การเปลี่ยนแปลงของ ‘เควิน เดอ บรอยน์’ เบื้องหลังความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

The Sporting News

การเปลี่ยนแปลงของ ‘เควิน เดอ บรอยน์’ เบื้องหลังความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ image

กองหน้าป้ายแดงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเออลิ่ง ฮาลันด์ เป็นที่พูดถึงมากที่สุดเมื่อนึกถึงทีมเรือใบสีฟ้าในฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอน กองหน้ารายนี้ย้ายมาจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อมาแก้ปัญหาที่แมนฯ ซิตี้ ไม่มีกองหน้าตลอดช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

ด้วยจำนวน 11 ประตูจาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีกถือเป็นตัวเลขที่บ้าคลั่งมาก ๆ แต่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมันล้วนมีเหตุและผล และส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กองหน้าร่างยักษ์รายนี้โชว์ฟอร์มสุดยอด คือการเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของเควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เดอ บรอยน์ ทำหน้าที่ในฐานะคนปิดทองหลังพระที่ทรงประสิทธิภาพ และช่วยให้ทัพเรือใบสีฟ้าแข็งแกร่งทั่วแผ่นได้อย่างไร ติดตามไปพร้อมกับเรา 

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เควิน เดอ บรอยน์ ในฤดูกาลก่อนถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน กับ 15 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จาก 30 เกมในพรีเมียร์ลีก เป็นส่วนที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ 

แต่ท่ามกลางความสำเร็จนี้ เดอ บรอยน์ ต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่น มารับบทเป็นตัวจบสกอร์ด้วย ซึ่งเขาเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา บนเวทีพรีเมียร์ลีกด้วย 

โดยที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอกชัดเจนว่า กองกลางรายนี้ยิงประตูได้มากมายช่วย เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมได้แชมป์มาครองได้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นการใช้เดอ บรอยน์ ที่ดูผิดที่ผิดทาง เพราะเขาคือสุดยอดเพลย์เมคเกอร์ ไม่ใช่คนที่ควรก้าวขึ้นไปแบกภาระการจบสกอร์

โชคดีที่การได้ฮาลันด์ สิ่งที่เดอ บรอยน์ ต้องทำในฤดูกาลนี้คือกลับมาแอสซิสต์ นั่นคือหน้าที่หลักในการช่วยเพิ่มศักยภาพการยิงประตูให้กับเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และที่สำคัญกว่าคือ เดอ บรอยน์ได้กลับมาอยู่ในฐานะนักเตะจอมแอสซิสต์อีกครั้ง

ตอนนี้เขาทำไปแล้ว 6 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถือเป็นการช่วยให้ทีมสามารถสร้างเกมรุกได้ดีขึ้นไปอีก เพราะการจ่ายบอลก็เป็นของถนัดของกองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมคนนี้อยู่แล้ว 

กลับไปเป็นคนเดิม

หากจำกันได้ เควิน เดอ บรอยน์ โด่งดังมาจากการเป็นจอมแอสซิสต์ให้กับเพื่อน ตั้งแต่ตอนโชว์ฟอร์มโหดกับโวล์ฟสบวร์ก ในบุนเดสลีกา 

การเปิดบอลมากมายจนกระทั่งบาส ดอสต์ กลายเป็นกองหน้าฟอร์มแรงของลีกเยอรมัน ทั้งที่ตอนนี้หลายคนคงลืมกองหน้ารายนี้ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ เดอ บรอยน์ในการเป็นจอมเปิดป้อนได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ก่อนย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยซ้ำ

หลังทำไป 6 แอสซิสต์แล้วในพรีเมียร์ลีกในช่วงเวลาเริ่มต้น คงไม่ใช่เรื่องไกลตัวนักหากว่าเขาจะทุบสถิติการแอสซิสต์ต่อหนึ่งฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาเคยทำไว้ที่ 20 แอสซิสต์ โดยเฉพาะคุณภาพในแดนหน้าที่แนวรุกแต่ละคนของเรือใบสีฟ้า ซึ่งพร้อมจบสกอร์ให้กับเขาอยู่แล้ว

ในฤดูกาลนี้หากไปเทียบพื้นที่การเล่นของเดอ บรอยน์ ในภาพรวมทั้งฤดูกาลตั้งแต่ลงแข่งขันมา จะเห็นว่าเจ้าตัวได้ย้ายตัวเองไปอยู่ริมเส้นฝั่งขวามากที่สุด เพื่อที่จะเป็นพื้นที่ในการเปิดโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ดูเหมือนว่าเขาจะถนัดที่สุดสมัยอยู่กับโวล์ฟสบวร์กด้วยเหมือนกัน 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกปรับแนวทางมาให้เข้าทางเดอ บรอยน์ แบบนี้แล้ว คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากว่าเขาได้โชว์ฟอร์มสุดโหด ในการเปิดให้เพื่อนทำประตูอีกครั้งหนึ่งในฤดูกาลนี้  

Kevin de Bruyne of Manchester City
Getty Images

ทำสิ่งที่ดีที่สุด

เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนกลับมากลายเป็นจอมแอสซิสต์อีกครั้งว่า เขาแค่พยายามสร้างโอกาสให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนี่คือหน้าที่ของเขา 

กองกลางชาวเบลเยี่ยมได้รับคำสั่งมาจากผู้จัดการทีม ต้องเชื่อมั่นว่าเพื่อนจะยิงประตูได้  และนั่นคือสิ่งที่เขาคอยทำมาอยู่เสมอ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทัศนคติที่ฝังลึกว่า เขาจะต้องช่วยให้เพื่อน ๆ ทำประตูให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของทีม

ถึงเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีความต้องการที่ต่างออกไปในแต่ละเกม ที่แทบจะไม่เหมือนกันเลยก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสำหรับเดอ บรอยน์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เขาต้องลงไปทำให้ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการจ่าย หรือการทำประตูแบบในฤดูกาลก่อน 

โดยที่ความต้องการในฤดูกาลนี้ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือการขยับ เควิน เดอ บรอยน์ไปเล่นทางฝั่งขวาให้มากขึ้น เพื่อเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ เออลิ่ง ฮาลันด์ที่จะอยู่ในตำแหน่งสำคัญและพร้อมทำประตูอยู่เสมอ 

นั่นทำให้งานของทั้งฮาลันด์ และ เดอ บรอยน์นั้นง่ายขึ้นอีกเป็นกอง เพราะถือเป็นแทคติคที่เอื้อกับทั้งสองคน อีกทั้งทำให้นักเตะทั้งสองรายได้ทำในสิ่งที่ถนัด คนหนึ่งจ่าย อีกคนยิง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในภาพรวม 

การกลับมาอีกครั้งของจอมแอสซิสต์อย่าง เดอ บรอยน์ บอกเลยว่าคงเตรียมทุบอีกหลายสถิติแน่นอน 

หลังล่าสุดในพรีเมียร์ลีกเขาทำไปมากถึง 92 แอสซิสต์ เท่ากับสตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของลิเวอร์พูล โดยที่มีเกมลงเล่นน้อยกว่ามาก 

แน่นอนว่า เมื่อเขาสามารถโชว์ฟอร์มระดับท็อปได้ ทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ในตอนจบอีกครั้งก็เป็นได้ 

 

The Sporting News

The Sporting News Photo

Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.