หลังเชลซีประกาศปลด โธมัส ทูเคิลออกจากตำแหน่ง ชื่อของ แกรห์ม พอตเตอร์ กุนซือของไบรท์ตันก็ถูกพูดถึงในทันทีในฐานะหนึ่งในแคนดิเดตที่จะเข้ามาแทนที่ของทูเคิลที่เชลซี และดูเหมือนว่าฝั่งต้นสังกัดอย่างไบรท์ตัน จะไม่ขวางทางหากกุนซือรายนี้จะออกไปหาความท้าทายใหม่กับทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง เชลซี
ไบรท์ตันสามารถเอาตัวรอดมาได้ จากการปล่อยซึ่งเป็นตัวหลักคนสำคัญของทีมอย่าง อีฟส์ บิสซูม่าให้กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ มาร์ค คูคูเรญ่าให้กับเชลซี ซึ่งสาเหตุที่พวกเขายังอยู่สูงถึงอันดับที่ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกก็เพรา พอตเตอร์นั่นแหละ นี่คือเครดิตที่กุนซือชาวอังกฤษควรได้รับไปแบบเต็มๆ
แกรห์ม พอตเตอร์ เป็นกุนซือที่ถูกแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกพูดถึงมาตลอดว่า เขาคือกุนซือที่น่าสนใจในวิธีการเล่น รูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เขามีเสน่ห์แบบที่ปฎิเสธไม่ได้
ถึงแม้ว่าตัวเลือกผู้เล่นของเขาจะจำกัด คุณภาพผู้เล่นอาจจะไม่ดีพอบ้างกับแผนการเล่นของเขา แต่เขาก็ทำผลงานออกมาได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาเหลือเพียงรอเวลาที่ใช่เท่านั้นก่อนที่จะยกระดับตัวเองขึ้นไปอยู่ในทีมที่ใหญ่กว่าไบรท์ตัน และดูเหมือนว่าในตอนนี้มันจะถึงเวลาของเขาแล้ว
พ็อตเตอร์คือโค้ชจากทีมเล็กที่คุมทีมด้วยสไตล์เกมบุก บอลจากเท้าสู่เท้าที่เหมาะกับทีมใหญ่สุดๆ จนมีหลายคนบอกว่าโค้ชรายนี้ควรอยู่ในการพิจารณาหากทีมบิ๊ก 6 เลือกจะหาบิ๊กบอสคนใหม่ให้กับทีม คำตอบก็คือพ็อตเตอร์ เพราะเขาเป็นโค้ชที่ทำเกมรุกได้ดีมาก เขาให้แผนงานกับนักเตะแต่ละคนชัดเจน นั่นทำให้นักเตะสามารถเล่นเกมรุกร่วมกันอย่างเป็นทีมด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงแค่สร้างโอกาสทำประตูแต่เป็นโอกาสที่มีเปอร์เซนต์สูงที่จะเป็นประตูด้วย
แต่อย่าให้เกมรุกที่มีรูปแบบน่าสนใจมาทำให้คุณคิดว่าเขาคือโค้ชเกมรุกที่สร้างเกมหรือครองบอลเท่านั้น เกมรับก็เป็นอีกเรื่องที่เขามีไอเดียร์ชัดเจนให้กับนักเตะ โดยจริงๆแล้วเขาดังมากับการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่งด้วยเหมือนกัน เขาสั่งนักเตะชัดเจนว่าต้องการอะไรจากพวกเขาซึ่งก็เป็นการใช้ปรัชญาของเขาส่งต่อให้กับนักเตะอย่างชัดเจน โดยทุกๆทีมโดยเฉพาะในลีกระดับท็อปของยุโรปต้องการรูปแบบเกมรับที่มันชัดเจนเพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่งต่อไป ซึ่งพอตเตอร์สามารถทำตรงนั้นได้แบบสบายๆเลยจากผลงานของเขากับไบรท์ตัน
ปัญหาก็คือการที่ต้องยกระดับตัวเองขึ้นไปคุมทีมใหญ่ที่อาจถูกตั้งคำถามอยู่บ้าง เพราะการคุมทีมใหญ่ เขาต้องทำผลงานที่ดีตลอดเวลา โดยผลงานที่พอตเตอร์เคยทำในช่วงเวลากับไบรท์ตัน ซึ่งอาจเรียกว่านี่คือผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว คือการอยู่อันดับที่ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน
แต่ต้องอย่าลืมว่าอันดับที่ดีที่สุดของเขาในช่วงเวลากับไบรท์ตันคือการอยู่อันดับที่ 9 ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปด้วยซ้ำ นั่นทำให้ถ้าใครจะตั้งข้อกังขากับเขาก็ได้ไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย เพราะนอกจากนี้มีแต่ฤดูกาลที่เขาทำทีมหนีตกชั้นเท่านั้น
มันอยู่ที่การปรับตัวและยกระดับของพอตเตอร์นั่นแหละครับว่า เขาจะทำได้ดีแค่ไหน เพราะปัญหาในการคุมทีมใหญ่นั้นมันมีมากกว่าทีมเล็ก เอาแค่นักเตะในทีมที่ไบรท์ตันจะมีกี่คนที่ตั้งคำถามกับการตัดสินใจของคุณ เมื่อวางแทคติก , จัดตัวผู้เล่น 11 ตัวจริง หรือแม้แต่การซ้อม ขณะที่เชลซีเราเห็นในกรณีทูเคิลหรือหลายๆคนก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าพวกเขาตั้งคำถามหรือไม่เอาด้วยคุณอาจโดนเตะตกเก้าอี้ได้ง่ายๆเลย
หรือถ้าเริ่มทำผลงานไม่ดี การตั้งคำถามจากแฟนบอล , การโดนโห่ และแรงกดดันมหาศาลจะถาโถมมาในทันที โดยเฉพาะทีมที่มีวัฒนธรรมที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมเสมออย่างเชลซีแล้วด้วยนั้น พอตเตอร์คงไม่สามารถหนีความจริงตรงนี้ไปได้
ไหนจะเป็นเรื่องนอกสนามอีก ถ้าหากว่าไปเหยียบเท้าใครเข้าเป็นเรื่องขึ้นมาก็วุ่น แบบที่ทูเคิ่ลมีปัญหากับโบห์ลี่ในช่วงท้ายก่อนโดนไล่ออก เป็นต้น พอตเตอร์ต้องมาเจอกับสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปกับช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ไบรท์ตันโดยสิ้นเชิง
การที่เชลซีต้องการตัวพอตเตอร์มาคุมทีมถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ว่าเสี่ยงมากๆเหมือนกัน ถ้าหากเขาสามารถยกระดับทำกับเชลซีแบบที่ทำกับไบรท์ตันได้แบบไร้รอยต่อตรงนั้นก็บอกได้ว่าเชลซีเลือกคนถูกแล้วสำหรับการเป็นคนสร้างทีมยุคใหม่ของเชลซีในการกวาดแชมป์ต่อไปในอนาคตหลังจากนี้
