัยแตะเลข 3 ก็เริ่มได้รับโอกาสน้อยลง เนื่องจากเขาล้มเหลวในการแย่งพื้นที่ตัวจริงของทัพอาซูลกราน่า
ซึ่ง เธียร์รี อองรี ก็ได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ด้วยตัวเอง ในการให้สัมภาษณ์กับ แกร์รี่ ลินิเกอร์ โดยเขาเล่าว่าตัวเขานั้นดีไม่พอสำหรับบาร์เซโลนา และเคยถูกกุนซือเลือดกาตาลันรายนี้บังคับให้นั่งดูเพื่อนร่วมทีมบนอัฒจันทร์
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
“สิ่งที่ผมจะพูดถึงเป็ป เป็นอันดับแรก และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือเขาเป็นหนึ่งในคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยรู้จัก”
“แต่เป๊ป เป็นคนที่เฮี้ยบมาก และผมก็ประสบกับปัญหานี้บ่อยครั้ง บางครั้งผมก็เดินทางไปกับทีม แต่เขากลับให้ผมไปนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์”
“ตอนนั้นผมอายุประมาณ 32-33 แต่เขากลับให้ผมไปนั่งดูบนอัฒจันทร์ ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยพอใจ เหมือนกับผู้เล่นหลาย ๆ คน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมก็รู้ตัวว่าผมแย่เกินไปสำหรับทีม”
โดย เธียร์รี อองรี ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “เป๊ป ต้องการชัยชนะ และนั่นคือวิธีที่คุณเห็นมัน หากผมนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์ นั่นเป็นเพราะว่าเขาคิดว่าทีมจะสามารถชนะได้โดยที่ไม่มีผม”
ทั้งนี้ เธียร์รี อองรี ถือว่าประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลนา เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาคือหนึ่งในขุนพลชุดคว้า 6 แชมป์ ในฤดูกาล 2008-09 พร้อมกับฝากผลงานกับยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลันไว้ที่ 49 ประตู จากการลงเล่น 121 นัด ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลกับทีม
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand