ความสำคัญของฟาน กัล : กุนซือใหญ่ที่พลิกเนเธอร์แลนด์สู่เส้นทางลุ้นแชมป์โลก

Nuttanon Chankwang

ความสำคัญของฟาน กัล : กุนซือใหญ่ที่พลิกเนเธอร์แลนด์สู่เส้นทางลุ้นแชมป์โลก image

เนเธอร์แลนด์พลาดไม่ได้มาแข่งขันในฟุตบอลโลก 2018 นั่นจึงทำให้พวกเขาถูกมองข้ามในทัวร์นาเมนต์หนนี้ ทั้งที่ความจริงแล้ว เนเธอร์แลนด์ได้ฝากผลงานยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2014 ผ่านการคว้าอันดับ 3 ของการแข่งขัน 

ที่สำคัญ หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จกับทีมเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตัดสินใจกลับมาคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของเขา ซึ่งขณะนี้ กุนซือสุดเก๋ามากประสบการณ์มีโอกาสหักปากกาเซียน พาลูกทีมก้าวไปไกลถึงการเป็นแชมป์โลก ด้วยกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่า “ความแน่นอน” สำคัญที่สุดในการคว้าชัยชนะ

คอนโทรลเกม

การคอนโทรลเกมของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นวิธีการเล่นฟุตบอลที่แฟนทั่วโลกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะนับตั้งแต่ยุค 70s เป็นต้นมา การครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งเพื่อสร้างเกมรุกเข้าใส่ ถือเป็นปรัชญาหลักของทีมอัศวินสีส้มที่แฟนบอลยุคเก่าหลงเสน่ห์ และมักหยิบมาพูดถึงกันอยู่เสมอ 

ฟุตบอลโลกครั้งนี้เองไม่ใช่ข้อยกเว่น เมื่อทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดปัจจุบันยังพยายามเดินตามปรัชญาแบบนั้นอยู่ อย่างไรก็ดี เนเธอร์แลนด์มีวิธีเล่นหลากหลายมากขึ้น เมื่อพวกเขาสามารถควบคุมเกมทั้งหมดให้อยู่ในมือ แม้กระทั่งยามไม่ได้ครองบอลอยู่กับฝั่งตัวเอง

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เนเธอร์แลนด์เอาชนะสหรัฐอเมริกา ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อ หลุยส์ ฟาน กัล ตั้งใจวางแทคติกให้ลูกทีมลงไปเล่นเกมรับเพื่อป้องกันเกมรุกของทีมยูเอสเอเป็นหลัก

และอย่างที่เราเห็นกันว่าแผนการของฟาน กัล ได้ผล กองหลังและกองกลางของเนเธอร์แลนด์ปิดพื้นที่การโจมตีได้อย่างเป็นระบบ ทำให้แนวรุกของสหรัฐอเมริกาเจอกับปัญหาแม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่า 

เมื่อเกมบุกของสหรัฐอเมริกาสไม่เกิดผล ทุกอย่างในสนามจึงเป็นไปตามที่ฝั่งของเนเธอร์แลนด์ต้องการ พวกเขากำลังคอนโทรลเกมทั้งหมดเอาไว้ในมือ ที่เหลือแค่หาโอกาสจบสกอร์ให้สำเร็จเท่านั้น

โดยเหตุผลหลักที่เกมรับเนเธอร์แลนด์มีคุณภาพขนาดนี้ นอกจากระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยมของฟาน กัล ที่เหลือก็ต้องยกเครดิตให้กับผู้เล่นอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, นาธาน อาเก้ และยูร์เรียน ทิมเบอร์ ที่เหนียวแน่นจริง ๆ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค

ยิ่งบวกกับการปิดพื้นที่จากแบ็คทั้ง 2 ข้าง เนเธอร์แลนด์ยิ่งแทบไร้จุดอ่อนในเกมรับ พวกเขาจึงกลายเป็นทีมที่เหนียวแน่นมาก จนสหรัฐอเมริกาทำอะไรแทบไม่ได้เลยทีเดียว 

เกมรุกที่แน่นอน

นอกจากเกมรับที่แน่นอนและเหนียวแน่น ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดนี้ยังมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยสตาร์หลักในเวลานี้คงหนีไม่พ้น โคดี้ กัคโป ดาวยิงตัวเก่งที่ซัดไปแล้วสามประตู ความยืดหยุ่นในการเล่นคืออาวุธหลักของเขาในตอนนี้ 

หลัง ฟาน กัล ปรับให้เขาลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และบางครั้งก็ให้เป็นกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ปีกซ้ายธรรมชาติอย่างกัคโป จึงกลายเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในทุกระบบของฟาน กัล

เมื่อบวกกับการกลับมาของแนวรุกคนสำคัญอย่าง เมมฟิส เดปาย ที่พร้อมลงเล่นแบบเต็มร้อยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้เนเธอร์แลนด์มีความแน่นอนในการจบสกอร์มากขึ้นไปอีก 

Getty Images

เพราะไม้ตายสำคัญของกัคโป และเดปาย คือการเคลื่อนที่ หากพวกเขาสามารถผลัดกันดึงตัวประกบ เพื่อเปิดช่องให้อีกคนเล่นงานได้ ไม่มีทางที่แนวรับสหรัฐอเมริกาจะต้านทานการทำประตูของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

สองประสานกองหน้าก็น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่เนเธอร์แลนด์ยังมีวิงแบ็คทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งโดดเด่นเรื่องเกมรุกไม่แพ้เกมรับ โดยเฉพาะ เดนเซล ดุมฟรีส์ ที่โชว์ฟอร์มยิง 1 ประตู จ่ายอีก 2 แอสซิสต์ ในเกมกับสหรัฐอเมริกา 

เคล็ดลับความสำเร็จตรงนี้เกิดจากฟาน กัล สั่งให้ดุมฟรีส์สอดเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษหลายจังหวะ และในจังหวะพื้นที่เปิด เขาจะไม่ต่างจากตัวรุกริมเส้นอีกคนที่พร้อมจบสกอร์เลยตลอดเวลา 

ขณะที่ ดาลีย์ บลินด์ โดดเด่นไม่แพ้กัน แม้ว่าเขาจะเชื่องช้ากว่าแบ็คอีกข้างไปบ้าง เนื่องจากอายุที่มากขึ้น แต่ด้วยความเข้าใจในระบบภาพรวม และประสบการณ์บนเวทีการแข่งขันระดับสูง บลินด์จึงถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์

รู้สถานการณ์

เมื่อถอยกลับมามองในระบบภาพรวม เนเธอร์แลนด์จึงกลายเป็นทีมที่มีความแน่นอนทั้งเกมรุกและรับ พวกเขาแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของทีมผ่านการยิงประตูสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาสำคัญ คือช่วงต้นครึ่งแรก และปลายครึ่งแรก ถือเป็นการปิดโอกาสทีมชาติสหรัฐไม่ให้มีเวลามาเอาคืนพวกเขา 

ส่วนครึ่งหลังเมื่อสหรัฐดันเกมรุกขึ้นมาสูง ฟาน กัล จึงเปลี่ยนแทคติกของเนธอร์แลนด์ให้เน้นเกมโต้กลับมากขึ้น และยังมีการส่ง สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ตัวรุกความเร็วสูงลงสู่สนาม รวมถึงส่ง ทึน คูปไมเนอร์ส กองกลางตัวจ่ายบอลมาสร้างจังหวะในเกมโต้กลับ 

นั่นทำให้หลังการเสียประตู 2-1 จากลูกยิงของฮาจี้ ไรท์ เนเธอร์แลนด์สามารถหยุดความคึกคักในการหาประตูตีเสมอของสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว ผ่านการยิงปิดกล่องโดย เดนเซล ดุมฟรีส์ ในอีกเพียง 5 นาทีถัดมา นี่แสดงให้เห็นว่านักเตะเนเธอร์แลนด์ชุดนี้ไม่มีแผ่ว และยังคงความแน่นอนแม้ช่วงท้ายเกม

Denzel Dumfries celebrates for Netherlands against USA
Getty Images

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจขำเมื่อ หลุยส์ ฟาน กัล บอกว่าเขาเชื่อมั่นว่าทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะสามารถไปถึงแชมป์โลกได้ด้วยนักเตะชุดนี้ แต่วันนี้ทุกคนคงเห็นแล้วว นี่ไม่ใช่การพูดล้อเล่นของฟาน กัล แต่มันคือความเชื่อมั่นของเขาจริง ๆ 

เมื่อ ฟาน กัล แสดงให้เห็นว่าตัวเองสามารถรวมใจ และสร้างระบบที่ลงตัวกับนักเตะชุดนี้ได้ การพูดถึงแชมป์โลกมันจึงมีความเป็นไปได้ตามฟาน กัล คาดหวัง นั่นจึงดูเหมือนว่า การรอคอยอันยาวนานของแฟนบอลเนเธอร์แลนด์ อาจสิ้นสุดลงก็เป็นได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Nuttanon Chankwang

Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand