ตั้งแต่วงการฟุตบอลเริ่มเข้าสู่ปี 2000 หรือศรรตวรรษที่ 21 หลาย ๆ ทีมก็เริ่มที่จะมองไปถึงเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจควบคู่ไปกับการแข่งขันในสนาม ซึ่งนั่นก็ทำให้การซื้อขายนักเตะนั้นต้องใช้เงินกันมากขึ้นจนมาถึงในยุคปัจจุบัน
โดยที่ค่าตัวของนักเตะนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากที่เราจะเห็นได้ในช่วงปี 1990 ว่าผู้เล่นแพงที่ค่าตัวแพงสุดนั้นจะอยู่ในช่วงหลักล้านยูโรหรือหลักล้านปอนด์เท่านั้น แต่พอกระโดดข้ามมาในปี 2000 ค่าตัวผู้เล่นที่แพงที่สุดนั้นก็ได้ไปแตะถึงหลักสิบล้านแล้ว
ซึ่งนั่นก็ยังไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเท่ากับช่วงหลังปี 2010 เป็นต้นมา เพราะในปี 2017 ได้มีสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกเกิดขึ้น ซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำลายสถิตินั้นลงได้
โดยครั้งนั้นเป็นการย้ายทีมจาก บาร์เซโลนา สู่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ของยอดนักเตะชาวบราซิลอย่าง เนย์มาร์ ซึ่งยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสต้องยอมจ่ายเงินให้กับ บาร์เซโลนา ไปถึง 222 ล้านยูโร (ประมาณ 7.9 พันล้านบาท)
หลังจากนั้นมาค่าตัวของนักเตะก็เริ่มเฟ้อ การซื้อขายหลักร้อยล้านเริ่มเป็นเรื่องปกติมากขึ้น และนั่นก็ทำให้หลาย ๆ สโมสรต้องใช้จ่ายเงินของตัวเองมากขึ้นตามค่าตัวของนักเตะไปด้วย
อย่างไรก็ตาม มีสโมสรอยู่ 10 ทีมด้วยกันที่ตั้งแต่เริ่มปี 2000 พวกเขาเป็นทีมที่ใช้เงินไปมากที่สุด แต่จะเป็นทีมไหนบ้างและใช้เงินไปเท่าไหร่ ติดตามได้ที่นี่
รายชื่อ 10 ทีมที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากสุดนับตั้งแต่ปี 2000
อันดับ | ทีม | เงินที่ใช้จ่าย |
1. | เชลซี | 2,824 ล้านยูโร (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) |
2. | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | 2,474 ล้านยูโร (ประมาณ 8.8 หมื่นล้านบาท) |
3. | บาร์เซโลนา | 2,309 ล้านยูโร (ประมาณ 8.2 หมื่นล้านบาท) |
4. | ยูเวนตุส | 2,291 ล้านยูโร (ประมาณ 8.1 หมื่นล้านบาท) |
5. | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 2,254 ล้านยูโร (ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท) |
6. | เรอัล มาดริด | 2,154 ล้านยูโร (ประมาณ 7.6 หมื่นล้านบาท) |
7. | ปารีส แซงต์-แชร์กแมง | 1,783 ล้านยูโร (ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท) |
8. | ลิเวอร์พูล | 1,759 ล้านยูโร (ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท) |
9. | อินเตอร์ มิลาน | 1,725 ล้านยูโร (ประมาณ 6.1 หมื่นล้านบาท) |
10. | ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ส | 1,574 ล้านยูโร (ประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท) |
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก